ศาลรับฟ้อง "คดีปาล์มอินโดฯ" โยงเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. สร้างหลักฐานเท็จ

14 มี.ค. 2562 | 04:31 น.

ศาลอาญาคดีทุจริตรับกรณี 'นิพิฐ' ยื่นฟ้องผู้บริหาร PTTGE กับ 4 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. โยง 'รสยา' ให้สินบนผู้ร่วมลงทุนอินโดฯ ร่วมมือสร้างหลักฐานเท็จคดีปาล์ม

มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำสั่งรับฟ้องไว้พิจารณาคดีหมายเลขดำที่ อท.1/2562 ที่ นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางรสยา เธียรวรรณ ผู้บริหาร บริษัท ปตท.กรีน เอ็นเนอร์ยี จำกัด (PTTGE) เป็นจำเลยที่ 1 กับพวกอีก 4 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประกอบด้วย นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ, นายสิญภพ หรือ สชญช์ รูปเตี้ย, นางสาววิไลลักษณ์ ศรีสุขใส และนายอัครกิตติ์ กีรติธนาไชยยศ

ฟ้องในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ฝ่าฝืนประมวลจริยธรรม ป.ป.ช. และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 โดยศาลฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 และการฟ้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 มาตรา 15 จึงรับฟ้องไว้พิจารณา
 

ศาลรับฟ้อง "คดีปาล์มอินโดฯ" โยงเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. สร้างหลักฐานเท็จ


คดีนี้สืบเนื่องจากนายนิพิฐยื่นฟ้องนางรสยาและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ว่า เดือน ส.ค. 2560 นางสาวสุภา ปิยะจิตติ ป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบสำนวน และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน ได้ร่วมปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ (นายนิพิฐ) โดย นางสาวสุภา ผู้รับผิดชอบสำนวนคดีที่โจทก์ถูกกล่าวหาและเป็นหัวหน้าคณะเดินทางไปสอบข้อเท็จจริงที่อินโดนีเซีย พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้กระทำเป็นกระบวนการหรือสนับสนุนให้นางรสยานำถุงสินบนไปให้ นายเบอร์ฮันนุดดิน ผู้ร่วมลงทุนโครงการพีทีเคพีไอ เพื่อจูงใจให้นายเบอร์ฮันนุดดินให้ถ้อยคำบิดเบือนข้อเท็จจริง นางสาวสุภาและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ร่วมเดินทางไปอินโดนีเซียกับนางรสยา จึงมีส่วนรู้เห็นกับนางรสยานำเงินหรือทรัพย์สินไปติดสินบนพยาน เพื่อชี้นำให้พยานให้ถ้อยคำบิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างพยานหลักฐานเท็จใส่ร้ายโจทก์ ก่อนที่ นางสาวสุภา ผู้รับผิดชอบสำนวน และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จะเข้าสอบสวนนายเบอร์ฮันนุดดิน 2 วัน


การเดินทางไปสอบสวนข้อเท็จจริงนายเบอร์ฮันนุดดินที่อินโดนีเซีย ได้รับรู้รับทราบเป็นอย่างดี ว่า นางรสยาเป็นผู้ถูกกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในคดีอาญา ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์โดยตรงกับคดีทุจริตปาล์มน้ำมันอินโดนีเซีย ทั้งยังทราบว่า นางรสยาถูกโจทก์ฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางหลายคดี ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปลอมเอกสาร แจ้งความเท็จ

นางรสยา ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. เป็นจำเลยคดีอาญาหลายคดี มีส่วนเกี่ยวข้องในการสอบสวนพยาน และเดินทางไปอินโดนีเซียช่วงเดียวกันกับคณะสอบสวนข้อเท็จจริง และช่วยเหลือให้ผู้กระทำความผิดไม่ให้ต้องรับโทษ และช่วยเหลือโดยตรงแก่นางรสยากับพวกในการสร้างพยานหลักฐานเท็จในอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ส่งคำถามล่วงหน้าให้นายเบอร์ฮันนุดดินผ่านหน่วยงาน KPK (ป.ป.ช. ประเทศอินโดนีเซีย) เพื่อให้พยานตอบคำถามหลายคำถาม รวมทั้งต่อมาเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2560 นางสาวสุภาและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้พิมพ์คำตอบหรือคำให้การที่นายเบอร์ฮันนุดดินให้การไว้เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้นายเบอร์ฮันนุดดินลงนาม แต่นายเบอร์ฮันนุดดินไม่ยอมลงลายมือชื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. มาพบนายเบอร์ฮันนุดดินอีก 2 ครั้ง ให้ลงลายมือชื่อในเอกสาร

การฟ้องครั้งนี้ ฟ้องได้เฉพาะเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. 4 คน ยกเว้นนางสาวสุภา ต้องยื่นเรื่องผ่านทางประธานรัฐสภา เพื่อเสนอเรื่องให้ประธานศาลฎีกาพิจารณาตั้งผู้ไต่สวนอิสระ ถ้าเห็นว่ามีมูล ให้ส่งสำนวนการไต่สวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนางสาวสุภาเพื่อขอความเห็น แต่นางสาวสุภาไม่ได้รับสาย

ศาลรับฟ้อง "คดีปาล์มอินโดฯ" โยงเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. สร้างหลักฐานเท็จ