ธ.ก.ส. เร่งปิดจ็อบ "ยาง-ปาล์ม" จ่ายตรงชาวสวน

04 ม.ค. 2562 | 12:02 น.
IMG_8902
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือชาวสวนยางภาคตะวันออก ในโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง ณ ที่ว่าการอำเภอนายายอาม จ.จันทบุรี ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ติดตามสถานการณ์การตลาดและราคายางอย่างใกล้ชิด รวมทั้งได้ออกมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำมาเป็นระยะ โดยรัฐบาลมีนโยบายและมาตรการแก้ไขปัญหา ทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว รวมถึงโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง ที่มุ่งหวังช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางในระยะเร่งด่วน ในช่วงที่ราคายางส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเกษตรกรชาวสวนยางและคนกรีดยาง เพื่อสนับสนุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของเกษตรกรชาวสวนยางและช่วยเหลือค่าครองชีพคนกรีดยาง อีกทั้งเป็นขวัญกำลังใจให้สามารถร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพยางและยกระดับราคาให้เป็นไปตามที่ทุกคนคาดหวัง


IMG_8797

"การมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางภาคตะวันออก ในโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง รายละ 1,800 บาท/ไร่ รายละไม่เกิน 15 ไร่ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางในระยะเร่งด่วน โดยเงิน 1,800 บาท ดังกล่าว แบ่งเป็น 1,100 บาท ให้แก่เจ้าของสวน และ 700 บาท สำหรับการจ้างแรงงาน ซึ่งเงินจำนวนนี้ได้ทยอยมอบให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศที่ได้ลงทะเบียนไว้กับการยางแห่งประเทศไทย โดยสามารถไปติดต่อขอรับการช่วยเหลือได้ที่สำนักงานการยางฯ ของแต่ละจังหวัดที่ได้ลงทะเบียนไว้ นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังเร่งดำเนินโครงการสร้างถนนพาราซอยด์ซีเมนต์ รวมทั้งสิ้น 80,000 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้ยางพาราเป็นส่วนผสมทั้งสิ้นกว่า 9 แสน - 1 ล้านตัน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการใช้ยางภายในประเทศได้อีกทางหนึ่ง ส่วนเกษตรกรชาวสวนยางที่ต้นยางมีอายุมากกว่า 25 ปี ได้สนับสนุนให้ปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่ตลาดมีความต้องการ อาทิ โกโก้ มะพร้าวน้ำหอม หรือ ปลูกพืชล้มลุกแซมสวนยาง เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างความมั่นคงในอาชีพนอกเหนือการทำสวนยางเพียงอย่างเดียวด้วย"


IMG_8860

นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนอาชีพ เพิ่มรายได้เสริมให้แก่เกษตรกรและสร้างเสถียรภาพราคายางพาราทั้งระบบ อาทิ โครงการสนับสนุนทุนหมุนเวียนให้ผู้ประกอบกิจการยางพารา หรือ กลุ่มสหกรณ์ยางพารา การวางแนวทางในการพัฒนาภาคการเกษตร โดยเน้นการแก้ปัญหา 3 ด้าน ได้แก่ การลดต้นทุนการผลิต การให้ความรู้กับเกษตรกรทำเกษตรรูปแบบใหม่ ตลอดจนการมุ่งเน้นด้านการตลาด ไม่ว่าจะเป็น ผลผลิต หรือ การจัดจำหน่าย ซึ่งต้องให้ตลาดนำการผลิต เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน โดยสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเกษตรกรผู้ผลิต และภาคเอกชนผู้ค้า ทั้งนี้ เพื่อปฏิรูปภาคการเกษตรให้มีความมั่นคงสมกับที่เป็นรากฐานเศรษฐกิจของประเทศไทย


S__20021251

ขณะที่ นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้ตรวจสอบสิทธิ์และส่งมอบรายชื่อเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันที่ผ่านการพิจารณา พร้อมรับเงินช่วยเหลือในโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันทั่วประเทศ จำนวน 213,326 ราย ในจำนวนนี้ ธ.ก.ส. ได้โอนเงินผ่านบัญชีของเกษตรกรโดยตรงแล้ว รวม 30,506 ราย เป็นเงิน 392,073,000 บาท (ข้อมูล ณ 4 ม.ค. 62)


TP8-3426-A

ทั้งนี้ ครม. มีมติเห็นชอบโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันในอัตราไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ หรือ ครัวเรือนละไม่เกิน 22,500 บาท วงเงินรวม 3,458 ล้านบาท ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 10 เดือน ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2561 - ก.ย. 2562


palm-1464654_1920

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวต่อว่า เกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ 1.สัญชาติไทยและบรรลุนิติภาวะ 2.เป็นหัวหน้าครัวเรือนตามทะเบียนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ 3.เป็นเกษตรกรที่เปิดบัญชีเงินฝากไว้กับ ธ.ก.ส. และ 4.เป็นเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่มีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิรวมทั้งสิ้น 47 รายการ ตามหนังสือของกรมป่าไม้ และเป็นพื้นที่ที่ปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตแล้ว


palm-1464660_1920

สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและมาแจ้งขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรแล้ว สามารถแจ้งยืนยันขอรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ ได้ถึง 31 ม.ค. 2562 ณ สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่แปลงปลูก หลังจากนั้นกรมส่งเสริมการเกษตรจะพิจารณาตรวจสอบสิทธิ์เกษตรกรผ่านคณะทำงานระดับตำบล และผ่านการรับรองสิทธิ์กรรมการระดับอำเภอ ตามขั้นตอน และส่งรายชื่อเกษตรกรให้กับ ธ.ก.ส. เพื่อจ่ายเงินต่อไป อย่างไรก็ตาม จากฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรกรมส่งเสริมการเกษตรในปัจจุบัน พบว่า มีเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตแล้ว หรือมีอายุเกิน 3 ปี มีจำนวน 150,000 ราย พื้นที่รวม 2.25 ล้านไร่

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว