คนร. ไฟเขียว! 'ไอแบงก์' พ้นแผนฟื้นฟู

17 ม.ค. 2562 | 07:13 น.
คนร. เห็นชอบธนาคารอิสลามออกจากแผนฟื้นฟู มอบกระทรวงการคลังดูแลให้ดีต่อไป จี้! บินไทยเร่งขายเครื่องบินปลดระวาง

นางปานทิพย์ ศรีพิมล ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เมื่อวันที่ 17 ม.ค. โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ออกจากกลุ่มรัฐวิสาหกิจที่ต้องจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาองค์กร และมอบหมายให้กระทรวงการคลังกำกับดูแล ธอท. ให้สามารถดำเนินการตามแผนงานต่อไป

ทั้งนี้ ฐานะทางการเงินของ ธอท. ปัจจุบัน มีความแข็งแกร่งแล้ว จากการเพิ่มทุนในช่วงปลายปี 2561 และในปี 2561 ผลประกอบการของ ธอท. มีกำไรที่สูงกว่าแผนงาน แต่ยังมีระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Finance : NPF) สูงกว่าแผนเล็กน้อย ซี่ง คนร. เห็นว่า ธอท. มีผลประกอบการที่ดี มีกำไรแล้ว และมีการปรับปรุงระบบการทำงาน ซี่งจะช่วยแก้ปัญหาในอดีตและสร้างความยั่งยืนในการประกอบกิจการของ ธอท. ในอนาคต


S__11944451

สำหรับความคืบหน้าการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้รายงานความก้าวหน้าการดำเนินการต่าง ๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จะติดเพียงเรื่องคดีความข้อพิพาทต่าง ๆ ที่จะต้องมีการพิจารณาต่อไป โดยพนักงานทั้งหมดของ บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท จะโอนมาเป็นพนักงานของบริษัทใหม่

โดยบริษัทใหม่จะมีทั้งหมด 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) โครงสร้างพื้นฐาน 2) โครงข่ายสื่อสารระหว่างประเทศ 3) บรอดแบนด์และโทรศัพท์พื้นฐาน 4) โทรศัพท์เคลื่อนที่ และ 5) การให้บริการด้าน Digital ซึ่งคณะทำงานเตรียมการรวมกิจการของ บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท ได้จัดทำแผนธุรกิจของบริษัทใหม่ ระหว่างปี 2562-2567 แล้ว สำหรับการจัดตั้งบริษัทใหม่จะสามารถจัดตั้งและเริ่มดำเนินการได้ภายใน 6 เดือน นับจากคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบ

ส่วนบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้นำเสนอแผนในการแก้ไขเพิ่มเติมที่จะช่วยให้มีผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย โดย คนร. ได้มอบหมายให้การบินไทยเร่งขายเครื่องบินที่ปลดระวาง และสร้างความชัดเจนถึงการดำเนินการร่วมกับ บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด และบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งให้ดำเนินการตามแผนงานที่ได้นำเสนออย่างเคร่งครัด


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว

ขณะที่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ปัจจุบัน รับมอบรถโดยสาร NGV แล้ว 300 คัน และคาดว่าจะรับมอบส่วนที่เหลือ 189 คัน ได้ภายในเดือน มี.ค. 2562 ซึ่งจะสามารถจัดหารถครบ 3,000 คัน ได้ภายในปี 2565 และได้ติดตั้งระบบ GPS ในรถที่มีอยู่ในปัจจุบันครบถ้วนแล้ว สำหรับการนำน้ำมัน B20 มาใช้ คาดว่าจะดำเนินการได้ครบทุกคันในเดือน ก.พ. 2562 นี้ แต่ยังคงมีความล่าช้าในการติดตั้งระบบ E-Ticket ทั้งนี้ ขสมก. ได้นำเสนอแผนฟื้นฟูกิจการให้กระทรวงคมนาคม เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว