กทม. เชิญกรมควบคุมมลพิษและหน่วยงานเกี่ยวข้องหารือด่วน แก้ปัญหาค่าฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐาน ระดมแจกหน้ากากในงานอุ่นไอรัก และเข้มงวดก่อสร้างเมกะโปรเจ็กต์ต่าง ๆ พร้อมล้างถนนสายหลักในพื้นที่ กทม.
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ได้จัดประชุมแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เกินมาตรฐาน ในเขตกรุงเทพมหานคร ไปเมื่อวันจันทร์ที่ 14 ม.ค. 2562 เวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมควบคุมมลพิษ กองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรมอนามัย ฯลฯ มาร่วมประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันโดยเร่งด่วน
โดยในส่วนการจัดการกับปัญหาฝุ่นละอองนั้น กทม. ยังต้องเร่งรัดดำเนินการตามมาตรการ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวควบคู่กันไป โดยระยะสั้นที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ ธ.ค. 2561 คือ ให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต หมั่นล้างทำความสะอาดถนน ทางเท้า และเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ยังคงทำต่อเนื่อง ทุกช่วงเช้าและกลางคืน พร้อมทั้งฉีดพ่นน้ำในอากาศเพื่อลดฝุ่นละอองเป็นประจำทุกวัน ขณะเดียวกัน ในการบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ของ กทม. โดยสำนักงานเขตและสำนักการโยธา จำเป็นต้องเคร่งครัดกับผู้ประกอบการก่อสร้างอาคารและการก่อสร้างรถไฟฟ้า อุโมงค์ และสะพานข้ามทางแยก ให้มีมาตรการป้องกันปัญหาฝุ่นละออง รวมทั้งให้มีการล้างล้อรถบรรทุกก่อนออกจากสถานที่ก่อสร้างทุกครั้ง และห้ามมิให้มีการเผาหญ้าหรือขยะในที่โล่งแจ้งเด็ดขาด
"หากพี่น้องประชาชนพบเห็นผู้ฝ่าฝืน สามารถแจ้ง กทม. ให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ประกอบการได้ นอกจากนี้ยังได้ประสานขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก ให้เพิ่มมาตรการตรวจจับรถควันดำ รวมทั้งเร่งระบายรถบริเวณที่ฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน และยังจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือประชาชนใช้ระบบขนส่งมวลชนแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว ขณะจอดรถให้ดับเครื่องยนต์ และหมั่นตรวจสอบรถยนต์มิให้มีค่าควันดำเกินค่ามาตรฐานด้วย"
ผู้ว่าราชการ กทม. กล่าวอีกว่า ในส่วนของมาตรการระยะยาวนั้น ได้กำหนดแนวทางการดำเนินมาตรการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟฟ้า พร้อมทั้งโครงข่ายการให้บริการขนส่งสาธารณะให้เชื่อมโยงทุกระบบครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยเร็ว ซึ่งจะส่งผลให้การจราจรคล่องตัว มลพิษทางอากาศลดลง รวมทั้งผลักดันการปรับปรุงคุณภาพมาตรฐานเครื่องยนต์ใหม่และคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงให้สูงขึ้น หรือ ควบคุมการใช้รถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี ส่งเสริมการใช้รถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงที่ปลอดมลพิษมาใช้ทดแทนรถโดยสารรุ่นเก่าที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลให้เพียงพอในการให้บริการกับประชาชน นอกจากนี้ ยังจัดหาพื้นที่จอดแล้วจรเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งมวลชน และเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในบรรยากาศอีกด้วย
นอกจากนั้น ช่วงก่อนนี้ได้มีการส่งดำเนินการมาแล้วตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2561 กทม. ยังสั่งให้แต่ละสำนักงานเขตเร่งล้างถนนตั้งแต่วันที่ 14-21 ม.ค. นี้ต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป ได้แก่ บางซื่อ บางเขน พญาไท ยานนาวา บึงกุ่ม บางกะปิ บางนา ลาดกระบัง วังทองหลาง บางคอแหลม ธนบุรี ภาษีเจริญ จตุจักร คลองเตย โดยให้มีการล้างภายในสำนักงานเขตและพื้นที่เป้าหมายใกล้เคียง อาทิ ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบัง ด้านหน้าปั้มน้ำมันเอสโซ่ซอยลาดพร้าว 95 ป้ายรถเมล์แยกมไหสวรรค์ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม ด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน และป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ถนนสายหลักต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ถนนพหลโยธิน ประชาชื่น
ระดมทุกภาคส่วนแจกหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ N95
นอกจากนั้น วันนี้ (14 ม.ค. 62) เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร, คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร, ข้าราชการ, เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่แจกหน้ากากอนามัยชนิดป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก (N95) ให้แก่ประชาชนที่เดินทางมาร่วมงาน
"อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์" ณ บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต เขตดุสิต
