พณ.เล็งจำนำข้าวยุ้งฉางแต่ไก่โห่ ส่งออกขอเวลาเพิ่มจ่ายเงินโรงสี

"พาณิชย์" เรียกโรงสี ผู้ส่งออก ธ.ก.ส. ถกอุดช่องโหว่รับจำนำยุ้งฉางรองรับข้าวหอมมะลิฤดูการใหม่ ป้องราคาตก หลังตลาดส่งออกซบหนัก ทำราคาร่วงยาว ชี้หากโครงการขาดทุนให้ ก.คลังรับผิดชอบด้านผู้ส่งออกเริ่มขาดสภาพคล่อง ขอเวลาโรงสีจ่ายเงินค่าข้าวจาก 30 เป็น 60-90 วัน หวั่นกระทบชิ่งโรงสีไม่มีเงินซื้อข้าวชาวนา

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดข้าวในขณะนี้ว่า ซบเซามาก เนื่องจากคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อสำคัญๆ เช่น แอฟริกาลดลง จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ซึ่งยอมรับว่าเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงกว่าที่คาดไว้ ขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศกำลังประเมินสถานการณ์ก่อนพิจารณาปรับแผนการทำตลาดใหม่ เบื้องต้นจะเน้นแผนที่สามารถทำได้และได้ผลในช่วงนี้ให้ดำเนินการไปก่อน ส่วนแผนตลาดอื่นๆ จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ สิ่งที่สามารถดำเนินการได้ขณะนี้คือการปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ให้เหมาะสมที่สุด

โดยเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์(พณ.) ได้มีการประชุมหารือร่วมกับผู้ส่งออกข้าว โรงสีข้าวและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกหอมมะลิในยุ้งฉาง สำหรับข้าวฤดูการผลิต ปี 2559/60 ซึ่งจะออกสู่ตลาดช่วงปลายปีนี้ เพื่อดึงผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาด และป้องกันราคาตกต่ำ หลังจากที่โครงการที่ดำเนินการไปก่อนหน้าที่ไม่ประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้เนื่องจากหลักการทำงานกำหนดให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เป็นผู้รับผิดชอบหากโครงการประสบปัญหาขาดทุน ทำให้ ธ.ก.ส. ไม่สามารถดำเนินโครงการได้เต็มกำลังเพราะการดำเนินโครงการในลักษณะซื้อสินค้าในราคาสูงกว่าท้องตลาดเพื่อดึงซับพลายออกและหวังให้ราคาตลาดโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นนั้นมีโอกาสขาดทุนสูงมากส่งผลให้ ธ.ก.ส.ไม่เดินหน้าโครงการเต็มรูปแบบเท่าที่ควรจึงมีชาวนามาร่วมโครงการน้อยเบื้องต้นที่ประชุมมีความเห็นให้นำเสนอกระทรวงการคลังเข้ามารับผิดชอบกรณีที่ดำเนินโครงการแล้วขาดทุนคาดว่านำข้อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเร็วๆนี้

ด้านแหล่งข่าวจากสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า มีกลุ่มผู้ส่งออกที่กำลังประสบปัญหาสภาพคล่องชะลอการชำระค่าข้าวให้โรงสี จากเดิมให้เครดิตรอบการชำระอยู่ที่ 30วัน เพิ่มเป็น 60 วัน และ 90 วันนั้นหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ อาจจะส่งผลต่อความคล่องตัวการรับซื้อข้าวจากชาวนาในที่สุด เพราะกำลังการรับซื้อข้าวจะลดลง ทั้งนี้แม้ว่าราคาข้าวจะตกต่ำแต่ก็ยังไม่มีคำสั่งซื้อเพราะตลาดโลกซบเซา ซึ่งผู้ส่งออกส่วนใหญ่หันไปรอการส่งมอบข้าวให้รัฐผ่านระบบจีทูจีซึ่งมีส่วนต่างกำไรสูงกว่า และทิ้งตลาดข้าวทั่วไป เมื่อการซื้อขายแบบจีทูจีชะลอตัวตามไปด้วยก็ส่งผลต่อสภาพคล่องของตัวผู้ประกอบการส่งออกเองด้วย

ขณะที่นายมานัส กิจประเสริฐ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า จากเข้าสู่ฤดูแล้ง เกษตรกรลดการทำนาปรัง ทำให้ผลผลิตข้าวเปลือกเวลานี้มีน้อย และขายได้ราคาเฉลี่ย 8-8.3 พันบาทต่อตัน(ความชื้นไม่เกิน 15%) ขณะนี้โรงสีกว่า 50% ได้หยุดการสีข้าวแล้ว เพราะไม่มีข้าวเปลือก คาดในสิ้นเดือนนี้ข้าวของชาวนาส่วนใหญ่จะเก็บเกี่ยวเกือบหมด โรงสีอาจต้องหยุดยาวไปจนกว่าจะมีฝนตก และชาวนามีน้ำทำนาในรอบใหม่

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,140 วันที่ 17 - 19 มีนาคม พ.ศ. 2559