“อัตลักษณ์ไทย” แรงบันดาลใจสู่แฟชั่นโลก
เทรนด์แฟชั่นของแต่ละปีจะเห็นความเปลี่ยนแปลงไป ย้อนยุคบ้าง ล้ำสมัยบ้าง ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ไปจนถึงกระเป๋า รองเท้า เชื่อว่าคุณสุภาพสตรีส่วนใหญ่ คงเกาะติดกระแสวงการแฟชั่นแบบติดขอบเวทีแคตทวอล์กทีเดียว แต่จะเชื่อหรือไม่!! นั่งๆ พินิจพิจารณาดู เอ๊ะ...ทำไมแลดูคุ้นๆ
ย้อนกลับไปในปี 2016 หรือปี 2559 เป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียลของไทยทีเดียว เมื่อแบรนด์ห้องเสื้อชื่อดังของโลก “บาเลนเซียก้า” เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวงานปารีส แฟชั่นวีกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อกระเป๋าใบโตรุ่น BARZAR SHOPPER ที่นางแบบทรงสคราญสะพายออกมาโชว์โฉมช่างคุ้นตาคนไทยเสียยิ่งนัก นั่นคือความละม้ายคล้าย “ถุงสายรุ้ง” ที่พ่อค้าแม่ขายใช้ใส่ของลากไปมาหาซื้อได้จากสำเพ็งนั่นเอง ว่ากันว่าเป็นการออกแบบของกลุ่มดีไซเนอร์หัวใหม่ จึงได้เห็นกระเป๋าของแบรนด์นี้มีลวดลายและรูปทรงหลากหลายมากยิ่งขึ้น และราคาขายในช่วงนั้นที่มีด้วยกัน 2 สี 3 ไซซ์ สนนราคาน่ะหรือ XL ราคา 2,340 ดอลลาร์สหรัฐฯ (74,880 บาทที่ 32 บาท/ดอลลาร์) ไซซ์ M ราคา 1,520 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไซซ์ S ราคา 1,405 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราคามิใช่น้อยขณะที่ราคาขายถุงสายรุ้งบ้านเราราคาแค่หลักร้อยบาท เพียงใส่หัวคิด ปรับวัตถุดิบและติดแบรนด์ ราคาทะยานคนละเรื่องทีเดียว
ถ้าจะมาดูผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของไทยๆ ที่เชื่อได้เลยว่าแบรนด์แฟชั่นระดับโลก อาจจะยังคงเมียงมองหา และนำมาเป็นแรงบันดาลใจ (Inspiration) ในการนำไปออกแบบขายในนามแบรนด์ของตน และตัวอย่างอีกหนึ่งที่ชัดๆ เนียนๆ แม้ไม่ใช่ของไทยแต่เราก็รู้จักกันดี บาเลนเซียก้า นำแบบกระเป๋าใส่ของแบรนด์อีเกีย ก็ถูกนำไปออกแบบเป็นกระเป๋าสะพาย หรือแม้แต่กระเป๋าใส่ผ้านวมเราท่านก็ไม่วายนะเจ้าคะกลายเป็นกระเป๋าสะพายสวยเก๋ไปเช่นกันจ้า...
ไม่เท่านั้นกระเป๋าสายรุ้ง ช่วงนั้นดังเป็นพลุ คนหาซื้อหาจองกัน Louis Vuitton ก็เกาะกระแสดังเช่นกันจ้า…มีกระเป๋าลายสก๊อต รุ่น แรร์..ออกมาให้สาวกได้ซื้อหากัน ราคาช่วงนั้นก็แพงไม่แพ้กันอยู่ที่ ราว 70,000 บาททีเดียว
มาดูอีกแบรนด์ ที่นำของเหลือทิ้ง มาครีเอตเป็นของใช้ที่น่าสนใจมาก “Elephbo” ของ นายนิโคลัส ฮักซ์เลย์ ก่อตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 เขาได้สั่งซื้อถุงปูนซีเมนต์ช้างแดง SCG เสือเขียว INSEE ที่ใช้แล้วจากประเทศกัมพูชา แล้วนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระเป๋าหลากหลายรูปแบบแล้วยังพัฒนามาเป็น เป้ กระเป๋าสตางค์ หมวกไปจนถึงรองเท้า ปัจจุบันเขามีช็อปเป็นของตัวเองที่เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สนนราคาก็ดีมาก อย่างกระเป๋าสตางค์ขนาดเล็กและหมวกเริ่มต้นที่ 49 ฟรังก์สวิส, กระเป๋าถือ เริ่มต้นที่ 179 ฟรังก์สวิส, กระเป๋าถือขนาดใหญ่ เริ่มต้นที่ 249 ฟรังก์สวิส, เป้ ราคาเริ่มต้นที่ 139 ฟรังก์สวิส เป็นต้น ส่วนราคาเงินบาท กี่บาทลองคำนวณดูตามอัธยาศัย บอกแค่ว่าเริ่มที่หลักพันบาทขึ้น...
