ดันSMEsเหนือบุกเพื่อนบ้าน พาณิชย์มั่นใจโครงสร้างพื้นฐานพร้อมเอื้อการค้าโต8%

14 มี.ค. 2562 | 07:00 น.

พาณิชย์ปลุกเอกชน 17 จังหวัดเหนือบุกค้าเพื่อนบ้าน โดยใช้ประโยชน์จากแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ และ e-Form D เพิ่มความสะดวกในการค้าระหว่างประเทศ มั่นใจเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนภาคเหนือโตไม่ตํ่ากว่า 8%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้กระทรวงพาณิชย์ได้จัดโครงการเชื่อมโยงตลาดสร้างเครือข่าย(Net working)ทางการค้าการลงทุนระหว่างผู้ประกอบการไทยกับเพื่อนบ้านที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย โดยมีส่วนราชการ องค์กรธุรกิจ และผู้ประกอบการ 17 จังหวัดภาคเหนือเข้าร่วมแล้ว ยังเชิญผู้ประกอบการจากประเทศเพื่อนบ้าน คือ สปป.ลาวและเมียนมาเข้าร่วมด้วย

นางสาวสุทัศนีย์ ราชเรือง-ระบิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า โครงการนี้หวังว่าผู้ประกอบการที่เข้าร่วมจะสามารถใช้ประโยชน์จากระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ ทั้งแนวเส้นทาง R3A ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 4 ที่เชียงของ เชื่อมเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้วของสปป.ลาว ขึ้นไปถึงจีนตอนใต้ และเส้นทาง R3B จากอำเภอแม่สาย ผ่านเชียงตุงของเมียนมา ขึ้นไปถึงจีนตอนใต้เช่นกัน รวมทั้งสร้างโอกาสให้กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 5 จังหวัด คือเพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย และตาก มีโอกาสใช้ประโยชน์ในการเชื่อมโยงทางการค้ากับสปป.ลาว เมียนมา และอินเดีย

ดันSMEsเหนือบุกเพื่อนบ้าน พาณิชย์มั่นใจโครงสร้างพื้นฐานพร้อมเอื้อการค้าโต8%

โครงการนี้มีกิจกรรม 3 ส่วนคือ 1.การให้ความรู้เบื้องต้นว่าจะต้องพัฒนาตัวเองอย่างไร เพื่อให้สามารถแข่งขันในการค้ากับเพื่อนบ้าน 2.เปิดเวทีหารือปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันและกันเพื่อแก้ไข และ 3.สร้างความเชื่อมโยงการค้าการลงทุน โดยพาผู้ประกอบการไปออกบูธแสดงสินค้าทั้งในประเทศไทยและในประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน เชื่อว่าจะทำให้มูลค่าการค้าชายแดนของภาคเหนือเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 8% จากปีที่ผ่านมา

นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานเครือข่าย MOC บิสคลับประเทศไทย และผู้นำการเสวนาเรื่องความพร้อมของ ASIAN Single Window และการเจาะตลาดการค้าระหว่างประเทศผ่านลำนํ้าโขง กล่าวว่า กรมศุลกากรแจ้งความคืบหน้าว่า ปัจจุบันมี 37 หน่วยงานเข้าร่วม สามารถใช้ e-Form D ระหว่างอาเซียนจีนได้แล้ว อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติอาจจะมีข้อติดขัดอยู่บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐและเอกชนต้องช่วยแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ กันต่อไป

จากวงเสวนาครั้งนี้ทุกคนตระหนักแล้วว่า เรื่อง ASIAN Single Window ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ผู้ประกอบการที่ค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านจำเป็นต้องเรียนรู้ และเลือกใช้ให้เป็นประโยชน์กับส่งสินค้าของตนไปขายในต่างประเทศ ซึ่งทางเครือข่ายเร่งสนับสนุนสมาชิกและผู้ประกอบการ SMEs ไทย ให้สามารถส่งสินค้าของตนไปขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียนและจีน และประสบความสำเร็จหลายรายแล้ว

ในการหารือผู้แทนสปป.ลาวสะท้อนปัญหาว่า ผู้ประกอบการจีนเข้ามาคุมการค้าในลาวตั้งแต่ต้นนํ้าถึงปลายนํ้า ตัวอย่างเช่นการค้ากล้วยหอมที่มีปลูกมากในสปป.ลาวนั้น สวนที่เป็นของคนจีนลงทุนจะส่งเข้าจีนได้สะดวก แต่ถ้าเป็นของพ่อค้าหรือเกษตรกรลาวเองกลับถูกกีดกัน ทางการลาวต้องการใช้เวทีอาเซียนไปเจรจากับจีนเพื่อแก้ไขปัญหานี้่ แม้ต้องใช้เวลาบ้างแต่อยากเห็นการเริ่มต้นหาทางแก้ไขปัญหาที่เผชิญอยู่ นอกจากนี้ทางการลาวยังมีโครงการพัฒนาถนนแบบซุปเปอร์ไฮเวย์ จากเมืองบ่อเต็น ชายแดนจีน มาถึงเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว เพื่อเชื่อมกับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ข้ามแม่นํ้าโขงที่เชียงของด้วย หากแล้วเสร็จจะยิ่งเกิดการใช้ประโยชน์จาก ASIAN Single Window เพิ่มยิ่งขึ้น 

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,452 วันที่  14 - 16 มีนาคม พ.ศ. 2562

ดันSMEsเหนือบุกเพื่อนบ้าน พาณิชย์มั่นใจโครงสร้างพื้นฐานพร้อมเอื้อการค้าโต8%