เอกซเรย์ตรุษจีนวัดความแกร่งเศรษฐกิจแดนมังกร

07 ก.พ. 2562 | 03:00 น.
ตรุษจีนเป็นเทศกาลวันหยุดและการจับจ่ายใช้สอยที่สำคัญที่สุดของประเทศจีน สำหรับปีนี้เทศกาลวันหยุดตรุษจีน 7 วันเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป นี่คือช่วงเวลาแห่งการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทางการจับจ่ายใช้สอย กิน-ดื่ม-เที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ปีนี้สถานการณ์อาจจะแตกต่างออกไปเนื่องจากจีนกำลังเผชิญภาวะสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกา สินค้าส่งออกของจีนไปยังตลาดสหรัฐฯถูกตั้งกำแพงภาษี ส่งผลกระทบต่อการค้าของจีนรวมทั้งจิตวิทยาผู้บริโภคเข้าอย่างจัง

นับตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคชาวจีนที่มีจำนวนมากกว่า 1,400 ล้านคนเริ่มมีกำลังแผ่วลง โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีรายได้ระดับปานกลาง สงครามการค้าส่งผลต่อดัชนีตลาดหุ้นจีนและราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ตกตํ่าลง สะท้อนความวิตกและไม่มั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อสถานการณ์แรงกดดันที่มาจากการเผชิญหน้าทางการค้ากับสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ การขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ยังเป็นอัตราการเติบโตที่ตํ่าที่สุดในรอบกว่า 10 ปี นักวิเคราะห์ชี้ว่า เหตุการณ์เช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะบริษัทที่มุ่งผลิตสินค้าและบริการเจาะกลุ่มชนชั้นกลาง เพราะคนรวยหรือผู้มีรายได้สูงจะยังคงมีกำลังซื้อและใช้สอยต่อไป แต่ชนชั้นกลางที่มีงบใช้จ่ายจำกัด จะเริ่มประหยัดและคิดก่อนซื้อมากขึ้น

บริษัท แอลวีเอ็มเอชฯ ผู้ผลิต และจำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบรนด์หรูจากฝรั่งเศส เปิดเผยว่า สินค้าหรูระดับพรีเมียมมักจะทำยอดขายได้ดีมากในช่วงเทศกาลตรุษจีน และคนรวยของจีนก็ยังใช้จ่ายสูง แต่สัญญาณบางอย่างมีให้เห็นแล้ว
ว่า ตลาดค้าปลีกในภาพรวมเริ่มชะลอการจับจ่าย บริษัท สวอตช์ กรุ๊ป เอจีฯ เผยรายงานว่า ยอดการส่งออกนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ชะลอตัวลงมาก และสาเหตุใหญ่ก็มาจากการชะลอตัวของกำลังซื้อในตลาดจีน

TP12-3442-A มาดูอีกตัวเลขที่น่าสนใจ นั่นคือสถิติที่ว่า นักท่องเที่ยวจีนเป็นผู้สร้างรายได้ 1 ใน 3 ให้กับธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีทั่วโลก ทั้งนี้เฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดตรุษจีนคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนมากกว่า 400 ล้านคนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 4% (ข้อมูลจากซิตีกรุ๊ป) ส่วนนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะออกเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้คือ 7 ล้านคนซึ่งเพิ่มจากปีก่อน 8% แต่เนื่องจากเงินหยวนของจีนมีค่าอ่อนลงนับตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ทำให้มีแนวโน้มว่าจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของชาวจีนจะเบี่ยงเบนมายังประเทศในแถบเอเชียที่ต้นทุนการท่องเที่ยวและค่าครองชีพไม่สูงจนเกินไป ซึ่งนั่นก็หมายความถึงรายได้ที่น่าจะเพิ่มสูงขึ้นของบรรดาร้านค้าปลอดภาษีในประเทศเหล่านี้

เช่นเดียวกับแหล่งท่องเที่ยวควบการพนันขันต่ออย่างมาเก๊า ที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของชาวจีนแผ่นดินใหญ่มาโดยตลอด ทั้งนี้ปี 2561 มาเก๊าต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนมากกว่า 900,000 คน หรือเพิ่มขึ้นราว 40% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ ขณะที่ราคาห้องพักขยับสูงขึ้นเกือบ 4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงปกติ แต่ตรุษจีนปีนี้ คาดว่าเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวจะทำให้นักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่เข้ามาเล่นการพนันที่มาเก๊าอย่างไม่คึกคักเหมือนที่ผ่านมา และคาดว่ารายได้จากบ่อนกาสิโนจะลดลงประมาณ 1% (ข้อมูลจากการสำรวจของบลูมเบิร์ก) เช่นเดียวกับการใช้จ่ายเพื่อซื้อเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์คาดว่าจะลดลงด้วยเช่นกัน บริษัท ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปปิตอล คอร์ป. เผยแพร่รายงานสำรวจตลาดเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา พบว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับ พรีเมียมในจีน ปรับราคาลดลงมาแล้วถึง 20% เมื่อเทียบกับราคาก่อนเดือนตุลาคม 2561

ภาวะการจับจ่ายใช้สอยของชาวจีนในช่วงเทศกาลที่สำคัญที่สุดนี้จะเป็นที่จับตาเพราะการใช้จ่ายที่ลดลงจะเป็นตัวสะท้อนความมั่นใจของผู้คนที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวลง ปัจจุบันขนาดเศรษฐกิจของจีนเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา และมีมูลค่ารวมราว 13 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นพลังขับเคลื่อนราว 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลก เป็นที่คาดหมายว่า เศรษฐกิจจีนในปีนี้จะขยายตัวเพียง 6.2% ลดลงจาก 6.6% ในปีที่ผ่านมา แม้ยังเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการขยายตัวเฉลี่ยของเศรษฐกิจโลก แต่ก็ไม่อาจไว้วางใจ เพราะเศรษฐกิจจีนขยายตัวอยู่บนกองหนี้มูลค่ามหาศาล ซึ่งความสามารถในการชำระหนี้จะขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจที่จะต้องเติบโตมากพอและเร็วพอที่จะสร้างกำไรและรายได้จากการจัดเก็บภาษีเข้ารัฐ ดังนั้นการชะลอตัวของเศรษฐกิจแม้เพียงอัตราน้อยนิด ก็มีผลต่อความสามารถในการคุมปัญหาหนี้ทั้งของภาครัฐ เอกชน และหนี้ครัวเรือนของจีน ที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับสูงถึง 400% ของจีดีพีภายในปี 2565 นี้แล้ว

และยิ่งหนี้สูงเท่าไหร่ ก็หมายถึงผลกระทบมากเท่านั้นต่อเศรษฐกิจโลก หากมันกลายเป็นปัญหาที่รัฐบาลจีนคุมไม่อยู่

หน้า 12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,442 วันที่ 7 - 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

595959859