'ดาร์ลิ่ง' รุกตลาดที่นอน ปูพรมเจาะอสังหาฯไทย-ต่างประเทศ

08 ก.พ. 2562 | 07:20 น.
'ดาร์ลิ่ง' เปิดยุทธศาสตร์รุกตลาดที่นอนไทยกว่า 1 หมื่นล้านบาท ปูพรมเจาะไทย-ต่างประเทศ ชี้! แนวโน้มการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และการท่องเที่ยวขาขึ้น ดันอุตสาหกรรมโต มั่นใจ! โกยรายได้ 600 ล้านบาทในปีนี้

นางเพ็ญศรี แช่มปรีดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที่นอนดาร์ลิ่ง ขอนแก่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายที่นอน ภายใต้แบรนด์ดาร์ลิ่ง เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
ว่า ยุทธศาสตร์การดำเนินงานของบริษัทนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการทำตลาดเชิงรุกทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของลูกค้าโครงการภายในประเทศ ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยบวกมาจากเรื่องของธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งคอนโดฯ โรงแรม ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ จำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวสูงขึ้นถึง 40 ล้านคนในปีนี้ ทำให้มั่นใจว่าจะส่งผลธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะโรงแรมมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

 

[caption id="attachment_384596" align="aligncenter" width="335"] เพ็ญศรี แช่มปรีดา เพ็ญศรี แช่มปรีดา[/caption]

ทั้งนี้ มองว่าเป็นโอกาสดีของบริษัทในการสร้างโอกาสทางการเติบโตในกลุ่มลูกค้าโครงการ ซึ่งถือเป็นช่องทางที่บริษัทมีความถนัดและเป็นผู้นำอยู่แล้ว โดยวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยอดขายของช่องทางลูกค้าโครงการเพิ่มเป็น 30% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 20% และช่องทางรีเทล 80% สำหรับแนวทางการสร้างแบรนด์ในช่องทางลูกค้าโครงการ บริษัทจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพพนักงานขาย ให้มีความรู้ความเข้าใจของคุณสมบัติเครื่องนอนที่ดีเพื่อใช้ในการสื่อสารแบรนด์ไปยังลูกค้า

"เราเติบโตมาจากการขายช่องทางลูกค้าโครงการในยุคแรกที่ทำตลาดตั้งแต่ช่วง 60 ปีที่ผ่านมา จน 30 ปีให้หลัง จึงเริ่มขยายเข้าช่องทางรีเทลมากขึ้น"


mp30-3442-a

ทั้งนี้ ยังได้เตรียมงบประมาณราว 5-7% เพื่อใช้ในการสร้างแบรนด์ในช่องทางรีเทลให้มีความแข็งแกร่ง พร้อมทั้งขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบัน บริษัทมีการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางโฮมโปรทั่วประเทศ ซึ่งจะให้ความสำคัญกับการสื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Blocker และ Website มากขึ้น หลังจากบริษัทได้มีการสื่อสารแบรนด์ผ่านช่องทางดังกล่าวมาตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และพบว่า สามารถสร้างการเข้าถึงไปยังกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีแผนในการเปิดตัวเครื่องนอนใหม่ในกลุ่มสุขภาพและความงามราว 3-4 รายการเข้าทำตลาด ไม่ว่าจะเป็น ที่นอนคอลลาเจน ที่นอนเพื่อสุขภาพ รวมไปถึงชุดที่นอนสมัยใหม่ ที่มีนํ้าหนักเบา (Handle) สามารถพับเก็บ และส่งดีลิเวอรีได้ เพื่อใช้เป็นสินค้าเรือธงสำคัญในการขยายตลาดในช่องทางออนไลน์

ด้านตลาดต่างประเทศ ภายหลังจากที่บริษัทได้เข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี สิงคโปร์ ญี่ปุ่น มัลดีฟส์ ทั้งในรูปแบบของการจำหน่ายผ่านดิสตริบิวเตอร์ภายใต้แบรนด์ของตัวเองและในรูปแบบของการรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ ล่าสุด ได้เตรียมขยายตลาดเข้าไปในประเทศฟิลิปปินส์ อินเดีย และจีน เพิ่มเติม โดยเบื้องต้นอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับพาร์ตเนอร์ชาวท้องถิ่น

"ในจีนเรามองว่า แม้จะมีการแข่งขันกันสูงแต่จากความนิยมในสินค้าแบรนด์ไทยที่เป็นยางพารา โดยเฉพาะชุดเครื่องนอน หมอน เบื้องต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพาร์ตเนอร์ในจีนราว 2-3 ราย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถหาข้อสรุปร่วมกันและเริ่มวางจำหน่ายได้ในเร็ว ๆ นี้"


090861-1927-9-335x503-8-335x503-13-335x503

อย่างไรก็ตาม บริษัทวางเป้าหมายยอดขายในสิ้นปีนี้ไว้ที่ 600 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 15% แบ่งเป็น ยอดขายที่มาจากในประเทศ 70-75% และต่างประเทศ 25-30% โดยปัจจุบัน ตลาดที่นอนเมืองไทยมีมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดที่นอนระดับบนที่มีราคาตั้งแต่ 4 หมื่นบาทขึ้นไป 20% มีการเติบโตที่ไม่หวือหวามากนัก ตลาดที่นอนระดับกลางที่มีราคาตั้งแต่ 1-4 หมื่นบาท 40% และตลาดที่นอนระดับล่าง ราคาตํ่ากว่า 1 หมื่นบาท 40% โดยทั้งตลาดกลางและตลาดล่างถือเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยที่ 10% ต่อปี

หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,442 วันที่ 7 - 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว