'พาณิชย์' เร่งเจาะตลาดจีน 10 มณฑล เดินหน้าจัดกิจกรรมเชิงรุก

26 ก.พ. 2562 | 06:58 น.
กระทรวงพาณิชย์ เผย ทำแผนตลาดจีน พร้อมเร่งบุกทำตลาดตั้งแต่ ก.พ. 62 มั่นใจ! ภายใน 3-6 เดือน ตัวเลขส่งออกปรับตัวดีขึ้น พร้อมจัดกิจกรรมเจรจาการค้าเพิ่ม ล่าสุด จัดงาน Sourcing Forum มั่นใจเกิดคำสั่งซื้อสินค้าทันที 200 ล้านบาท

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำแผนบุกตลาดจีนเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมเดินหน้าในเดือน ก.พ. 2562 เป็นต้นไป โดยจะเน้นเจาะตลาดเป็นรายมณฑล 10 มณฑลเป้าหมาย เชื่อว่า ภายใน 3-6 เดือน การส่งออกไปตลาดจีนจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะทำให้การส่งออกในตลาดดังกล่าวมีการกระตุ้นการค้ามากขึ้น นอกจากนี้ การเดินทางเข้ามาจัดตั้งสำนักงานฮ่องกง พร้อมการนำคณะภาคเอกชนของฮ่องกงเดินทางมาไทย จะทำให้ฮ่องกงเป็นช่องทางหนึ่งในการขยายตลาดเข้าสู่จีนได้มากขึ้น

 

[caption id="attachment_394819" align="aligncenter" width="503"] บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ[/caption]

สำหรับการทำตลาดอื่น อาทิ อินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป (อียู) กรมฯ ก็ทำแผนบุกตลาดเต็มที่ พร้อมกับการจัดกิจกรรมเจรจาการค้า ซึ่งจะดูเป้าหมายเป็นรายสินค้าและรายประเทศ และกิจกรรมงานแสดงสินค้า ซึ่งจะดำเนินการเต็มที่ในปีนี้ เพื่อกระตุ้นการส่งออกให้ได้ตามเป้าหมาย ล่าสุด กรมฯ ได้จัดกิจกรรม Sourcing Forum เพื่อกระตุ้นการส่งออก ผลักดันให้สินค้าของไทยขยายส่วนแบ่งตลาดในอาเซียน เอเชียตะวันออก โอเชียเนีย เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกา อีกทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้พบปะ สร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ และเจรจาการค้ากับนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ/ผู้นำเข้า/ผู้จัดจำหน่าย และ Online Superstore จากประเทศเป้าหมาย โดยแบ่งเป็น 2 กิจกรรม คือ การเจรจาจับคู่ธุรกิจ 1 วัน และพาผู้ซื้อจากต่างประเทศไปเยี่ยมชมกิจการโรงงานของผู้ประกอบการไทย ในวันที่ 27 ก.พ. 2562 ณ บริษัท เส้นหมี่ชอเฮง ไทย โคโคนัท จำกัด พร้อมเยี่ยมชมสวนทุเรียนธีรภัทรและโรงงานแปรรูปผลไม้จันทบุรี โกลบอล ฟูดส์


ss2

ในการเจรจาจับคู่ธรกิจ ทางกรมฯ ได้เชิญผู้ซื้อจากทั่วโลกกว่า 136 บริษัท ในกลุ่มห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก เช่น ห้างต้าชาง, Hangzhou Lianhua, 759 Store จากจีนและฮ่องกง, Reliance Retail, Future Retail จากอินเดีย, Makro, Big C จากอาเซียน และ On-Line Platform อาทิ Alibaba.com, JD, PayTM, NYKAA เป็นต้น มาเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการ SMEs ของไทย ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มวิสาหกิจการเกษตร กลุ่มสหกรณ์ผู้ประกอบการผลไม้ ตลอดจนผู้ส่งออกไทย เช่น ดอยคำ, หยั่นหว่อหยุ่น, แม่ประนอม, แม่ศรีเรือน, อำพลฟู๊ด, ถ้วยทองโอสถ, วีทีแหนมเนือง, อาหารยอดคุณ, โตโยต้าทูโช, คิวรอน (ยาสีฟันสปาร์คเกิล), อิชิตัน, ยูโรฟู๊ด, ไทยสแตนเลสสตีล, อภัยภูเบศ, มหาวิทยาลัยรังสิต, บีทาเก้น, ซาบีน่า, สหพัฒน์ และซีพี เป็นต้น เพื่อเลือกซื้อสินค้าไทยนำไปจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์ตามสาขาของห้างฯ หรือ บน On-Line Platform ในต่างประเทศต่อไป


ss3

นอกจากนี้ ยังมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจสำหรับสินค้าผลไม้สดและผลไม้แปรรูประดับพรีเมียมส่งออกไปเฉพาะตลาดจีน ฮ่องกง และไต้หวัน โดยมีผู้ซื้อจากประเทศจีนกว่า 47 บริษัท ไม่ว่าจะเป็น Herma Fresh, Qingdao Dongfang Dingxin International Farm and Sideline Products Trading Centre, Carrefour, Shanghai Fruit Day, Kunming Parkson Department Store เป็นต้น เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมงาน สำหรับการส่งออกสินค้าผลไม้สดและแปรรูปของไทยไปยังตลาดโลกปี 2561 มีมูลค่า 4,372 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสินค้าหลัก คือ ลำไยสด ทุเรียนสด และสับปะรดกระป๋อง ตลาดส่งออกหลัก คือ จีน และสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ การจับคู่เจรจาธุรกิจ (Sourcing Forum) ทั้ง 2 งาน มีผู้ประกอบการไทยให้ความสนใจเข้าร่วมเจรจาการค้าถึง 500 บริษัท คาดว่าจะเกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจไม่น้อยกว่า 1,000 คู่ มูลค่าซื้อขายเกิดขึ้นภายในงานไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท และไม่น้อยกว่า 1,800 ล้านบาท ภายใน 1 ปี

595959859

090861-1927-9-335x503-8-335x503-13-335x503