มารยาตลาดหุ้น : “หมอเสริฐ ปราสาททองโอสถ” “เสือเฒ่า” หรือ “จิ้งจอก”พันปี?!?

เป็นเรื่องราวใหญ่โต ภายหลัง “น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ” พร้อมลูกสาว ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งมาตรการลงโทษทางแพ่ง กรณีสร้างราคา หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่า “ปั่นหุ้น” บมจ.การบินกรุงเทพ (BA)

โดยทาง ก.ล.ต. ได้เรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งแบบจิ๊บๆ รวม 499.45 ล้านบาท และสั่งห้ามเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน

อ่าน | กบข. จ่อเพิ่ม BA "หุ้นห้ามลงทุน" 
อ่าน | ทางออกนอกตำรา : เศรษฐีเมืองไทยหนาว... ก.ล.ต.มิใช่ ‘เชือดไก่...กา’ 
อ่าน | เปิดหลักฐาน 'หมอเสริฐ' เท 2 พันล้านปั่นหุ้น BA 
อ่าน | เชือด "หมอเสริฐ" ปั่นหุ้น ไล่พ้น บจ. 

นี่ถือเป็นข่าวใหญ่สำหรับตลาดหุ้นไทย ที่เศรษฐีหุ้นอันดับ 1 หลายปีซ้อนถูกกล่าวโทษว่า “ปั่นหุ้น”!!

อย่างไรก็ตาม การกล่าวโทษนี้ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นแห่งกระบวนการยุติธรรม “หมอเสริฐ” ยังไม่ใช่ผู้กระทำผิด 100%

หาก “หมอเสริฐ” ไม่ชำระค่าปรับ ก.ล.ต.ก็ต้องฟ้องแพ่ง และสามารถต่อสู้ไปได้อีก 3 ศาล เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน

[caption id="attachment_379453" align="aligncenter" width="500"] [/caption]

แต่สำหรับหลักของ “กฎแห่งกรรม” เหตุได้เกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมุมใดมุมหนึ่ง เช่น

ถ้า “หมอเสริฐ” ปั่นหุ้นจริง ก็แสดงว่า “หมอเสริฐ” มีสันดานนิสัยที่รวยแล้วไม่เคยพอ ยังอุตตริมาปั่นหุ้นหลอกเอาเงินชาวบ้านอีก และนี่ก็ถือเป็นกรรมว่าด้วยการลักทรัพย์

อ่าน | ก.ล.ต. ขีดเส้นตาย "หมอเสริฐ" ควักเงินจ่ายค่าปรับภายใน 14 วัน
อ่าน |"หมอเสริฐ–ลูกสาว" ลาออกจาก "BDMS-BA" ประกาศสู้คดี ก.ล.ต. ในชั้นศาล 
อ่าน |ก.ล.ต. ฟัน! "หมอเสริฐ" ปั่นหุ้น BA 

หรืออีกมุมหนึ่ง ถ้า “ก.ล.ต.” ที่นำโดย “รพี สุจริตกุล” เลขาฯ ที่ต้องการสร้างวีรกรรมชื่อเสียงก่อนหมดวาระ และผู้ช่วยเลขาฯ “สมชาย พงษ์พัฒนาศิลป์” ที่ดูแลด้านคดี ลุแก่อำนาจ กลั่นแกล้งกล่าวโทษ “หมอเสริฐ” ด้วยเหตุผลส่วนตัวหรือใดๆ ก็ตาม นี่ก็ถือเป็นกรรมเช่นเดียวกัน ที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจอย่างบิดเบือนและไม่สุจริต...

และหากสุดท้ายศาลตัดสินให้ “หมอเสริฐ” ไม่ผิด (ซึ่งคงอีกกว่า 6 ปี) “แพะรุ่นใหญ่” ตัวนี้คงแก่มากเกินกว่าจะฟ้องร้องเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่กลั่นแกล้งตน!

[caption id="attachment_379960" align="aligncenter" width="503"] รพี สุจริตกุล[/caption]

ความเสียหายอื่นเช่น ชื่อเสียง เกียรติยศ และภาพลักษณ์ของ “หมอเสริฐ” กับบริษัทในเครืออันนี้ไม่ต้องพูดถึง แน่นอนเจ้าค่ะ “เละเป็นโจ๊ก” แบบเรียกไม่ได้เพราะกว่าคดีจะสิ้นสุดก็อีกนานอย่างที่บอก!!

อ่าน | "เลขาฯหมอเสริฐ" ขายหุ้น BA กวาดเงินอู้ฟู่เฉียด 56 ล้าน
อ่าน | หุ้นกลุ่ม"หมอเสริฐ"ไม่รอด กอดคอร่วงระนาว 
อ่าน | BDMS แต่งตั้ง "นฤมล น้อยอ่ำ" รักษาการแทน "หมอปราเสริฐ" มีผล 23 ม.ค. 

ก็อย่างว่า เพราะกฎหมายไทยใช้ “ระบบกล่าวหา”

และ “พ.ร.บ.หลักทรัพย์ไทย” จงใจเขียนคลุมเครือเพื่อเอื้อให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้ดุลพินิจได้อย่างเต็มที่!!

เจ้ากรรมจึงตกที่ผู้ไม่ซูฮกต่อเจ้าหน้าที่รัฐและริเป็นปฏิปักษ์ต่อสำนักงาน...

จริงๆ หากมั่นใจในความบริสุทธิ์ น่าจะฟ้องกลับสักดอกนะเจ้าคะ?!?
ข้อแตกต่างระหว่าง “เสือ” และ “จิ้งจอก” คือเสือเจ็บแล้วไม่ร้องและเสือหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีของตน ส่วนหมาจิ้งจอกนั้นหากินอย่างปลิ้นปล้อนหลอกลวงไร้เกียรติ

“หมอเสริฐ” เปรียบได้ดั่งสัตว์ชนิดใด อนาคตเท่านั้นที่ตอบได้... แต่วันนี้ด้วยช่องว่างของสติปัญญาคนไทย คำพิพากษาส่วนใหญ่ได้ตีตราไว้แล้วว่า “หมอเสริฐ” คือ “คนรวยที่เข้าข่ายเอาเปรียบนักลงทุน”

อ่าน | คอลัมน์ มารยาในตลาดหุ้น ทั้งหมด >>คลิก<< 

|คอลัมน์ : มารยาตลาดหุ้น
| โดย : คุณนายเผือก 
|หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3439 หน้า 17 ระหว่างวันที่ 27-30 ม.ค.2562