อดีตกรรมการ "ทษช." ช่วยพรรคอื่นหาเสียงได้

08 มี.ค. 2562 | 09:53 น.

กกต. ระบุ อดีตกรรมการบริหาร พรรค "ทษช." ช่วยพรรคอื่นหาเสียงได้ แต่ต้องระวังไม่ครอบงำพรรคอื่น ส่วนสมาชิกย้ายไปสมัครพรรคอื่น ช่วยหาเสียงได้ เตือนเร่งเก็บป้ายหาเสียง ลบโซเชียลพรรคทิ้ง แจงเหตุต้องไปดูงานต่างประเทศ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 มี.ค. 2562 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงผลจากคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ ว่า กรรมการบริหารพรรคทั้ง 13 คน จะถูกตัดสิทธิสมัครและห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรค หรือ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคการเมืองอื่นภายในเวลา 10 ปี ยกเว้น นายรุ่งเรือง พิทยะศิริ ซึ่งลาออกไปก่อนมีการกระทำความผิด ทั้งนี้ กรรมการบริหารพรรคทั้ง 13 คน ที่ถูกเพิกถอนสิทธิสามารถไปช่วยหาเสียงให้กับพรรคการเมืองอื่นได้ แต่ต้องระวังไม่ให้เข้าข่ายครอบงำพรรคอื่น และจะขึ้นรูปในป้ายหาเสียงคู่กับผู้สมัครของพรรคอื่นไม่ได้


ส่วนสมาชิกและผู้สมัครคนอื่น ๆ เมื่อพรรคถูกยุบ สามารถไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นและเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ เพราะยังมีสถานะเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้ ประเด็นผู้ช่วยหาเสียงจะถูกควบคุมด้วยจำนวนและค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนที่ทำการพรรคและสาขาพรรค แม้กฎหมายไม่ได้กำหนดว่า ต้องรื้อถอนป้ายชื่อและโลโก้พรรคออกภายในกำหนดเวลาเท่าไร แต่ก็ควรรีบดำเนินการโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม หากสมาชิก ทษช. ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นแล้ว ก็สามารถขึ้นรูปในป้ายหาเสียงคู่กับผู้สมัครได้

"สมาชิกพรรค ทษช. ห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองในนามของพรรคที่ถูกยุบ สำหรับการโฆษณาหาเสียงในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ป้ายหาเสียง หรือ การหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียต้องลบทิ้งทั้งหมด ในระหว่างนี้ กกต. ได้เร่งประชาสัมพันธ์ไปยังสถานเอกอัครราชทูตใน 97 ประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ให้เร่งชี้แจงกรณีพรรค ทษช. ถูกยุบ เพราะหากกาบัตรเลือกผู้สมัครของพรรคที่ถูกยุบ ผู้สมัครถูกถอนชื่อจะถือเป็นบัตรเสียทันที" เลขาธิการ กกต. กล่าว

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังกล่าวชี้แจงข้อวิจารณ์ที่ว่า ยุบ ทษช. รวดเร็ว แต่เรื่องร้องยุบพรรคอื่นทำช้า โดยเฉพาะกรณีโต๊ะจีนพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งยื่นคำร้องมาตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. 2561 ว่า กรณี ทษช. ความผิดปรากฎชัดมีหลักฐานอันควรเชื่อว่า มีการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองอย่างชัดเจน จึงเสนอให้ กกต. พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ทันที ส่วนกรณีโต๊ะจีนระดมทุนต้องตรวจสอบบัญชียอดบริจาค จะยุบพรรคได้ต่อเมื่อมีการรับเงินจากชาวต่างชาติ หรือ นิติบุคคลที่มีชาวต่างชาติถือครองหุ้นมากกว่า 49% ซึ่งมีรายชื่อนิติบุคคลบริจาคถึง 40 แห่ง และเป็นการบริจาคจากบุคคลธรรมดาถึง 84 คน รายละเอียดต้องตรวจสอบไปยังสำนักทะเบียนราษฎร และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนและสามารถเสนอความเห็นให้กรรมการ กกต. พิจารณาได้ รวมถึงคำร้องยุบพรรคอื่น ๆ ด้วย

อดีตกรรมการ "ทษช." ช่วยพรรคอื่นหาเสียงได้