สภาหอฯ เปิดตัวสถาบันอัจฉริยะ ดันค้า CLMV 1.3 ล้านล้าน โตได้อีก
สภาหอฯ เปิดตัวสถาบันอัจฉริยะการค้าการลงทุน ดึงบิ๊กธุรกิจชั้นนำเป็นพี่เลี้ยงช่วยสอนเชิงน้องเล็ก แนะเคล็ดลับลุยขยายการค้า-ลงทุนกลุ่ม CLMV ให้ประสบความสำเร็จ หลังเศรษฐกิจยังโตระดับ 6-7% พร้อมช่วยเชื่อมเข้าถึงข้อมูลภาครัฐ-เอกชนได้รวดเร็ว ลดซับซ้อน
นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยว่า ปัจจุบัน ภาครัฐให้ความสำคัญกับการขยายความเชื่อมโยงทางการค้าและการลงทุนกับกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความร่วมมือในลักษณะการเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ระหว่างไทยกับกลุ่ม CLMV เพื่อช่วยสร้างความเจริญเติบโตอย่างทั่วถึง และพัฒนาในภูมิภาคร่วมกันอย่างยั่งยืน ซึ่งเมื่อพิจารณาศักยภาพของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV ที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างสูงในปัจจุบัน โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจกัมพูชา ปี 2562 จะขยายตัว 6.8% ลาว 7% เมียนมา 6.8% และเวียดนาม 6.5% โดยการเติบโตดังกล่าวจะมาจากการส่งออกและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) อีกทั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้นจะส่งผลให้รายได้ต่อหัวของประเทศในกลุ่มประเทศ CLMV มีแนวโน้มสูงขึ้นตามไปด้วย
[caption id="attachment_378665" align="aligncenter" width="503"]
สนั่น อังอุบลกุล[/caption]
นอกจากนี้ กลุ่มประเทศ CLMV ยังได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) จากสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (อียู) จึงถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยในการทำการค้าและการลงทุนในกลุ่ม CLMV อีกทั้งสินค้าไทยก็เป็นที่นิยมในตลาด CLMV และยังมีความใกล้ชิด รู้จักขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมระหว่างกันอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการสารพลังประชารัฐ D4 ซึ่งมี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าฝ่ายภาครัฐ และนายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นหัวหน้าภาคเอกชน ได้มีแนวคิดในการจัดทำโครงการ Knowledge Tank พร้อมทั้งได้จัดตั้ง "สถาบันที่ปรึกษาอัจฉริยะการค้าและการลงทุน (Advising Investment and Trade Institute : AITI)" ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการดังกล่าว โดยมีหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการ
"สถาบัน AITI ถือเป็นอีกมิติใหม่ของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าฯ ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลการค้าการลงทุนได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจง่าย โดยสถาบันได้มีการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ เพื่อลดความซับซ้อนระหว่างกัน"
ด้าน นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ หัวหน้าโครงการ Knowledge Thank และประธานกรรมการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถาบันที่ปรึกษาอัจฉริยะการค้าและการลงทุน ซึ่งอยู่ภายใต้ "หอการค้าไทย" และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะเป็นผู้ให้บริการนั้น จะมีกิจกรรมที่เป็นจุดเด่นของสถาบันนี้ คือ กิจกรรม Mentorship Program จะแตกต่างจากการอบรมหรือให้คำปรึกษา (Coaching) ซึ่งกิจกรรม Mentorship Program จะเป็นการจับคู่กันระหว่าง Mentor (ที่ปรึกษา/พี่เลี้ยง) และ Mentee (คนเรียนหรือถูกสอนงาน) เพื่อช่วยให้คำปรึกษา แบ่งปันเคล็ดลับระหว่างกันอย่างใกล้ชิด โดยได้รับเกียรติจากนักธุรกิจชั้นนำของประเทศที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนในต่างประเทศ เข้าร่วมเป็น Mentor ซึ่งทุกคนได้สละเวลาอันมีค่าเพื่อเข้าร่วมเป็น Mentor ในกิจกรรมดังกล่าว
นอกจากนี้ ทางสถาบัน AITI ยังมีวัตถุประสงค์ของการดำเนินการอีก 5 ด้าน ได้แก่ 1.เป็นศูนย์กลางในการจัดทำฐานข้อมูลด้านการค้า การลงทุน ที่ทันต่อเหตุการณ์ โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV และผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง 2.เป็นศูนย์ให้คำแนะนำ ปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุน การประกอบธุรกิจในกลุ่ม CLMV 3.เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยง เผยแพร่ และวิเคราะห์ผลการประชุม งานสัมมนา งานวิจัย ที่ทันสมัยด้านการค้า การลงทุนในอาเซียน ที่จัดทำโดยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา
4.ให้บริการการวิเคราะห์ วิจัย เกี่ยวกับการค้า การลงทุนในประเทศอาเซียนตามความต้องการ (On demand) ของภาคธุรกิจ และ 5.เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ให้รู้จักพัฒนาฐานข้อมูลของกิจการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลและนำความรู้จากศูนย์ข้อมูลไปใช้อย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร ระบุ ในปี 2561 การค้าไทยกับกลุ่ม CLMV มีมูลค่ารวม 1.33 ล้านล้านบาท โดยไทยส่งออก 9.40 แสนล้านบาท และนำเข้า 3.93 แสนล้านบาท
นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยว่า ปัจจุบัน ภาครัฐให้ความสำคัญกับการขยายความเชื่อมโยงทางการค้าและการลงทุนกับกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความร่วมมือในลักษณะการเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ระหว่างไทยกับกลุ่ม CLMV เพื่อช่วยสร้างความเจริญเติบโตอย่างทั่วถึง และพัฒนาในภูมิภาคร่วมกันอย่างยั่งยืน ซึ่งเมื่อพิจารณาศักยภาพของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV ที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างสูงในปัจจุบัน โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจกัมพูชา ปี 2562 จะขยายตัว 6.8% ลาว 7% เมียนมา 6.8% และเวียดนาม 6.5% โดยการเติบโตดังกล่าวจะมาจากการส่งออกและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) อีกทั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้นจะส่งผลให้รายได้ต่อหัวของประเทศในกลุ่มประเทศ CLMV มีแนวโน้มสูงขึ้นตามไปด้วย
[caption id="attachment_378665" align="aligncenter" width="503"]
นอกจากนี้ กลุ่มประเทศ CLMV ยังได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) จากสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (อียู) จึงถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยในการทำการค้าและการลงทุนในกลุ่ม CLMV อีกทั้งสินค้าไทยก็เป็นที่นิยมในตลาด CLMV และยังมีความใกล้ชิด รู้จักขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมระหว่างกันอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการสารพลังประชารัฐ D4 ซึ่งมี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าฝ่ายภาครัฐ และนายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นหัวหน้าภาคเอกชน ได้มีแนวคิดในการจัดทำโครงการ Knowledge Tank พร้อมทั้งได้จัดตั้ง "สถาบันที่ปรึกษาอัจฉริยะการค้าและการลงทุน (Advising Investment and Trade Institute : AITI)" ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการดังกล่าว โดยมีหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการ
"สถาบัน AITI ถือเป็นอีกมิติใหม่ของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าฯ ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลการค้าการลงทุนได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจง่าย โดยสถาบันได้มีการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ เพื่อลดความซับซ้อนระหว่างกัน"
ด้าน นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ หัวหน้าโครงการ Knowledge Thank และประธานกรรมการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถาบันที่ปรึกษาอัจฉริยะการค้าและการลงทุน ซึ่งอยู่ภายใต้ "หอการค้าไทย" และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะเป็นผู้ให้บริการนั้น จะมีกิจกรรมที่เป็นจุดเด่นของสถาบันนี้ คือ กิจกรรม Mentorship Program จะแตกต่างจากการอบรมหรือให้คำปรึกษา (Coaching) ซึ่งกิจกรรม Mentorship Program จะเป็นการจับคู่กันระหว่าง Mentor (ที่ปรึกษา/พี่เลี้ยง) และ Mentee (คนเรียนหรือถูกสอนงาน) เพื่อช่วยให้คำปรึกษา แบ่งปันเคล็ดลับระหว่างกันอย่างใกล้ชิด โดยได้รับเกียรติจากนักธุรกิจชั้นนำของประเทศที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนในต่างประเทศ เข้าร่วมเป็น Mentor ซึ่งทุกคนได้สละเวลาอันมีค่าเพื่อเข้าร่วมเป็น Mentor ในกิจกรรมดังกล่าว
นอกจากนี้ ทางสถาบัน AITI ยังมีวัตถุประสงค์ของการดำเนินการอีก 5 ด้าน ได้แก่ 1.เป็นศูนย์กลางในการจัดทำฐานข้อมูลด้านการค้า การลงทุน ที่ทันต่อเหตุการณ์ โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV และผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง 2.เป็นศูนย์ให้คำแนะนำ ปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุน การประกอบธุรกิจในกลุ่ม CLMV 3.เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยง เผยแพร่ และวิเคราะห์ผลการประชุม งานสัมมนา งานวิจัย ที่ทันสมัยด้านการค้า การลงทุนในอาเซียน ที่จัดทำโดยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา
4.ให้บริการการวิเคราะห์ วิจัย เกี่ยวกับการค้า การลงทุนในประเทศอาเซียนตามความต้องการ (On demand) ของภาคธุรกิจ และ 5.เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ให้รู้จักพัฒนาฐานข้อมูลของกิจการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลและนำความรู้จากศูนย์ข้อมูลไปใช้อย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร ระบุ ในปี 2561 การค้าไทยกับกลุ่ม CLMV มีมูลค่ารวม 1.33 ล้านล้านบาท โดยไทยส่งออก 9.40 แสนล้านบาท และนำเข้า 3.93 แสนล้านบาท
