ประเดิมปี 2562 ด้วยภารกิจอินไซด์งานใหญ่เรื่องใหญ่ ระดับการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ได้ยินมาว่าวันที่ 30 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์นี้ รัฐบาลจะมีการจัดงานมหกรรมการสร้างการตระหนักรู้ต่อยุทธศาสตร์ชาติ
“Big Bang อนาคตไทยอนาคตเรา” ที่เซ็นทรัลเวิลด์ หลังเจอปัญหาว่าประชาชนส่วนใหญ่ ยํ้าส่วนใหญ่ไม่รู้จัก
“แผนปฏิรูปประเทศ” กับ
“ยุทธศาสตร์ชาติ”
เห็นว่างานนี้จะเปิดตัวมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ชื่อเพลง
“อนาคตเรา” บวกกับ
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ ขึ้นเวทีปาฐกถาพิเศษ คงทำให้โปรเจ็กต์โบแดงของรัฐบาลเป็นที่รู้จักมากขึ้น
แต่กว่าจะถึงงานวันนั้น กลายเป็นว่าแผนปฏิรูปกับยุทธศาสตร์ เป็นที่รู้จักและฮือฮาไปทั้งทำเนียบรัฐบาล เพราะที่ประชุมครม. วันที่ 2 มกราคม 2562 มีมติรับทราบตามที่
“สำนักงาน ก.พ.ร.” เสนอให้ทบทวนการจัดตั้งหน่วยงาน 52 หน่วยงาน ตามแผนการปฏิรูปประเทศ
ในวงครม. สำนักงานก.พ.ร. ได้รายงานว่า แม้ว่าครม. มีมติเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 เกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ตามแผนการปฏิรูปประเทศ โดยให้คำนึงถึงเหตุผลความจำเป็นและคำนึงถึงค่าใช้จ่ายนั้น แต่ยังปรากฏว่ามีการเสนอร่างกฎหมายที่มีการจัดตั้งหน่วยงานคณะกรรมการและกองทุนเป็นจำนวนมาก โดยอ้างว่าเป็นไปตามแผนการปฏิรูปประเทศ
“สำนักงาน ก.พ.ร. พิจารณาแล้ว เห็นว่าข้อเสนอดังกล่าวจะสร้างปัญหาค่าใช้จ่ายภาครัฐในอนาคต และยังทำให้เกิดความซํ้าซ้อนในการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ อันเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ยังเห็นว่าแผนการปฏิรูปประเทศที่กำหนดให้มีหน่วยงานตั้งใหม่ รวม 52 หน่วยงาน ไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ที่กำหนดให้ภาครัฐมีขนาดเล็กลงและเหมาะสมกับภารกิจ”
สำนักงานก.พ.ร. จึงเห็นควรให้มีการทบทวนข้อเสนอที่ให้จัดตั้งหน่วยงานของรัฐตามแผนการปฏิรูปประเทศ ให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ ตัดข้อเสนอเรื่องการจัดตั้งหน่วยงานต่างๆ ออกจากแผนการปฏิรูปประเทศ
[caption id="attachment_372583" align="aligncenter" width="335"]
[/caption]
แต่กระนั้น ก.พ.ร.ก็ยังเผื่อทางออกเอาไว้ว่า ถ้าจะขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่ 1. ต้องเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง 2. ให้ยุบเลิกหรือยุบรวมหน่วยงานที่มีอยู่เดิม หรือเรียกว่า One-In X-Out เพื่อไม่ให้เกิดความซํ้าซ้อนทั้งด้านภารกิจและงบประมาณ และ 3. ให้เสนอแผนการนำ Digital Technology มาใช้ในการปฏิบัติงานทุกขั้นตอน ประกอบคำขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่ด้วย
และมีความเห็นเพิ่มเติมทิ้งท้ายไว้สั้นๆด้วยว่า
“ในการจัดทำแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการภายใต้ยุทธศาสตร์ชาตินั้น มิให้มีการกำหนดเรื่องการจัดตั้งหน่วยงานไว้เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาเช่นเดียวกับแผนการปฏิรูปประเทศอีก”
ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้ สำนักงาน ก.พ.ร. แจ้งกับครม.ด้วยว่า เป็นข้อเสนอที่ผ่านมติที่ประชุม
“คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ” ที่มีรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม เป็นประธาน ในการประชุมครั้งที่ 5/2561 วันที่ 26 พฤศจิกายน 2561
“ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการสำนักงาน ก.พ.ร.” บอกว่า ในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ เห็นด้วยกับข้อเสนอ และสั่งการให้มีการทบทวน โดยมอบหมายให้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ รับกลับไปพิจารณาทบทวนแก้ไข
“ยืนยันว่า ก.พ.ร.ไม่ได้ขัดแย้งหรือทะเลาะกับใคร เราเพียงเสนอตามหลักการว่าควรจะเป็นอย่างนี้”
|คอลัมน์ : อินไซด์สนามข่าว
| โดย : จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง/Twitter : @jeerapong_pra
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3434 หน้า 14 ระหว่างวันที่ 10-12 ม.ค.2562