บสย.ลุยค้ำสินเชื่อรายเล็ก อัดฉีด 2 หมื่นล้าน 27 หัวเมืองอีสาน-ภาคกลาง
บสย.ยุคทรานส์ฟอร์ม ตั้งเป้าปีนี้คํ้าประกัน 27 จังหวัดอีสาน-ภาคกลาง 2 หมื่นล้านบาท นำร่อง “บสย.รักพี่วิน” ช่วยมอเตอร์ไซค์ร้บจ้างเข้าถึงเงินกู้ดอกเบี้ยตํ่า เตรียมขยายสู่อาชีพอิสระอื่น
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) มอบนโยบายให้ฝ่ายกิจการสาขาที่รับผิดชอบสำนักงานเขต บสย.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่ดูแล 4 เขต 20 จังหวัดในอีสาน และ 7 จังหวัดภาคกลาง ว่า ให้ปรับการทำงานเชิงรุก ตอบโจทย์แผนงานเพื่อบรรลุยุทธศาสตร์บสย.ทรานส์ฟอร์ม รับมือความเปลี่ยนแปลง โดยลดการพึ่งภาครัฐ พร้อมก้าวสู่ตลาดธุรกิจใหม่ (News Bu-siness Market) ภายใต้แนวคิดปรับพอร์ตคํ้าประกันสินเชื่อสู่รูปแบบ Direct Guaranteeและแผนการบริหารหนี้อย่างเข้มข้น เพื่อให้ผู้ประกอบการตัวเล็กๆ ให้เติบโตในธุรกิจ และมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น
โดยปี 2562 นี้ บสย.จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง มีแผนงาน 3 เติม คือ เติมทุน เติมความรู้ และเติมคุณภาพชีวิต ให้ผู้ประกอบการทุกอาชีพสามารถเข้าถึงสินเชื่อ และการลงทุนในระบบมากขึ้น พร้อมการให้ความรู้ทางการเงิน การขยายฐานการสนับสนุน SMEs ที่ต้องการขยายการลงทุน เช่น ผู้ประกอบการกลุ่ม S-curve กลุ่ม Start-up และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มฟื้นฟูกิจการ ให้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อได้เช่นกัน เช่น โครงการ “บสย.รักพี่วิน” เพื่อเติมทุนให้กับผู้ประกอบการกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นกลุ่มแรก ก่อนจะขยายไปสู่กลุ่มอาชีพอิสระอื่นๆ เช่น กลุ่มฟรีแลนซ์ ช่างแต่งหน้าเสริมสวย รับเหมารายย่อยๆ แม้กระทั่งอาชีพสื่อมวลชน
“บสย.มั่นใจว่าภายใต้แนวความคิดใหม่ บสย.4.0 เคียงคู่ผู้ประกอบการ SMEs ไทย จะช่วยผลักดันและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการอาชีพอิสระต่างๆ มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น โดยมี บสย.เป็นเครื่องมือสนับสนุนสำคัญ โดยตลอดทั้งปี บสย.จะให้การสนับสนุนตามรายกลุ่ม ยึดแนวทางให้การสนับสนุนส่งเสริมผู้ประกอบการต่อเนื่องตามนโยบายรัฐบาล”
นายมโนฑ ศรีพรมทอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขา 2 กล่าวว่า ในปี 2561 ที่ผ่าน สนง.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ครอบคลุมพื้นที่ 10 จังหวัด คือ ขอนแก่น อุดรธานี สกลนคร กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู นครพนม หนองคาย เลย บึงกาฬ มุกดาหาร ได้อนุมัติวงเงินคํ้าประกันสินเชื่อจำนวน 6,969.85 ล้านบาท รวม 6,544 ราย โดยคํ้าประกันสินเชื่อสูงสุด 3 อันดับแรกผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) ธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) ตามลำดับ โดยมีผู้ขอรับการคํ้าประกันสินเชื่อมากที่สุดคือ ขอนแก่น อุดรธานี และสกลนคร ส่วนธุรกิจที่ขอรับการคํ้าประกันสูงสุดคือ การผลิตและการบริการ
ในปี 2562 มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบสย. โดยสำนักงานเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่ดูแลครอบคลุม 4 เขตภาคอีสาน 20 จังหวัด และภาคกลางอีก 7 จังหวัด จึงได้เตรียมจัดทีมงานลงพื้นที่ลงทำกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมมหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุน การให้ความรู้ด้านการเงิน การเข้าร่วมกิจกรรมกับหน่วยงานพันธมิตร การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมลูกค้าการสร้างการรับรู้แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์คํ้าประกันสินเชื่อที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งในปี 2562 นี้ได้รับเป้าให้คํ้าประกันสินเชื่อแก่ผู้ขอรับบริการ20,000 ราย วงเงินสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท
หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3446 วันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2562
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) มอบนโยบายให้ฝ่ายกิจการสาขาที่รับผิดชอบสำนักงานเขต บสย.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่ดูแล 4 เขต 20 จังหวัดในอีสาน และ 7 จังหวัดภาคกลาง ว่า ให้ปรับการทำงานเชิงรุก ตอบโจทย์แผนงานเพื่อบรรลุยุทธศาสตร์บสย.ทรานส์ฟอร์ม รับมือความเปลี่ยนแปลง โดยลดการพึ่งภาครัฐ พร้อมก้าวสู่ตลาดธุรกิจใหม่ (News Bu-siness Market) ภายใต้แนวคิดปรับพอร์ตคํ้าประกันสินเชื่อสู่รูปแบบ Direct Guaranteeและแผนการบริหารหนี้อย่างเข้มข้น เพื่อให้ผู้ประกอบการตัวเล็กๆ ให้เติบโตในธุรกิจ และมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น
โดยปี 2562 นี้ บสย.จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง มีแผนงาน 3 เติม คือ เติมทุน เติมความรู้ และเติมคุณภาพชีวิต ให้ผู้ประกอบการทุกอาชีพสามารถเข้าถึงสินเชื่อ และการลงทุนในระบบมากขึ้น พร้อมการให้ความรู้ทางการเงิน การขยายฐานการสนับสนุน SMEs ที่ต้องการขยายการลงทุน เช่น ผู้ประกอบการกลุ่ม S-curve กลุ่ม Start-up และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มฟื้นฟูกิจการ ให้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อได้เช่นกัน เช่น โครงการ “บสย.รักพี่วิน” เพื่อเติมทุนให้กับผู้ประกอบการกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นกลุ่มแรก ก่อนจะขยายไปสู่กลุ่มอาชีพอิสระอื่นๆ เช่น กลุ่มฟรีแลนซ์ ช่างแต่งหน้าเสริมสวย รับเหมารายย่อยๆ แม้กระทั่งอาชีพสื่อมวลชน
“บสย.มั่นใจว่าภายใต้แนวความคิดใหม่ บสย.4.0 เคียงคู่ผู้ประกอบการ SMEs ไทย จะช่วยผลักดันและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการอาชีพอิสระต่างๆ มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น โดยมี บสย.เป็นเครื่องมือสนับสนุนสำคัญ โดยตลอดทั้งปี บสย.จะให้การสนับสนุนตามรายกลุ่ม ยึดแนวทางให้การสนับสนุนส่งเสริมผู้ประกอบการต่อเนื่องตามนโยบายรัฐบาล”
นายมโนฑ ศรีพรมทอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขา 2 กล่าวว่า ในปี 2561 ที่ผ่าน สนง.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ครอบคลุมพื้นที่ 10 จังหวัด คือ ขอนแก่น อุดรธานี สกลนคร กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู นครพนม หนองคาย เลย บึงกาฬ มุกดาหาร ได้อนุมัติวงเงินคํ้าประกันสินเชื่อจำนวน 6,969.85 ล้านบาท รวม 6,544 ราย โดยคํ้าประกันสินเชื่อสูงสุด 3 อันดับแรกผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) ธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) ตามลำดับ โดยมีผู้ขอรับการคํ้าประกันสินเชื่อมากที่สุดคือ ขอนแก่น อุดรธานี และสกลนคร ส่วนธุรกิจที่ขอรับการคํ้าประกันสูงสุดคือ การผลิตและการบริการ
ในปี 2562 มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบสย. โดยสำนักงานเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่ดูแลครอบคลุม 4 เขตภาคอีสาน 20 จังหวัด และภาคกลางอีก 7 จังหวัด จึงได้เตรียมจัดทีมงานลงพื้นที่ลงทำกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมมหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุน การให้ความรู้ด้านการเงิน การเข้าร่วมกิจกรรมกับหน่วยงานพันธมิตร การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมลูกค้าการสร้างการรับรู้แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์คํ้าประกันสินเชื่อที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งในปี 2562 นี้ได้รับเป้าให้คํ้าประกันสินเชื่อแก่ผู้ขอรับบริการ20,000 ราย วงเงินสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท
หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3446 วันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2562
