LOEI BUSTAจ่อขึ้นห้าง รุกแฟรนไชส์-สยายปีกสู่ลาว
กาแฟคั่วบดแบรนด์ เลยบัสต้า เตรียมขยายธุรกิจเข้าจำหน่ายในเซ็นทรัลขอนแก่น พร้อมนำเสนอรูปแบบแฟรนไชส์ต่อยอดธุรกิจสำหรับผู้ที่สนใจลงทุน และขยายตลาดสู่ สปป.ลาว เชื่อปีนี้รายได้เกินหลักล้านบาท ชูจุดเด่นความหอมที่เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดเลย และบริการที่ให้ลูกค้ามีส่วนร่วม
นายอนันต์ชัย คำเกษม เจ้าของธุรกิจเมล็ดกาแฟคั่วบดแบรนด์ “เลยบัสต้า” (LOEI BUSTA) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังจากที่ได้เข้าร่วมโครงการกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ทำให้แบรนด์มีโอกาสได้เข้าไปเจรจาธุรกิจกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาขอนแก่น ซึ่งให้ความสนใจในกลยุทธ์ในการทำตลาด และลูกเล่นที่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคของแบรนด์ โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการหาความเหมาะสมของรูปแบบในการดำเนินธุรกิจว่าจะเป็นการร่วมมือกัน หรือมีพื้นที่ให้แบรนด์เข้าไปลงทุนเพื่อให้บริการด้วยตนเอง
“แบรนด์กำลังเจรจาธุรกิจกับฝ่ายการตลาดของเซ็นทรัล เพื่อหาข้อสรุปที่เหมาะสมในการเข้าไปทำธุรกิจ ซึ่งทางห้างเซ็นทรัลมีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและรายเล็กที่เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ได้มีโอกาสนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายในห้าง โดยถือเป็นกลยุทธ์รูปแบบหนึ่งในการขยายตลาดเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าของแบรนด์ในปีนี้”
นอกจากนี้ กลยุทธ์ที่แบรนด์จะดำเนินการเพิ่มเติมคือการทำธุรกิจให้บริการร้านกาแฟในรูปแบบของแฟรนไชส์ เพื่อต่อยอดธุรกิจ โดยที่แบรนด์จะแบ่งออกเป็น 3 ขนาด ประกอบด้วย 1.ไซซ์ขนาดเล็ก ในราคา 7 หมื่นบาท 2.ไซซ์ใหญ่ราคา 1.5 แสนบาท และ 3.แบบร้านมาตรฐานเต็มรูปแบบ ราคาหลักล้านบาท เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เลือกทำธุรกิจร่วมกันตามความเหมาะสมของเงินทุน และทำเลธุรกิจที่มี
อย่างไรก็ดี หลังจากที่แบรนด์ได้ไปออกงานไม้ดอกไม้ประดับที่จังหวัดเลย ภายในงานมีส่วนที่เกี่ยวกับร้านกาแฟทำให้บริษัทมีโอกาสได้พบกับนักลงทุนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งสนใจแนวทางในการดำเนินธุรกิจของแบรนด์ ทั้งเรื่องของการตกแต่งร้านแบบคาวบอยตะวันตก และการให้บริการที่เปิดโอกาสให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการรับประทานกาแฟของตนเอง เพื่อนำกาแฟไปเปิดให้บริการในปั๊มนํ้ามัน โดยจะเป็นการเติมเต็มปั๊มนํ้ามันให้ลูกค้าสนใจที่จะเข้าไปใช้บริการมากขึ้น
“ภายใน 1-2 เดือนนี้ แบรนด์จะดำเนินการเจรจาทางธุรกิจกับเจ้าของปั๊มนํ้ามันจาก สปป.ลาว เพื่อตกลงเรื่องการทำธุรกิจร่วมกันว่าจะมีเงื่อนไขอะไร อย่างไรที่จะทำให้ได้รับผลประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้ เดิมทีแบรนด์มีช่องทางในการทำตลาดผ่านออนไลน์ และการจำหน่ายผ่านหน้าร้านที่ อำเภอภูเรือ จังหวัดเลยภายใต้ชื่อร้าน ด่านซ้ายแอนด์สโตน คาวบอย และการออกงานแสดงร่วมกับ สสว.”
นายอนันต์ชัย กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้แบรนด์มีรายได้เกินหลักล้านบาทในปีนี้ จากเดิมซึ่งปีที่ผ่านมาแบรนด์มีโอกาสได้ไปออกงานแสดงสินค้าในหลายสถานที่ ทำให้แบรนด์มีรายได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาทต่อปี และทำให้กาแฟคั่วบดแบรนด์ เลยบัสต้า เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น
สำหรับจุดเด่นของกาแฟคั่วบดแบรนด์ เลยบัสต้านั้น หากเป็นในรูปแบบของผลิตภัณฑ์จะอยู่ที่เมล็ดพันธุ์กาแฟโรบัสต้า ซึ่งตามปกติจะปลูกในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งจะมีความสูงจากระดับท้องทะเลประมาณ 400 ฟุต แต่แบรนด์ได้นำมาปลูกที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย บนความสูงจากระดับท้องทะเลประมาณ 700-1,000 ฟุต ทำให้ได้กาแฟที่มีความหอมเป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดเลย ดื่มแล้วมีความเข้มและหอมแบบ 2 IN 1
อย่างไรก็ตาม แบรนด์ยังมีส่วนช่วยทำให้อำเภอด่านซ้ายมีพื้นที่ป่าเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีพื้นที่ปลูกข้าวโพด 9 แสนไร่ แต่ปัจจุบันการปลูกข้าวโพดจะอยู่ที่ 6 แสนไร่ ส่วนที่เหลือจะเป็นการปลูกกาแฟ โดยในปีที่ผ่านมามีผลผลิตออกมาได้ประมาณ 1 ตัน และคาดว่าจะมีผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้นในปีนี้เกือบ 2 ตัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้ และอาชีพให้กับเกษตรกรในพื้นที่ เพราะแบรนด์สร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกร ทำให้เกิดการบำรุงรักษาต้นกาแฟเป็นอย่างดี
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,448 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม พ.ศ. 2562
