ดันไทย ศูนย์กลางการผลิต ‘สินค้าความงาม’ ตลาดอาเซียน
ชี้เทรนด์อุตสาหกรรมความงามและเครื่องสำอางโตต่อเนื่อง เครือข่ายคลัสเตอร์สุขภาพและความงามไทยฯ ผนึกพันธมิตร จัดงาน BBAB หวังเป็นเวทีกลางเชื่อมคู่ค้าธุรกิจ พร้อมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิต และกระจายสินค้าความงามในตลาดอาเซียน
แนวโน้มการขยายตัวของอุตสาหกรรมความงามและเครื่องสำอางในเอเชียมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศในเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่นํ้าโขง(CLMV) ซึ่งประกอบไปด้วย กัมพูชา ลาว เวียดนาม และเมียนมา เมื่อผนวกเข้ากับไทยจะทำให้มีจำนวนประชากรมากกว่า 240 ล้านคน และการเติบโตของ GDP 6.2% ต่อปี ขณะที่รายได้โดยรวมของประเทศไทยมีมูลค่า 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็น 10.6% ของการส่งออกทั้งหมด
การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจในอุตสาหกรรมความงามและเครื่องสำอางจึงมีความสำคัญ ล่าสุดอิมแพ็ค จึงร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และอินฟอร์มา เอ็กซิบิชั่นส์ จัดงานบียอนด์ บิวตี้ อาเซียน
แบงค็อก (Beyond Beauty ASEAN Bangkok) หรือ BBAB งานแสดงสินค้าระดับนานาชาติด้านอุตสาหกรรมความงาม และเครื่องสำอางขึ้นในระหว่างวันที่ 19-21 กันยายนนี้ เพื่อสร้างแนวคิดและเตรียมผู้ประกอบการให้พร้อมกับการจับคู่ธุรกิจและค้าขายกับผู้ซื้อจากต่างประเทศ
นางเกศมณี เลิศกิจจา ประธานคลัสเตอร์ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมความงามและเครื่องสำอางยังคงมีแนวโน้มการเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากการส่งออก การลงทุนจากต่างประเทศ และการท่องเที่ยว นอกเหนือจากนี้ยังมีปัจจัยอย่างอื่น อาทิ รายได้ที่เพิ่มขึ้นของประชาชน การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งทำให้เกิดโอกาสที่ดี ดึงดูด และน่าสนใจในการลงทุน และทำธุรกิจ โดยผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมซื้อขายกันช่องออนไลน์ อาทิ สินค้าแฟชั่น สินค้าสุขภาพและความงาม รวมไปถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
ด้านนางสาวพีรยาพัณณ์ พงษ์สนาม ผู้ช่วยผู้จัดการโครงการอาวุโส บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า งานบียอนด์ บิวตี้ อาเซียน แบงค็อก จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6 โดยในปีนี้คาดว่าจะมีกว่า 80 บริษัทจากกลุ่มประเทศ CLMV เข้าร่วมเจรจาธุรกิจ ขณะที่จุดแข็งของ งานบียอนด์ บิวตี้ อาเซียน แบงค็อก คือ การแบ่งโซนตามประเภทธุรกิจเครื่องสำอางแบ่งเป็น 3 โซน คือ 1.BBAB Supply Chain สำหรับธุรกิจรับจ้างผลิตเครื่องสำอาง 2.BBAB Finished Products สำหรับธุรกิจสินค้าความงามพร้อมจัดจำหน่าย และ 3.Beauty Made in Thailand สำหรับธุรกิจเครื่องสำอางไทยโดยเฉพาะ พร้อมทั้งในงานยังมีกิจกรรมการจับคู่เจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเข้าและส่งออกสินค้าความงามชั้นนำทั้งภายในประเทศไทยและต่างประเทศ
“โดยตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมาความสำเร็จในการจัดงานได้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมความงามของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ BBAB กลายเป็นจุดหมายแรกของผู้ประกอบการ แบรนด์ดัง และเจ้าของธุรกิจในแวดวงความงามเครื่องสำอางต่างๆ จากทั่วโลก รวมทั้งยังได้ผลักดันอุตสาหกรรมความงามไทยให้เป็นศูนย์กลางในการผลิต พร้อมกระจายสินค้าความงามในตลาดอาเซียน และสร้างกิจกรรมการตลาดให้ความรู้อันเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการและสอดคล้องต่อการเติบโตของโลก”
หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,448 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ -2 มีนาคม 2562
แนวโน้มการขยายตัวของอุตสาหกรรมความงามและเครื่องสำอางในเอเชียมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศในเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่นํ้าโขง(CLMV) ซึ่งประกอบไปด้วย กัมพูชา ลาว เวียดนาม และเมียนมา เมื่อผนวกเข้ากับไทยจะทำให้มีจำนวนประชากรมากกว่า 240 ล้านคน และการเติบโตของ GDP 6.2% ต่อปี ขณะที่รายได้โดยรวมของประเทศไทยมีมูลค่า 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็น 10.6% ของการส่งออกทั้งหมด
การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจในอุตสาหกรรมความงามและเครื่องสำอางจึงมีความสำคัญ ล่าสุดอิมแพ็ค จึงร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และอินฟอร์มา เอ็กซิบิชั่นส์ จัดงานบียอนด์ บิวตี้ อาเซียน
แบงค็อก (Beyond Beauty ASEAN Bangkok) หรือ BBAB งานแสดงสินค้าระดับนานาชาติด้านอุตสาหกรรมความงาม และเครื่องสำอางขึ้นในระหว่างวันที่ 19-21 กันยายนนี้ เพื่อสร้างแนวคิดและเตรียมผู้ประกอบการให้พร้อมกับการจับคู่ธุรกิจและค้าขายกับผู้ซื้อจากต่างประเทศ
นางเกศมณี เลิศกิจจา ประธานคลัสเตอร์ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมความงามและเครื่องสำอางยังคงมีแนวโน้มการเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากการส่งออก การลงทุนจากต่างประเทศ และการท่องเที่ยว นอกเหนือจากนี้ยังมีปัจจัยอย่างอื่น อาทิ รายได้ที่เพิ่มขึ้นของประชาชน การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งทำให้เกิดโอกาสที่ดี ดึงดูด และน่าสนใจในการลงทุน และทำธุรกิจ โดยผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมซื้อขายกันช่องออนไลน์ อาทิ สินค้าแฟชั่น สินค้าสุขภาพและความงาม รวมไปถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
ด้านนางสาวพีรยาพัณณ์ พงษ์สนาม ผู้ช่วยผู้จัดการโครงการอาวุโส บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า งานบียอนด์ บิวตี้ อาเซียน แบงค็อก จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6 โดยในปีนี้คาดว่าจะมีกว่า 80 บริษัทจากกลุ่มประเทศ CLMV เข้าร่วมเจรจาธุรกิจ ขณะที่จุดแข็งของ งานบียอนด์ บิวตี้ อาเซียน แบงค็อก คือ การแบ่งโซนตามประเภทธุรกิจเครื่องสำอางแบ่งเป็น 3 โซน คือ 1.BBAB Supply Chain สำหรับธุรกิจรับจ้างผลิตเครื่องสำอาง 2.BBAB Finished Products สำหรับธุรกิจสินค้าความงามพร้อมจัดจำหน่าย และ 3.Beauty Made in Thailand สำหรับธุรกิจเครื่องสำอางไทยโดยเฉพาะ พร้อมทั้งในงานยังมีกิจกรรมการจับคู่เจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเข้าและส่งออกสินค้าความงามชั้นนำทั้งภายในประเทศไทยและต่างประเทศ
“โดยตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมาความสำเร็จในการจัดงานได้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมความงามของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ BBAB กลายเป็นจุดหมายแรกของผู้ประกอบการ แบรนด์ดัง และเจ้าของธุรกิจในแวดวงความงามเครื่องสำอางต่างๆ จากทั่วโลก รวมทั้งยังได้ผลักดันอุตสาหกรรมความงามไทยให้เป็นศูนย์กลางในการผลิต พร้อมกระจายสินค้าความงามในตลาดอาเซียน และสร้างกิจกรรมการตลาดให้ความรู้อันเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการและสอดคล้องต่อการเติบโตของโลก”
หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,448 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ -2 มีนาคม 2562
