พาณิชย์จับมือ สรท. ดันค้าออนไลน์ผงาด! ชิงตลาด B2B โลก 22.3 ล้านล้านดอลล์

14 ม.ค. 2562 | 11:22 น.
พาณิชย์ผนึก สรท. ดันการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนแบบธุรกิจกับธุรกิจ หวังขยายช่องทางการค้าและเพิ่มมูลค่าการส่งออกไทย ชิงตลาด B2B โลก 22.3 ล้านล้านดอลลาร์

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เผยว่า กรมส่งเสริมการค้าฯ ได้จัดประชุม (14 ม.ค. 62) ร่วมกับคณะผู้บริหารของสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) นำโดย นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธาน สรท. โดยการประชุมครั้งนี้ได้มีการส่งมอบผลการศึกษาข้อเสนอแนะการพัฒนาแพลตฟอร์มการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B Cross Border e-Trading Platform) เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายให้แก่คณะกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน พิจารณาประกอบเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนแบบธุรกิจกับธุรกิจของไทยต่อไป

 

[caption id="attachment_374658" align="aligncenter" width="503"] บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์[/caption]

ทั้งนี้ จากที่กระทรวงพาณิชย์ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาและขับเคลื่อนการค้าในรูปแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ ที่ผ่านมาได้บูรณาการความร่วมมือกับทุกกระทรวง รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการส่งมอบผลการศึกษาข้อเสนอแนะการพัฒนาแพลตฟอร์มการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนแบบธุรกิจกับธุรกิจ ซึ่งจัดทำโดย สรท. ในวันนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันสินค้าและบริการของไทยสู่ตลาดโลกผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม

"กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ดำเนินการขยายช่องทางการค้าแบบออนไลน์ผ่าน Thaitrade.com และพันธมิตรพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมสูงในโลก อาทิ Amazon, eBay, Gosoko, Redmart, Coupang และ Alibaba เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้เกษตรกร SME และผู้ประกอบการรายใหม่สู่ตลาดโลก อาทิ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย แอฟริกา ยุโรป สหรัฐฯ และแคนาดา สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการปีละประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาท มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่การค้าออนไลน์ปีละประมาณ 10,000 ราย


ปกสรท-สค

นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธาน สรท. เผยว่า สรท. ในฐานะกรรมการในคณะกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ได้เล็งเห็นว่า ประเทศไทยต้องมีการพัฒนาการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนแบบธุรกิจกับธุรกิจ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ส่งออกและธุรกิจที่เกี่ยวข้องของไทยสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม

การพาณิชย์ฯ ในการเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างประเทศและแข่งขันกับต่างได้ประเทศได้อย่างยั่งยืน สรท. จึงได้จัดทำข้อเสนอแนะการพัฒนาแพลตฟอร์มการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนแบบธุรกิจกับธุรกิจ เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดกลไกขับเคลื่อนและข้อเสนอแนะการส่งเสริมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนแบบธุรกิจกับธุรกิจ สำหรับให้คณะกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นำไปใช้ประโยชน์ในเชิงนโยบาย

สำหรับผลการศึกษา แบ่งเป็น 5 ส่วนสำคัญ ได้แก่ 1.การเข้าสู่ตลาดการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในฐานะผู้ส่งออกหรือผู้ขาย 2.การบริการที่สนับสนุนด้านการเงินและระบบการชำระเงินออนไลน์ 3.การใช้บริการด้านโลจิสติกส์ 4.การเจรจาต่อรองเงื่อนไขการค้าระหว่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มฯ เพื่อให้สามารถรองรับการกำหนดเงื่อนไขการค้าระหว่างประเทศ และ 5.การฝึกอบรมผู้ประกอบการที่ต้องการใช้บริการแพลตฟอร์ม

 

[caption id="attachment_374628" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]

รายงานผลการสำรวจของ UNCTAD ในปี 2560 ระบุว่า การค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก มีมูลค่าถึง 25.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบธุรกิจกับธุรกิจ B2B มีมูลค่า 22.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบธุรกิจกับผู้บริโภค (Business-to-Customer : B2C) มีมูลค่า 2.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคู่ค้าที่สำคัญของไทย ทั้งจีนและสหรัฐอเมริกา ล้วนมีมูลค่าการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบข้ามพรมแดนสูง โดยจีนเป็นประเทศที่มีมูลค่าการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบ B2C มากที่สุด ถึง 617 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ สหรัฐอเมริกามีมูลค่าการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบ B2B มากที่สุด ถึง 6,443 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้น การพัฒนาแพลตฟอร์มการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนแบบ B2B จึงถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการพัฒนาค้าระหว่างประเทศของไทยให้เข้าสู่การค้ายุคดิจิทัลได้อย่างมั่งคงและยั่งยืน

595959859