อินไซด์สนามข่าว : ‘อมเงิน’ อุดหนุนพรรค ยังมีอยู่จริง

01 มี.ค. 2562 | 11:21 น.

อมเงิน-0001
อินไซด์สนามข่าว : ‘อมเงิน’ อุดหนุนพรรค ยังมีอยู่จริง

“เงินทองเป็นของนอกกาย แต่ถ้าไม่จ่ายก็เป็นเรื่อง”

เปิดหัวแบบนี้ไม่เกี่ยวกับเงินเดือนผมแต่อย่างใด แต่หมายถึงเรื่องเงินของพรรคการเมืองทั้งหลาย ที่กกต.ต้องจ่ายเงินอุดหนุนให้ผ่าน “กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง” ซึ่งในอดีตว่ากันว่าเงินจากกองทุนนี้เป็นแรงจูงใจหนึ่งในการเปิดพรรคการเมืองมากมาย

อย่างการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 จากฐานข้อมูลของ กกต. พบว่า มีพรรคการเมืองในสารบบทั้งสิ้น 104 พรรค แต่ผ่านด่านคุณสมบัติเหลือ 78 พรรคที่ส่งผู้สมัครลงชิงชัย

คิดเป็นจำนวนผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ผ่านการรับรองจากกกต. 2,810 คน จากยื่นมาทั้งหมด 2,917 คน ผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขต ที่ผ่านการรับ รองจาก กกต. 10,792 คน จากสมัครเข้ามาทั้งหมด 11,181 คน คิดเป็นค่าสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตรายละ 10,000 บาท ที่อยู่กับ กกต. เท่ากับ 111,181,000 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้ กกต.จะนำไปบริหารจัดการและสนับสนุนภารกิจการเลือกตั้งต่อไป
เลือกตั้ง-0001

ที่เอ่ยถึงเงินกองทุนฯ และเงินค่าสมัคร 2 ส่วนนี้ จะเล่าให้ฟังว่า ผมได้มีโอกาสไปทำข่าวในต่างจังหวัด บังเอิญได้สนทนากับผู้สมัครพรรคการเมืองขนาดเล็กพรรคหนึ่งมา ฟังแล้วก็เห็นใจ เขาบ่นถึงเรื่องที่พรรคไม่สนับสนุนเงินอะไรเลยในการสู้ศึกเลือกตั้งรอบนี้ ทั้งที่ตัวเขาผ่านการรับรองคุณสมบัติจากกกต.จังหวัด แม้ว่าเงินค่าสมัครหามาเอง ซึ่งส่วนนี้ก็ไม่แปลกกับการควักเงิน 1 หมื่นบาทไปก่อน

แต่ถ้าพูดถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ป้ายหาเสียง ค่านามบัตรแนะนำตัว โบรชัวร์ โปสเตอร์ ค่ารถแห่ ค่าเดินหาเสียงของทีมงาน เขาก็หวังว่า เมื่อพรรคและผู้สมัครอย่างตัวเขาได้รับการรับรองจากกกต.แล้ว โดยปกติตามระเบียบ กกต.จะโอนเงินจากกองทุนไปยังพรรค เพื่อให้พรรคนำเงินไปสนับสนุนการหาเสียงตามเจตนารมณ์ของกองทุนที่ตั้งขึ้น

แต่ทว่าอุปกรณ์หาเสียงทุกสิ่งที่เขียนมา ผู้สมัครตัวเล็กๆ รายนี้กลับไม่ได้รับเงินสนับสนุนแม้แต่บาทเดียวจากพรรค เราก็ถามว่าแล้วจะหาเสียงยังไง คำตอบคือก็ไม่รู้จะทำยังไง คงได้แต่เดินยกมือสวัสดีแนะนำตัวปากเปล่าไปเรื่อยๆ ก็หวังว่าพรรคจะมาช่วยสนับสนุน

ผมฟังก็ตกใจ นี่หรือคือการตอบแทนให้กับคนที่อาสาจะมาพัฒนาชาติบ้านเมือง

อินไซด์สนามข่าว : ‘อมเงิน’ อุดหนุนพรรค ยังมีอยู่จริง เพิ่มเพื่อน

พฤติกรรมดังกล่าวดูจะสวนทางกับสิ่งที่ กกต.ต้องการจะให้เกิด คือความโปร่งใส ที่ยํ้ากันในเวทีใหญ่จัดประชุมชี้แจงแนวทางการจัดทำบัญชีแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.และพรรคการเมือง โดยมีผู้แทนจากพรรคการเมือง ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด และเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติของสำนักงาน กกต. ทั่วประเทศมาประชุมกันอย่างพร้อมหน้า

ตอนหนึ่งที่ นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต.บอกว่า เรื่องเงินของพรรคหากมีปัญหา กกต.สามารถร้องขอให้กรมบัญชีกลาง หรือสำนักงานตรวจสอบบัญชีเข้าไปตรวจสอบบัญชีพรรคการเมืองระหว่างการเลือกตั้งได้ และกฎหมายยังกำหนดให้พรรคการเมืองชี้แจงที่มาของเงิน วิธีการใช้จ่ายเงิน และการรายงานงบการเงินประจำปี โดยการบันทึกค่าใช้จ่ายผู้สมัครและพรรคการเมืองอย่างถูกต้องด้วย

หวังว่าถ้า กกต.มีช่องทางร้องเรียนเรื่องเงินอุดหนุนพรรค ชนิดที่ว่าไม่เปิดเผยตัวผู้ร้องเรียน คิดว่านอกจากผู้สมัครพรรคเล็กรายนี้แล้ว จะมีอีกหลายคนที่อยากจะร้องเรียนพฤติกรรมพรรค “อมเงิน” แบบนี้เหมือนกัน 
 

|คอลัมน์ : อินไซด์สนามข่าว
| โดย : จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง
|Twitter : @jeerapong_pra
|หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3448 หน้า 14 ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค.2562

595959859

เพิ่มเพื่อน