กกร.ทำ3ข้อ ช่วยเอสเอ็มอีปลดล็อคบัญชีเดียว

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มีความวิตกกังวล ถึงผลกระทบจากการบังคับใช้ตามมาตรา 8 พระราชกำหนดการยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2558 ที่จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ SMEs จึงได้จัดทำมาตรการผลักดันและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าสู่ระบบบัญชีเดียวแบบเชิงรุกให้ทันระยะเวลาที่ พ.ร.ก. จะมีผลบังคับใช้

นายปรีชา ส่งวัฒนา ประธานคณะทำงานเพื่อส่งเสริม SMEs บัญชีเดียว ภายใต้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า “กกร. ได้มีข้อเสนอมาตรการส่งเสริม SMEs เข้าสู่ระบบบัญชีเดียวเสนอต่อกรมสรรพากรให้พิจารณา มีจำนวน 3 ข้อ คือ

1) ยกเว้นเบี้ยปรับ และลดหย่อนอัตราดอกเบี้ยเงินเพิ่ม

2) ผู้ประกอบการสามารถออกใบกำกับภาษีขายได้โดยไม่ต้องระบุชื่อผู้ซื้อหรือผู้ขายได้

3) อำนวยความสะดวกหรือให้สิทธิประโยชน์สำหรับผู้จดแจ้งบัญชีเดียวแล้ว

ล่าสุดได้รับข่าวดี ที่กรมสรรพากรตอบรับมาตรการดังกล่าว โดยจะออก พ.ร.บ.ยกเว้นเบี้ยปรับเงินเพิ่มภาษีอากรและความผิดทางอาญา เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากร โดยมีสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. คือ ให้โอกาสบริษัทจำกัด / ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่มีรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดก่อนวันที่ 30 ก.ย. 2561 ไม่เกิน 500 ล้านบาท ที่ไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการหรือที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการไว้แล้วแต่ไม่ถูกต้อง ก่อน พ.ร.บ.บังคับใช้ ให้ได้รับการยกเว้นเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่ม โดยต้องลงทะเบียนแจ้งความจำนงภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2562 สำหรับรายละเอียดคงต้องรอ พ.ร.บ.ประกาศใช้อย่างเป็นทางการอีกครั้งจากกรมสรรพากร

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้สมาชิกของ กกร. ทั้งสภาอุตสาหกรรมฯ สภาหอการค้าฯ และสมาคมธนาคารไทย  ได้พยายามประชาสัมพันธ์และจัดทำสื่อต่าง ๆ จัดงานสัมมนา เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบบัญชี-เดียวมาโดยตลอด การปลดล็อคจากกรมสรรพากร ถือเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการที่จะดำเนินการให้ถูกต้องนับจากนี้ แต่หากหลังจากนี้ยังไม่ปรับตัว คงต้องมีมาตรการตรวจสอบอย่างเข้มข้นในการดำเนินการอีกครั้ง ซึ่งคงขึ้นกับกรมสรรพากรที่จะดำเนินการ” นายปรีชา กล่าว