SCBS แนะ 6 หุ้นใหญ่ ลุ้นMSCIเพิ่มน้ำหนักลงทุน
หุ้นไทยยังแข็งแกร่ง 2 เดือนแรกของปีปรับขึ้นกว่า 5.7% โบรกมองปัจจัยตปท.เริ่มเป็นบวก เจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนคาดได้ข้อสรุปเดือนมีนาคม และอานิสงส์เลือกตั้งไทย มั่นใจเงินต่างชาติไหลเข้าเดือนนี้ จากความคาดหวัง MSCI ปรับเพิ่มนํ้าหนักหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน แม้จะยังถูกกดดันจากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ แต่ดัชนีหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปี 2562 ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ปรับเพิ่มขึ้น 5.7% จากสิ้นปี 2561 สะท้อนความแข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ก็ต้องจับตาเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติว่าจะมีทิศทางแบบไหน เพราะในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ในสถานะขายสุทธิประมาณ 3,500 ล้านบาท
นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสินฯ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในเดือนมีนาคม 2562 คาดจะยังอ่อนตัวเพื่อตั้งรับ หลังจากผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทยปรับลดลง รวมถึงการขึ้นเครื่อง หมาย XD ของหุ้นรายตัวที่ส่วนใหญ่จะอ่อนตัวลง ทั้งนี้ จากสถิติย้อนหลัง 10 ปี ในเดือนมีนาคมดัชนีจะปรับเพิ่มขึ้น 8 ครั้ง และลดลง 2 ครั้ง ซึ่งมองว่าในปีนี้น่าจะปรับลดลง โดยคาดแนวรับอยู่ที่ 1594-1600 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1667-1670 จุด และหากมีกระแสเงินทุนไหลกลับคาดว่าจะอยู่ที่ 1700 จุด
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นมาแล้ว 4% สอดคล้องกับสถิติก่อนการเลือกตั้งที่ดัชนีหุ้นจะปรับขึ้นมาประมาณ 5% และหลังการเลือกตั้งคาดว่าจะปรับขึ้นอีกประมาณ 3% ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติคาดว่าจะกลับมาซื้อสุทธิในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน จากการคาดการณ์ว่า MSCI จะเพิ่มนํ้าหนักลงทุนในหุ้นไทย ส่วนปัจจัยในต่างประเทศยังคงเป็นบวก จากสถานการณ์เจรจาการค้าสหรัฐฯ กับจีนมีความคืบหน้ามากขึ้น
ด้านนายพรเทพ ชูพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์จำกัด (SCBS) กล่าวถึงทิศทางตลาดหุ้นเริ่มดีขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ เพราะปัญหาที่เป็นสิ่งที่หนักใจในปีที่แล้ว ในเดือนนี้ถือว่าได้คลี่คลายหมดแล้ว ทั้งเรื่องนโยบายการเงินของเฟดที่เคยกังวลว่าจะขึ้นดอกเบี้ยจนสูงเกินไป เฟดได้เริ่มผ่อนคลายและมีนโยบายจะลดการดูดสภาพคล่อง ขณะที่เศรษฐกิจจีนความร้อนแรงอ่อนตัวลงรัฐอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่ม และประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน คาดว่าเดือนนี้จะได้ข้อสรุป หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วและมีแนวโน้มจะยกภาษีออกหลายตัว
ในแง่ผลประกอบการ บจ. 9 เดือนแรกปี 2561 โต 12% (เทียบปีต่อปี) แต่ไตรมาส 4/2561 ติดลบ 38% ทำให้ผลประกอบการ บจ.ปี 2561 ไม่เติบโตหรือทรงตัวจากปี 2560 บล.ไทยพาณิชย์ฯคาด EPS ปีนี้จะอยู่ที่ 110-111 บาทต่อหุ้น ดังนั้นดัชนีหุ้นไทยปี 2562 เชื่อว่ายังแตะไปได้ถึง 1800 จุด
“เดือนนี้เราก็หวังว่าตลาดหุ้นไทยจะดีขึ้น และยังเป็นเดือนที่มีการเลือกตั้ง แต่ 5 วันสุดท้ายหลังการเลือกตั้ง ก็ขึ้นกับฟอร์มของรัฐบาลใหม่ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ดังนั้นหุ้นที่บล.ไทยพาณิชย์ฯ แนะนำในเดือนนี้จึงเน้นไปที่หุ้นใหญ่”
ได้แก่บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)(บมจ.) หรือ ADVANC จากธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังโตต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 42% เท่ากับปีก่อน รวมถึงนโยบายการจ่ายเงิน ปันผลที่ไมตํ่ากว่า 70% ของกำไรสุทธิ ส่วนปีนี้คาดผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4%
บมจ.อมตะ คอร์ ปอเรชัน (AMATA) คาดรายได้ในปีนี้มีแนวโน้มที่ดี จากการที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดิน 1,000 ไร่ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ AMATA ยังได้ขึ้นราคาขายที่ดินสำหรับ Amata City ชลบุรี จากไร่ละ 8.5 ล้านบาท เป็นไร่ละ 11 ล้านบาท และสำหรับ Amata City ระยอง จากไร่ละ 3.8 ล้านบาท เป็นไร่ละ 4.5 ล้านบาท, บมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) คาดการบริโภคภาคเอกชนเติบโตขึ้นต่อเนื่อง และจากการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนนี้
ขณะที่บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) คาดกำไรมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้ประมาณ 18% จากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นของ WMC หลังจากทำกำไรเป็นครั้งแรกในปี 2561 และบริการผู้ป่วยประกันสังคมที่เติบโตมากขึ้น จากที่บริษัทได้โควตาพิเศษกลับมาอีกครั้ง, บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) คาดว่ากำไรปกติเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ที่ 14% โดยรายได้จะเพิ่มขึ้น 11% จากเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นและการให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางเพิ่มมากขึ้น รวมถึงกำไรพิเศษ 4,700 ล้านบาท จากการขายเงินลงทุนใน RAM, บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) คาดราคานํ้ามันจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ หลังโดนปัจจัยกดดันจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวในเชิงกดดันให้กลุ่มโอเปกลดกำลังการผลิต
ศรพล ตุลยะเสถียร
ด้านนายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า คาดเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงเดือนมีนาคมนี้ เนื่องจากปลายเดือนนี้ดัชนี MSCI มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มนํ้าหนักหุ้นไทยอีก 0.5% จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 2.5% รวมถึง FTSE Global Equity Index Series จะทบทวนปรับเพิ่มหุ้นไทยขนาดใหญ่และขนาดกลาง ทำให้หุ้นไทยมีความน่าสนใจจากนักลงทุนต่างชาติและสถาบันเพิ่มขึ้น
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,451 วันที่ 10-13 มีนาคม 2562
