ประธานบอร์ด อคส.เตรียมชง ครม.ไฟเขียวแก้ไขมติข้าวถุงช่วยชาวสวนยางเป็นขนาดบรรจุ 25 กก. เผยราคาสุดท้ายต่อรองได้ที่ 74 บาทต่อ 5 กก. แต่ค่าใช้จ่ายดำเนินการยังเท่าเดิม พร้อมเปิดตัวโลโกใหม่ให้ยลโฉม ขณะสมาคมฯข้าวถุงรอเซ็นสัญญา เผยแบ่งครึ่งๆ สมาชิก-สมาคมโรงสีปักษ์ใต้ผลิต 8.02 แสนถุง
จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 12 มกราคม 2559 ได้มอบหมายให้องค์การคลังสินค้า (อคส.)ไปตกลงกับสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทยในการจัดทำข้าวสารเจ้า 5% ขนาดบรรจุถุง 5 กิโลกรัม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ 68 จังหวัด จำนวน 8.02 แสนครัวเรือน จำนวน 4.01 ล้านถุงนั้น
พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ด อคส.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ล่าสุดได้มีการออกแบบเครื่องหมายตราสัญลักษณ์ของถุงบรรจุข้าว "โครงการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา" เสร็จเรียบร้อยแล้ว (ดูภาพประกอบ) ขณะเดียวกันยังได้ต่อรองราคากับสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทยจากเดิมผู้ประกอบการยื่นเสนอราคาข้าวถุงขนาด 5 กิโลกรัมมาที่ อคส. ในราคาถุงละ 90.25 และ 85.25 บาท ตามลำดับ แต่ท้ายสุดสามารถต่อรองราคาได้ที่ถุงละ 74 บาท และได้มีการปรับขนาดบรรจุใหม่จากถุงละ 5 กิโลกรัม เป็นขนาด 25 กิโลกรัม รวม 8.02 แสนถุง
ทั้งนี้จากการปรับขนาดแพ็กเก็จจิ้งใหม่ ทำให้ทาง อคส.ไม่ต้องขอวงเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพิ่ม กล่าวคือ ยังอยู่ในกรอบเดิมคือเป็นข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2556/2557 ในกรอบไม่เกิน 3 หมื่นตัน เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ประกอบด้วยมูลค่าข้าวที่ใช้บรรจุถุงประมาณ 2 หมื่นตันเศษ และค่าใช้จ่ายในการบรรจุและตรวจสอบคุณภาพข้าวสารบรรจุถุง ค่าขนส่งในการกระจายส่งมอบข้าวสารบรรจุถุงตามระยะทาง ค่าบริหารจัดการ ค่าใช้จ่ายในการกำกับดูแล และค่าใช้จ่ายอื่นๆ คิดเป็นข้าวสารอีกประมาณ 9.9 พันตัน โดยคำนวณจากราคาค่าจ้าง เป็นค่าข้าวรวมกระสอบในมูลค่า 1 หมื่นบาทต่อตัน อย่างไรก็ดีจะต้องขอให้ อคส.แก้มติครม.เพิ่มเติมเรื่องขอเปลี่ยนแปลงขนาดถุงใหม่ คาดจะเสนอเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในวันที่15 มีนาคมนี้
ด้านนายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสมาคมยังไม่มีการเซ็นสัญญาจัดทำข้าวสารบรรจุถุงคุณภาพดี ได้มาตรฐานกระทรวงพาณิชย์กับ อคส.ในฐานะคู่สัญญา ก่อนหน้านี้ทางสมาคมได้ส่งหนังสือทวงถามไปแล้วหลายครั้ง ทำให้ทราบว่าเอกสารยังไม่เรียบร้อยจึงยังไม่มีการผลิตและบรรจุข้าว
สำหรับในการจัดทำข้าวถุงครั้งนี้ทางสมาคมได้จัดสรรให้กับสมาชิกของสมาคมจำนวน 10 ราย เฉลี่ยรายละ 4 หมื่นถุง (รวม 4 แสนถุง ขนาดถุงละ 25 กิโลกรัม) ในสัดส่วนที่เท่าๆ กัน ส่วนกรณีที่สมาคมโรงสีในภาคใต้ได้เจรจาขอรับช่วงผลิตข้าวถุงช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางด้วยนั้น ทางสมาคมได้ตกลงที่จะแบ่งสัดส่วนการผลิตให้ครึ่งหนึ่ง (4 แสนถุง) ซึ่งได้รอทำสัญญาสองฝ่ายเช่นกัน
อนึ่ง กรอบระยะเวลาโครงการจัดทำข้าวถุงเพื่อช่วยเหลือผู้ปลูกยางพาราที่ได้รับผลกระทบจากราคายางตกต่ำตามมติ ครม.เดิมมีระยะเวลาดำเนินงานภายใน 3 เดือน คือระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2559 แต่ล่าสุด ครม.ได้มีการขยายระยะเวลาดำเนินโครงการเป็นสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคม 2559 นอกจากโครงการแจกข้าวถุงเพื่อช่วยเหลือลดค่าครองชีพชาวสวนยางทั่วประเทศแล้ว รัฐบาลยังได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในไปจัดหา และจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ข้าวสาร น้ำมีนพืช ไข่ไก่ น้ำตาลทรายราคาต่ำกว่าราคาตลาด 20-40% ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,139 วันที่ 13 - 16 มีนาคม พ.ศ. 2559