ช่วงนี้กระแสการบุกตลาดรถพลังไฟฟ้า“อีวี” ยังมีอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่มีรถขายแต่ปล่อยให้เงียบไม่ได้ครับ
ในเมืองไทย นิสสัน และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ พยายามชิงธงในการเป็นผู้นำตลาดของรถประเภทนี้ (ในระดับโลกนิสสันขายนำไปก่อนและทำยอดขายเป็นอันดับหนึ่งจาก “ลีฟ” เจเนอเรชันแรก) ซึ่งค่ายแรกเปิดตัวพร้อมรับจอง “ลีฟ โฉมใหม่” ไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ส่วนรถจะพร้อมส่งมอบตั้งแต่เดือนเมษายนนี้
ขณะที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประกาศทำตลาดรถพลังไฟฟ้า ภายใต้ซับแบรนด์ “อีคิว” ภายในปีนี้ คาดว่าปลายไตรมาส3ต่อเนื่องไตรมาส4 จะได้เห็นความชัดเจนมากขึ้น ประเดิมด้วยเอสยูวีรุ่น “อีคิวซี”
ช่วงนี้ทั้ง2 ค่ายใหญ่จึงพยายามสื่อสารประชาสัมพันธ์ถึงการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ ซึ่งการใช่ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าก็เป็นส่วนหนึ่ง ควบคู่ไปกับการสร้างระบบนิเวศของรถพลังงานไฟฟ้า อันหมายถึง การบวนการผลิต(รถและแบตเตอรี่) วิธีและช่วงเวลาในการแนะนำรถสู่ตลาด การขาย การบริการหลังการขาย และสถานีชาร์จไฟ
นิสสัน โดย “ปีเตอร์ แกลลี” รองประธาน สายงานสื่อสารองค์กร นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ไปร่วมบรรยายในงาน “การประชุมวิชาการนานาชาติด้านนวัตกรรมพลังงาน 4.0 เกี่ยวกับการออกแบบอนาคตของภาคพลังงานไทย” ที่จัดขึ้นโดยธนาคารพัฒนาเอเชียและประเทศไทย หรือ ADB ร่วมกับกระทรวงพลังงาน
“ปีเตอร์ แกลลี” ให้ข้อมูลที่น่าสนใจครับว่า บทบาทของยานยนต์ในสังคมกำลังเปลี่ยนไป โดยรถยนต์ต้องเป็นมากกว่ายานพาหนะ ไม่เป็นเพียงแค่สิ่งที่นำพาผู้โดยสารจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่สามารถบ่งบอกถึงวิถีไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้
ขณะเดียวกันการบริหารจัดการด้านพลังงานก็สำคัญ เพราะ “อีวี” ที่นอกจากจะวิ่งได้ไกลขึ้นต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้งแล้ว ต่อไปยังต้องแปลงตัวเองให้เป็นแหล่งพลังงาน ป้อนคืนให้แก่ที่พักอาศัยหรือแม้กระทั่งสนามกีฬาอีกด้วย
นั่นเป็นกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่เดินหน้าลุยเพื่อแจ้งเกิดรถพลังไฟฟ้า ส่วนกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่เมืองไทยขับเคลื่อนด้วย 2 แบรนด์หลักคือ “ฮอนด้า” กับ “ยามาฮ่า” ดูจะเงียบๆไปในการแนะนำเทคโนโลยีนี้สู่ตลาดไทย
ที่หวือหวาเป็นข่าวดังในช่วงนี้คือ การประกาศขายมอเตอร์ไซค์อีวี ของ “ดีแทค” ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ พร้อมเปิดตัวกลางปีนี้ 4-5 รุ่น ราคา 4 หมื่น – 1 แสนบาท
...รอดูกันต่อไปกับการลุยธุรกิจยานยนต์ของดีแทค และผมเชื่อว่าจะมีแบรนด์อื่นๆซึ่งอาจจะเป็นน้องใหม่ หรือผู้ที่มีธุรกิจอยู่เดิม หันมาสนใจการผลิตและขายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
การหาพันธมิตรร่วมกันเดิน ถือเป็นวิธีการน่าสนใจในการทำธุรกิจใหม่ที่ยังไม่มีใครที่มีองค์ความรู้รอบด้านเพียงพอ แต่ถ้ามองในแง่การขายมิติเดียว ทำรถพลังไฟฟ้า “อีวี” ตอนนี้ไม่มีคำว่าคู่แข่งครับ เพราะทุกค่ายมีหน้าที่ช่วยกันดัน เพิ่มการรับรู้ในเทคโนโลยี พร้อมสร้างตลาดให้เกิดขึ้นมาก่อน
| คอลัมน์ : ออโตโซไซตี้ โดย กรกิต กสิคุณ
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,444