2 สิงห์อินโดนีเซีย "ซูซูกิ เออร์ติก้า" ปะทะ "มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์"

13 ก.พ. 2562 | 00:21 น.
ตลาดมินิเอ็มพีวีคึกคักอีกครั้ง หลังการเปิดตัวของ "ซูซูกิ เออร์ติก้า โฉมใหม่" ซึ่งถือเป็นมวยถูกคู่ มาถูกจังหวะในการปะทะกับ "มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์" ซึ่งปีที่แล้วทำยอดขายได้ร้อนแรงเกินคาด

ปีที่แล้ว มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใช้เวลา 5 เดือน (ส.ค. - ธ.ค. 61) กวาดยอดไป 5,509 คัน แม้ในช่วงเปิดตัวสร้างความประหลาดใจด้วยราคา 7.79 และ 8.49 แสนบาท ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งอย่าง "ฮอนด้า โมบิลิโอ้" (ประกอบไทย) 6.59-7.63 แสนบาท และใกล้เคียงกับ "โตโยต้า เซียนต้า" (ประกอบอินโดนีเซียโดดเด่นด้วยประตูสไลด์ 2 ฝั่ง) 7.5-8.65 แสนบาท

ตลาดมินิเอ็มพีวีในปี 2561 ยอดขายอันดับ 1 ต้องยกให้ "โตโยต้า เซียนต้า" ทำไป 5,533 คัน อแวนซ่า 354 คัน ส่วน "ฮอนด้า โมบิลิโอ้" 2,082 คัน ขณะที่ "ซูซูกิ เออร์ติก้า" ช่วงปลายโมเดลขายได้ 497 คัน

รถในกลุ่มมินิเอ็มพีวีล้วนวางเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร ซึ่ง "เออร์ติก้า โฉมใหม่" ขยับมาในแนวทางนี้ (เดิม 1.4 ลิตร) พร้อมขยายขนาดตัวถังให้ใหญ่ขึ้น เป็นกว้าง 1,735 มม. (+40 มม.) ยาว 4,395 มม.(+130 มม.) สูง 1,690 มม. (+5 มม.) แต่ระยะฐานล้อเท่าเดิม 2,740 มม. แต่กระนั้นยังเล็กกว่า "มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์" ที่ตัวถังใหญ่สุดในคลาส


MP28-3443-A

"เออร์ติก้า โฉมใหม่" แบ่งการขายเป็น 2 รุ่นย่อย GL ราคา 6.55 แสนบาท GX 6.95 แสนบาท (ราคาช่วงแนะนำจนถึงวันที่ 30 เม.ย. นี้) ซึ่งออพชันในตัวท็อปจะใช้พวงมาลัยหุ้มหนัง พร้อมปุ่มควบคุมและระบบ Keyless Push Start - Smart Entry ด้านคอนโซลหน้าและแผงประตูตกแต่งด้วยลายไม้ รวมถึงเพิ่มไฟตัดหมอก รายละเอียดไฟท้าย กระจกข้างพับไฟฟ้า เป็นต้น

เจเนอเรชันที่ 2 ของเออร์ติก้า พัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ที่คุยว่านํ้าหนักเบาและแข็งแกร่ง ทั้งยังยืดหยุ่น สามารถรองรับการพัฒนาเป็นรถประเภทอื่น ๆ ของซูซูกิในอนาคตได้ ส่วนความอเนกประสงค์ในสไตล์เอ็มพีวี มากับเบาะแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนให้ตอบสนองทุกการใช้งาน

ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียม (รุ่นท็อป) ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ (เอ็กซ์แพนเดอร์ใช้แค่ฮาโลเจนแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์) พร้อมไฟท้าย LED โดยทั้ง 2 รุ่นย่อย ใช้ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยขนาด 15 นิ้ว ต่างจาก "มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์" ที่ตัวเริ่มต้น GLS LTD ใช้ขนาด 15 นิ้ว แต่ตัวท็อป GT ใช้ 16 นิ้ว


ERTIGA_Exterior-02 ERTIGA_Exterior-03 ERTIGA_Interior-01 ERTIGA_Interior-02

ช่วงล่างของ 'เออร์ติก้า' และ 'เอ็กซ์แพนเดอร์' มาในรูปแบบเดียวกัน คือ ด้านหลังทอร์ชันบีม ส่วนด้านหน้าอิสระแมกเฟอร์สันสตรัต คอยล์สปริง แต่เอ็มพีวีมิตซูบิชิและเพิ่มเหล็กกันโคลง และเหล็กค้ำหัวโช้ก ห้ามล้อด้วยเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม

เครื่องยนต์เบนซินของเออร์ติก้า โฉมใหม่ รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ประสิทธิผลขุมพลังใกล้เคียงกับเอ็กซ์แพนเดอร์


บาร์ไลน์ฐาน

มินิเอ็มพีวีทั้ง 2 ยี่ห้อ มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐานเหมือนกัน คือ ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันล้อล็อก ระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรก ระบบ ESP ที่ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน แต่มิตซูบิชิจะเพิ่มระบบป้องกันการลื่นไถล และตัวท็อป GT เพิ่มกล้องมองหลังสะท้อนภาพมายังจอแสดงผลขนาด 6.2 นิ้ว ตรงคอนโซลหน้า

สรุป ตัวท็อประหว่าง "เอ็กซ์แพนเดอร์" (8.49 แสนบาท) กับ "เออร์ติก้า" (6.95 แสนบาท) ราคาต่างกัน 1.54 แสนบาท แต่ฟังก์ชันต่าง ๆ หรือ สิ่งที่ได้รับตามสเปกที่ระบุ ทั้งระบบขับเคลื่อนและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ความปลอดภัย มินิเอ็มพีวีแบรนด์ญี่ปุ่นประกอบอินโดนีเซีย 2 รุ่นนี้ จัดมาให้ไม่ต่างกันมาก อย่างไรก็ตาม ดูจากเป้าหมายการขายปีนี้ มิตซูบิชิตั้งใจดันให้ถึง 12,000 คัน (เดือนละ 1,000 คัน) ขณะที่ ซูซูกิ หวังเพียง 2,300-2,500 คันเท่านั้น

หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,443 วันที่  10 - 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ติดตามฐาน