สั่งโรงสีทั่วประเทศกดราคารับซื้อ“ข้าวหอมพวง"
“พาณิชย์” แฉกรมการข้าวยืมมือบีบสั่งโรงสีทั่วประเทศกดราคารับซื้อข้าวหอมพวง หวังชาวนาลดพื้นที่ปลูกอ้างข้าวไม่ได้คุณภาพ ยั๊วะกฎหมายก็มีทำไมไม่ใช้เตือน ห้าม คาดโทษ หรือให้ราคาพิเศษเมล็ดพันธุ์ข้าวดีทดแทน มากกว่าที่จะใช้ขบวนการลับทำร้าย ไม่ยุติธรรม
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นายประสงค์ ประไพตระกูล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการข้าว ได้ส่งหนังสือลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมาถึงอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอให้ประสานแจ้งโรงสีและผู้ประกอบการค้าข้าวไม่รับซื้อข้าวหอมพวงในราคาสูง เช่นเดียวกับข้าวหอมทุมธานี 1 เพื่อลดแรงจูงใจในการปลูกข้าวหอมพวงของชาวนาที่พยายามหาซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมพวงมาปลูกโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพการปะปนพันธุ์และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“ไม่เข้าใจกรมการข้าว ทำไมไม่ใช่กฎหมายที่มีอยู่ การมาให้โรงสีกดราคาชาวนารับซื้อลงมา บิดเบือนตลาดหรือไม่ ในช่วงที่ผ่านมา ชาวนาก็มองโรงสีด้วยอคติอยู่แล้ว แล้วหากมารู้ทีหลัง ของการกดราคาข้าวรับซื้อโรงสีจะยอมหรือไม่ แล้วจะแจ้งชาวนาอย่างไรว่าทำไมขายข้าวได้ราคาต่ำ ทั้งที่ความต้องการข้าวพื้นนุ่มทั้งในประเทศและต่างประเทศต้องการสูง”
อนึ่ง “ข้าวหอมพวง” หรือข้าวหอมจัสมิน 58 แจ้งเกิดเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา ว่า นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีข้อสั่งการให้จังหวัดนครสวรรค์ตรวจสอบข้อเท็จจริงปัญหาข้าวปลอมปนในพื้นที่ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ จากกรณีที่มีข่าวว่ามีการปลอมปนในข้าวขาวดอกมะลิ 105 ส่งผลกระทบต่อคุณภาพและชื่อเสียงข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งจากการสอบถามชาวนาในพื้นที่ดังกล่าวได้ให้ข้อมูลว่า
เมื่อ 3 ปีก่อนได้มีเกษตรกรได้นำเมล็ดพันธุ์ข้าวมาจาก จ.สุพรรณบุรี มาปลูกในพื้นที่ เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ "ข้าวหอมพวง" หรือ ข้าวหอมมะลิเวียดนาม ในหมู่พ่อค้าข้าวจะเรียกว่า "ข้าวจัสมิน 85" ซึ่งมีผลผลิตต่อไร่สูง ให้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 800–1,000 กก./ไร่ เป็นข้าวอายุสั้น ต้านทานโรค น้ำหนักดี ใช้ระยะเวลาการปลูก 90–95 วัน และมีราคารับซื้อข้าวเปลือกหอมพวงเกี่ยวสด ราคาข้าวสดที่ 8,000 บวกต่อตัน ขณะที่ ข้าวขาว 5% อยู่ในราคา 6,500-6,800 บาทต่อตัน ขณะที่ ข้าวหอมปทุมฯ ความชื้น 28% ราคา 8,500-1 หมื่นบาท
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นายประสงค์ ประไพตระกูล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการข้าว ได้ส่งหนังสือลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมาถึงอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอให้ประสานแจ้งโรงสีและผู้ประกอบการค้าข้าวไม่รับซื้อข้าวหอมพวงในราคาสูง เช่นเดียวกับข้าวหอมทุมธานี 1 เพื่อลดแรงจูงใจในการปลูกข้าวหอมพวงของชาวนาที่พยายามหาซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมพวงมาปลูกโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพการปะปนพันธุ์และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“ไม่เข้าใจกรมการข้าว ทำไมไม่ใช่กฎหมายที่มีอยู่ การมาให้โรงสีกดราคาชาวนารับซื้อลงมา บิดเบือนตลาดหรือไม่ ในช่วงที่ผ่านมา ชาวนาก็มองโรงสีด้วยอคติอยู่แล้ว แล้วหากมารู้ทีหลัง ของการกดราคาข้าวรับซื้อโรงสีจะยอมหรือไม่ แล้วจะแจ้งชาวนาอย่างไรว่าทำไมขายข้าวได้ราคาต่ำ ทั้งที่ความต้องการข้าวพื้นนุ่มทั้งในประเทศและต่างประเทศต้องการสูง”
อนึ่ง “ข้าวหอมพวง” หรือข้าวหอมจัสมิน 58 แจ้งเกิดเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา ว่า นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีข้อสั่งการให้จังหวัดนครสวรรค์ตรวจสอบข้อเท็จจริงปัญหาข้าวปลอมปนในพื้นที่ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ จากกรณีที่มีข่าวว่ามีการปลอมปนในข้าวขาวดอกมะลิ 105 ส่งผลกระทบต่อคุณภาพและชื่อเสียงข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งจากการสอบถามชาวนาในพื้นที่ดังกล่าวได้ให้ข้อมูลว่า
เมื่อ 3 ปีก่อนได้มีเกษตรกรได้นำเมล็ดพันธุ์ข้าวมาจาก จ.สุพรรณบุรี มาปลูกในพื้นที่ เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ "ข้าวหอมพวง" หรือ ข้าวหอมมะลิเวียดนาม ในหมู่พ่อค้าข้าวจะเรียกว่า "ข้าวจัสมิน 85" ซึ่งมีผลผลิตต่อไร่สูง ให้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 800–1,000 กก./ไร่ เป็นข้าวอายุสั้น ต้านทานโรค น้ำหนักดี ใช้ระยะเวลาการปลูก 90–95 วัน และมีราคารับซื้อข้าวเปลือกหอมพวงเกี่ยวสด ราคาข้าวสดที่ 8,000 บวกต่อตัน ขณะที่ ข้าวขาว 5% อยู่ในราคา 6,500-6,800 บาทต่อตัน ขณะที่ ข้าวหอมปทุมฯ ความชื้น 28% ราคา 8,500-1 หมื่นบาท
