ปตท.สผ. เฮ! กำไรสุทธิปี 61 เพิ่มขึ้น 89% อนุมัติจ่ายปันผล 5 บาทต่อหุ้น

30 ม.ค. 2562 | 07:51 น.
ปตท.สผ. เฮ! กำไรสุทธิปี 61 เพิ่มขึ้น 89% อนุมัติจ่ายปันผล 5 บาทต่อหุ้น ชี้! ปริมาณการขายและราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยสูงขึ้น

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. รายงานผลประกอบการปี 2561 ว่า มีกำไรสุทธิ 1,120 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (สรอ.) (เทียบเท่า 36,206 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 89% จาก 20,579 ล้านบาท ในปี 2560 เนื่องจากปริมาณการขายและราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยสูงขึ้น พร้อมลงทุนตามแผนกลยุทธ์ มุ่งลงทุนในพื้นที่ยุทธศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยถึงกำไรสุทธิในปี 2561 ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยหลักเป็นผลมาจากปริมาณการขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 305,522 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จาก 299,206 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ในปี 2560 ซึ่งมาจากการเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนเพิ่มเติมร้อยละ 22.2222 ในโครงการบงกช ทำให้ ปตท.สผ. มีสัดส่วนการลงทุนรวมร้อยละ 66.6667 ส่งผลให้ปริมาณการขายและกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นทันที หลังจากการซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ในเดือน มิ.ย. 2561 สำหรับราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ย ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบโลก มาอยู่ที่ 46.66 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 19% จาก 39.20 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ในปี 2560

สำหรับรายได้รวมในปี 2561 ของ ปตท.สผ. อยู่ที่ 5,459 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 176,687 ล้านบาท) และมีรายจ่ายและค่าใช้จ่ายทางภาษี รวมทั้งสิ้นที่ 4,339 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 140,481 ล้านบาท) ทั้งนี้ ต้นทุนต่อหน่วยในปีที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ 31.7 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ โดยเป็นผลจากค่าภาคหลวงที่ปรับตัวตามรายได้จากการขาย รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของโครงการบงกช อย่างไรก็ตาม ปตท.สผ. ยังคงมีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยในปีที่ผ่านมา มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน จำนวน 3,276 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 106,058 ล้านบาท) และมีระดับอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) ที่ 73%

 

[caption id="attachment_381888" align="aligncenter" width="356"] พงศธร ทวีสิน พงศธร ทวีสิน[/caption]

จากผลประกอบการข้างต้น คณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2562 อนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2561 ที่ 5 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ ปตท.สผ. ได้จ่ายสำหรับงวด 6 เดือนแรกไปแล้ว ในอัตรา 1.75 บาทต่อหุ้น ส่วนที่เหลืออีก 3.25 บาทต่อหุ้น จะกำหนดวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อรับสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 13 ก.พ. 2562 และจะจ่ายในวันที่ 11 เม.ย. 2562 ภายหลังได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2562 แล้ว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. กล่าวอีกว่า "ตั้งแต่ปีนี้จะเห็น ปตท.สผ. เดินหน้าเชิงรุกมากขึ้น อาทิ ล่าสุด บริษัทได้รับสัมปทานแปลงสำรวจปิโตรเลียมนอกชายฝั่ง 2 แปลง ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งทำให้ ปตท.สผ. ได้เข้าไปลงทุนในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์การลงทุนอีกครั้ง รวมทั้งเป็นโอกาสให้เราได้ร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานระดับโลก สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ใหม่ของ ปตท.สผ. "Energy Partner of Choice" ที่มุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างคุณค่าในระยะยาวให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย"


ปตทซสผ.2

นอกจากนี้ จะเร่งผลักดันการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายในโครงการหลักที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนา โดยเฉพาะโครงการ "โมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน" ซึ่งคาดว่าจะตัดสินใจลงทุนได้ตามแผนภายในครึ่งแรกของปี 2562 นี้ นอกจากนั้นจะเร่งรัดกิจกรรมการสำรวจในโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาและมาเลเซีย รวมทั้งมองหาโอกาสเข้าลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลางเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตและเพิ่มปริมาณสำรองให้กับบริษัทได้ในอนาคต

สำหรับแหล่งบงกชและเอราวัณในอ่าวไทยนั้น หลังจากกระทรวงพลังงานประกาศให้ ปตท.สผ. เป็นผู้ชนะการประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติทั้ง 2 แหล่ง เมื่อเดือน ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา ขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างรอการลงนามในสัญญาแบ่งปันผลผลิต เพื่อเริ่มดำเนินงานตามแผนงานต่าง ๆ ที่วางไว้ในการรักษาปริมาณการผลิตของทั้ง 2 แหล่ง ตามแผนงาน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ

e-book-1-503x62