ล่าสุด เจ้าของแบรนด์เหล่านั้น คือ “เอสซีจี” ได้ไปนำเสนอ นวัตกรรม “Green Meeting” ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ผ่านมา มีผลิตภัณฑ์นำเสนอ อาทิ ฉากหลังสำหรับถ่ายภาพ เก้าอี้กระดาษ แท่นบรรยาย กล่องกระดาษสำหรับรับคืนป้ายชื่อคล้องคอ รวมถึงกระเป๋าถุงปูน และตะกร้าสานจากเส้นเทปกระดาษ ที่นำวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิตของเอสซีจี มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม ...ก็ไม่แน่ว่าต่อไปผลิตภัณฑ์ที่นำมาเสนอจะไปเตะตาเตะใจแบรนด์ดังแบรนด์โลกอีกก็เป็นได้
กระแสผลงานสุดสร้างสรรค์ต่อมา..ที่ถูกชื่นชมและแชร์ต่ออย่างมากมายบนโลกโซเชียลในขณะนี้ กับงาน “Cut Out Sketch” งานศิลปะบนกระดาษ “Temple of Dawn Collection” คอลเลกชันวัดอรุณฯ จาก ผลงาน “Paper Art” ตุ๊กตากระดาษสุดสร้างสรรค์ ของ “ดุ๊ก-พชร อาชาศรัย” เขาจบปริญญาตรีจาก สาขาวิชาการละคร คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรียนทางด้านการออกแบบเพื่อการแสดง ออกแบบฉาก ออกแบบแสง ออกแบบเครื่องแต่งกาย ตอนนี้กำลังศึกษาต่อปริญญาโท ภาควิชาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เทอมสุดท้าย และเป็นอาจารย์พิเศษ สอนในรายวิชาพื้นฐานมหาวิทยาลัย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
จุดเริ่มต้นของผลงานมาจาก การไปเที่ยวเขาใหญ่กับครอบครัว พบว่า วิวตรงนั้นสวยดีในกระเป๋ามีกระดาษ คัตเตอร์ ปากกาสีอยู่พอดี เลยอยากลองทำ Cut Out Sketch ดูบ้าง เพราะเคยเห็นผลงานของต่างชาติมาบ้าง เลยลองทำดู พอโพสต์ลงใน Social Media ของตัวเอง ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ ทุกคนเลยเชียร์ให้ทำต่อ เขาบอกว่าเขาจะเตรียมวัสดุไปจากที่บ้าน เพราะชอบนั่งวาดรูปเล่นอยู่แล้ว ยิ่งถ้ามีแพลนจะไปเที่ยวที่ไหนก็จะวาดๆ ตุนไว้ประมาณหนึ่ง เก็บใส่แฟ้มไว้เพื่อง่ายต่อการพกติดตัว เมื่อไปเจอสถานที่หรือมุมที่ชอบ ก็จะนึกชุดที่วาดตัดเตรียมไว้แล้ว สามารถหยิบขึ้นมาถ่ายได้เลย ทำให้เห็นผลงานที่วัดอรุณราชวราราม ออกมาสวยงาม อย่างมาก
ซึ่งก็ไม่แน่ว่าเมื่อรูปต่างๆ ของเขาจะเตะตาโดนใจ แล้วกลายไปเป็นแรงบันดาลใจให้กับดีไซเนอร์เสื้อผ้าแบรนด์ดัง รายใด รายหนึ่งก็เป็นไปได้ เหมือนกับหลายผลิตภัณฑ์ เช่น กระเป๋าสานของไทยหลายๆวัตถุดิบ ที่มีการพัฒนารูปแบบและการผลิต จนกลายเป็นสินค้าส่งออกและติดแบรนด์ในต่างประเทศจนโด่งดังไปแล้วเหมือนกัน
ดังนั้น อย่าดูถูกผลิตภัณฑ์ของไทย ที่วันหนึ่งจะต้องไปผงาดในวงการแฟชั่นโลกอย่างแน่นอน!!
หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,447 วันที่ 24 - 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
ย้อนกลับไปในปี 2016 หรือปี 2559 เป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียลของไทยทีเดียว เมื่อแบรนด์ห้องเสื้อชื่อดังของโลก “บาเลนเซียก้า” เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวงานปารีส แฟชั่นวีกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อกระเป๋าใบโตรุ่น BARZAR SHOPPER ที่นางแบบทรงสคราญสะพายออกมาโชว์โฉมช่างคุ้นตาคนไทยเสียยิ่งนัก นั่นคือความละม้ายคล้าย “ถุงสายรุ้ง” ที่พ่อค้าแม่ขายใช้ใส่ของลากไปมาหาซื้อได้จากสำเพ็งนั่นเอง ว่ากันว่าเป็นการออกแบบของกลุ่มดีไซเนอร์หัวใหม่ จึงได้เห็นกระเป๋าของแบรนด์นี้มีลวดลายและรูปทรงหลากหลายมากยิ่งขึ้น และราคาขายในช่วงนั้นที่มีด้วยกัน 2 สี 3 ไซซ์ สนนราคาน่ะหรือ XL ราคา 2,340 ดอลลาร์สหรัฐฯ (74,880 บาทที่ 32 บาท/ดอลลาร์) ไซซ์ M ราคา 1,520 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไซซ์ S ราคา 1,405 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราคามิใช่น้อยขณะที่ราคาขายถุงสายรุ้งบ้านเราราคาแค่หลักร้อยบาท เพียงใส่หัวคิด ปรับวัตถุดิบและติดแบรนด์ ราคาทะยานคนละเรื่องทีเดียว
ถ้าจะมาดูผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของไทยๆ ที่เชื่อได้เลยว่าแบรนด์แฟชั่นระดับโลก อาจจะยังคงเมียงมองหา และนำมาเป็นแรงบันดาลใจ (Inspiration) ในการนำไปออกแบบขายในนามแบรนด์ของตน และตัวอย่างอีกหนึ่งที่ชัดๆ เนียนๆ แม้ไม่ใช่ของไทยแต่เราก็รู้จักกันดี บาเลนเซียก้า นำแบบกระเป๋าใส่ของแบรนด์อีเกีย ก็ถูกนำไปออกแบบเป็นกระเป๋าสะพาย หรือแม้แต่กระเป๋าใส่ผ้านวมเราท่านก็ไม่วายนะเจ้าคะกลายเป็นกระเป๋าสะพายสวยเก๋ไปเช่นกันจ้า...
ไม่เท่านั้นกระเป๋าสายรุ้ง ช่วงนั้นดังเป็นพลุ คนหาซื้อหาจองกัน Louis Vuitton ก็เกาะกระแสดังเช่นกันจ้า…มีกระเป๋าลายสก๊อต รุ่น แรร์..ออกมาให้สาวกได้ซื้อหากัน ราคาช่วงนั้นก็แพงไม่แพ้กันอยู่ที่ ราว 70,000 บาททีเดียว
มาดูอีกแบรนด์ ที่นำของเหลือทิ้ง มาครีเอตเป็นของใช้ที่น่าสนใจมาก “Elephbo” ของ นายนิโคลัส ฮักซ์เลย์ ก่อตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 เขาได้สั่งซื้อถุงปูนซีเมนต์ช้างแดง SCG เสือเขียว INSEE ที่ใช้แล้วจากประเทศกัมพูชา แล้วนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระเป๋าหลากหลายรูปแบบแล้วยังพัฒนามาเป็น เป้ กระเป๋าสตางค์ หมวกไปจนถึงรองเท้า ปัจจุบันเขามีช็อปเป็นของตัวเองที่เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สนนราคาก็ดีมาก อย่างกระเป๋าสตางค์ขนาดเล็กและหมวกเริ่มต้นที่ 49 ฟรังก์สวิส, กระเป๋าถือ เริ่มต้นที่ 179 ฟรังก์สวิส, กระเป๋าถือขนาดใหญ่ เริ่มต้นที่ 249 ฟรังก์สวิส, เป้ ราคาเริ่มต้นที่ 139 ฟรังก์สวิส เป็นต้น ส่วนราคาเงินบาท กี่บาทลองคำนวณดูตามอัธยาศัย บอกแค่ว่าเริ่มที่หลักพันบาทขึ้น...
ล่าสุด เจ้าของแบรนด์เหล่านั้น คือ “เอสซีจี” ได้ไปนำเสนอ นวัตกรรม “Green Meeting” ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ผ่านมา มีผลิตภัณฑ์นำเสนอ อาทิ ฉากหลังสำหรับถ่ายภาพ เก้าอี้กระดาษ แท่นบรรยาย กล่องกระดาษสำหรับรับคืนป้ายชื่อคล้องคอ รวมถึงกระเป๋าถุงปูน และตะกร้าสานจากเส้นเทปกระดาษ ที่นำวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิตของเอสซีจี มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม ...ก็ไม่แน่ว่าต่อไปผลิตภัณฑ์ที่นำมาเสนอจะไปเตะตาเตะใจแบรนด์ดังแบรนด์โลกอีกก็เป็นได้
กระแสผลงานสุดสร้างสรรค์ต่อมา..ที่ถูกชื่นชมและแชร์ต่ออย่างมากมายบนโลกโซเชียลในขณะนี้ กับงาน “Cut Out Sketch” งานศิลปะบนกระดาษ “Temple of Dawn Collection” คอลเลกชันวัดอรุณฯ จาก ผลงาน “Paper Art” ตุ๊กตากระดาษสุดสร้างสรรค์ ของ “ดุ๊ก-พชร อาชาศรัย” เขาจบปริญญาตรีจาก สาขาวิชาการละคร คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรียนทางด้านการออกแบบเพื่อการแสดง ออกแบบฉาก ออกแบบแสง ออกแบบเครื่องแต่งกาย ตอนนี้กำลังศึกษาต่อปริญญาโท ภาควิชาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เทอมสุดท้าย และเป็นอาจารย์พิเศษ สอนในรายวิชาพื้นฐานมหาวิทยาลัย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
จุดเริ่มต้นของผลงานมาจาก การไปเที่ยวเขาใหญ่กับครอบครัว พบว่า วิวตรงนั้นสวยดีในกระเป๋ามีกระดาษ คัตเตอร์ ปากกาสีอยู่พอดี เลยอยากลองทำ Cut Out Sketch ดูบ้าง เพราะเคยเห็นผลงานของต่างชาติมาบ้าง เลยลองทำดู พอโพสต์ลงใน Social Media ของตัวเอง ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ ทุกคนเลยเชียร์ให้ทำต่อ เขาบอกว่าเขาจะเตรียมวัสดุไปจากที่บ้าน เพราะชอบนั่งวาดรูปเล่นอยู่แล้ว ยิ่งถ้ามีแพลนจะไปเที่ยวที่ไหนก็จะวาดๆ ตุนไว้ประมาณหนึ่ง เก็บใส่แฟ้มไว้เพื่อง่ายต่อการพกติดตัว เมื่อไปเจอสถานที่หรือมุมที่ชอบ ก็จะนึกชุดที่วาดตัดเตรียมไว้แล้ว สามารถหยิบขึ้นมาถ่ายได้เลย ทำให้เห็นผลงานที่วัดอรุณราชวราราม ออกมาสวยงาม อย่างมาก
ซึ่งก็ไม่แน่ว่าเมื่อรูปต่างๆ ของเขาจะเตะตาโดนใจ แล้วกลายไปเป็นแรงบันดาลใจให้กับดีไซเนอร์เสื้อผ้าแบรนด์ดัง รายใด รายหนึ่งก็เป็นไปได้ เหมือนกับหลายผลิตภัณฑ์ เช่น กระเป๋าสานของไทยหลายๆวัตถุดิบ ที่มีการพัฒนารูปแบบและการผลิต จนกลายเป็นสินค้าส่งออกและติดแบรนด์ในต่างประเทศจนโด่งดังไปแล้วเหมือนกัน
ดังนั้น อย่าดูถูกผลิตภัณฑ์ของไทย ที่วันหนึ่งจะต้องไปผงาดในวงการแฟชั่นโลกอย่างแน่นอน!!
หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,447 วันที่ 24 - 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