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สืบเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งไม่สามารถใช้หน้ากากอนามัยธรรมดาได้ ต้องใช้หน้ากากอนามัยชนิดป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ N95 ซึ่งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ กรุงเทพมหานครได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองควบคุมมลพิษ กรมอนามัย กองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทาง กรมอุตุนิยมวิทยา กรมฝนหลวง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขสมก. รฟม. ฯลฯ เพื่อหาแนวทางเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กร่วมกัน
โดยเบื้องต้น จะดำเนินการล้างทำความสะอาดถนนในช่วงกลางคืน พร้อมทั้งลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนแจกหน้ากากอนามัยชนิดป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ N95 ซึ่งสามารถปัองกันฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ให้แก่ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร บริเวณสวนลุมพินี ราชประสงค์ เขตบางคอแหลม เขตธนบุรี เขตจตุจักร เขตบางกะปิ เขตบางขุนเทียน และประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานอุ่นไอรัก
ทั้งนี้ ในส่วนของกรุงเทพมหานคร โดยสำนักการโยธาและสำนักงานเขต ได้เคร่งครัดกับผู้ประกอบการก่อสร้างอาคาร การก่อสร้างรถไฟฟ้า อุโมงค์ทางลอด และสะพานข้ามทางแยก ให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันปัญหาฝุ่นละออง รวมทั้งประสานขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก ให้เพิ่มมาตรการตรวจจับรถควันดำ การเร่งระบายรถบริเวณที่ฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน การปรับปรุงคุณภาพมาตรฐานเครื่องยนต์ใหม่และคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงให้สูงขึ้น หรือ ควบคุมการใช้รถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี ตลอดจนส่งเสริมการใช้รถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงที่ปลอดมลพิษมาใช้ทดแทนรถโดยสารรุ่นเก่าที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในบรรยากาศต่อไป
➣
ทัพบกดีเดย์ส่งรถพ่นละลองน้ำไล่ฝุ่นละอองวันนี้
ด้าน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ บูรณาการแก้ปัญหาสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานที่กำลังเกิดขึ้นใน กทม. และปริมณฑล ว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก (ศบภ.ทบ.) เข้าสนับสนุนหน่วยงานต่าง ๆ ในการคลี่คลายปัญหาฝุ่นละอองให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด พร้อมสั่งการให้กองทัพภาคที่ 1 (ทภ.1) กรมการทหารช่าง และหน่วยทหารของ ทบ. ในพื้นที่ กทม. เตรียมรถบรรทุกน้ำและรถดับเพลิง จำนวน 60 คัน
พร้อมเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในปฏิบัติการฉีดพ่นละอองน้ำในพื้นที่ กทม. โดยมีกำหนดการขั้นต้นที่จะเข้าฉีดพ่นละอองน้ำในเวลากลางคืน ระหว่างวันที่ 14-16 ม.ค. นี้ มุ่งเน้นปฏิบัติตามถนนสายหลักใน กทม. ที่มีการจราจรหนาแน่น รวมถึงบริเวณถนนสายธุรกิจ อาทิ สีลม สาธร วิทยุ ประตูน้ำ เพื่อทำความสะอาดและลดการกระจายตัวของฝุ่นละอองที่จะมีผลต่อสุขภาพและทัศนวิสัยในการสัญจร โดยจะเริ่มเย็นวันนี้ (14 ม.ค.) เวลา 18.00 น. และในตอนเช้าเวลา 05.00 น. ทภ.1 จะนำรถบรรทุกน้ำ 20 คัน ออกฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณพื้นที่สาธารณะในเขตต่าง ๆ ของ กทม. อาทิ ลาดพร้าว จตุจักร ดุสิต เป็นต้น นอกจากนี้ ในเวลา 21.00 น. จะนำรถไปฉีดพ่นละอองน้ำตามเส้นทางหลัก ได้แก่ สาทร สีลม ถนนวิทยุ ราชประสงค์ และประตูน้ำ จึงขออภัยในความไม่สะดวก
➣ 15-18 ม.ค. เปิดปฏิบัติการฝนหลวงไล่ฝุ่นฯ พื้นที่ กทม.
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เผยว่า จากสถานการณ์มลพิษฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงได้ประสานงานกับกรมควบคุมมลพิษ การติดตามสภาพอากาศและศึกษาถึงความเป็นไปได้ คาดว่าในระหว่างวันที่ 15-18 ม.ค. 2562 นี้ มีแนวโน้มที่จะสามารถทำฝนหลวงได้ โดยใช้เครื่องบิน CASA จำนวน 2 ลำ ทั้งนี้ ในการปฏิบัติการดังกล่าวที่ผ่านมายังมีข้อจำกัดในการปฏิบัติการ 3 ประเด็น คือ
1) ไม่สามารถทำการบินเข้าพื้นที่ กทม.ชั้นในได้ ด้วยเงื่อนไขกฎการบิน ซึ่งจะต้องทำการบินห่างจากสนามบินนานาชาติอย่างน้อย 50 ไมล์
2) พื้นที่โดยรอบ กทม. ยังมีพื้นที่เก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรที่ไม่ต้องการฝน ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเกิดความเสียหายได้
3) เงื่อนไขทางสภาพอากาศไม่เอื้อต่อการปฏิบัติการ เนื่องจากความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศต่ำกว่า 60%
[caption id="attachment_374628" align="aligncenter" width="335"]
[/caption]