ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มหลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชซิ่งมีแนวโน้มปรับลด

22 มี.ค. 2559 | 03:22 น.
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มหลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชซิ่งมีแนวโน้มปรับลดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำ

วันที่ 22  มีนาคม 2559

+ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มหลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง มีแนวโน้มปรับลดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังบริษัท Genscape คาดการณ์ตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปิด ณ สัปดาห์ก่อนหน้าประจำวันที่ 18 มี.ค. ปรับตัวลดลงราว 570,574 บาร์เรล แตะระดับ 69.05 ล้านบาร์เรล ซึ่งนับเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตัวเลขยังคงสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จากรอยเตอร์ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจะปรับเพิ่มขึ้นราว 3 ล้านบาร์เรล

+ ราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันหลังผู้ผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale oil producers) อาทิ Oasis Petroleum และ Pioneer Natural Resources ยังคงทำการเพิ่มจำนวนหลุมขุดเจาะแบบไม่เสร็จสมบูรณ์ (Uncompleted wells (DUCs)) เพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ในการเตรียมผลิตน้ำมันดิบเพิ่มหากราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงระดับจุดคุ้มทุน

+ อย่างไรก็ตาม บริษัททั้งสองมีแนวโน้มที่จะเปิดดำเนินการหลุมขุดเจาะได้ทุกเวลา เนื่องจากได้มีการทำประกันความเสี่ยงด้านราคา (Hedging) สำหรับปี 2559 ไว้ในระดับสูงกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน อาทิ บริษัท Oasis Petroleum ทำประกันราคาขายของน้ำมันดิบราวร้อยละ 70 ไว้ที่มากกว่า 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เป็นต้น ทั้งนี้ จำนวนหลุดขุดเจาะที่เพิ่มขึ้นประกอบกับแนวโน้มที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มขึ้นได้ทุกเมื่อ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดยังคงมีความผันผวน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีความต้องการใช้เพิ่มเติมจากประเทศศรีลังกาและแทนซาเนีย ประกอบกับโรงกลั่นน้ำมันในไต้หวันได้ทำการปิดซ่อมบำรุงในเดือนนี้ซึ่งส่งผลทำให้การส่งออกจากโรงกลั่นดังกล่าวปรับตัวลดลงร้อยละ 50

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากระดับปริมาณน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานในประเทศสิงคโปร์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที5 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ13.254 ล้านบาร์เรลถึงแม้ว่าในช่วงนี้จะมีหลายโรงกลั่นน้ำมันปิดซ่อมบำรุงตามฤดูกาลก็ตาม

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 36-42เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ38-44 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

การตอบรับของตลาดต่อความคืบหน้าของการประชุมนัดพิเศษระหว่างผู้ผลิตน้ำมันดิบในและนอกกลุ่มโอเปกที่จัดขึ้นในวันที่ 17 เม.ย.นี้ เพื่อหารือถึงการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ระดับการผลิตในเดือน ม.ค. โดยมีผู้ผลิตน้ำมันดิบกว่า 15 ประเทศเข้าร่วมการประชุม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 73 ของกำลังการผลิตน้ำมันดิบของโลก

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลงและกดดันราคาน้ำมันดิบน้อยลง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับเดิม จากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ทั้งปีนี้ Fed คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เพียงแค่ 2 ครั้งจากแผนเดิมที่คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ (สิ้นสุด ณ วันที่ 11 มี.ค.) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 523.2 ล้านบาร์เรล