กระจายความเสี่ยงปีหมู หุ้นกู้-กองทุนอสังหาฯมาแรง

29 ธ.ค. 2561 | 23:00 น.
ปัจจัยลบแวดล้อมในรอบปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์เกือบทุกประเภทติดลบหมด ดัชนีหุ้นไทยต้นปีปรับสูงสุดที่ระดับ 1838.96 จุด (24 มกราคม 2561) ได้ปรับลงก่อนดิ่งตํ่าสุดท้ายปีที่ระดับ  1548.37 จุด (27 ธันวาคม 2561) รูดลงกว่า 11.7%  มูลค่าตลาด (Market Cap) ลดลงกว่า 2.63 ล้านล้านบาท อยู่ที่ 15.82 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน และยังส่งผลข้ามปีที่คาดจะปรากฏผลชัดในปี 2562

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) และประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด  กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าปี 2562 เป็นเรื่องยากสำหรับการลงทุน เพราะปัจจัยลบชัดกว่าปัจจัยบวก ทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจที่กังวลกันว่าจะแค่ชะลอหรือถดถอย   สงครามการค้าและดอกเบี้ยขาขึ้น

“เป็นปีที่ยากและดูจะไม่มีปัจจัยบวกสำหรับการลงทุนในตราสารทุนหรือหุ้น ทุกค่ายเวลานี้ก็ปรับประมาณการปี 2562 ลง ถามว่าถัดจากปี 2562 จะปรับขึ้นหรือปรับลง ไม่มีใครบอกได้ แต่มองระยะยาวผมยังไม่คิดว่าจะลงลึกหรือเศรษฐกิจจะถดถอย ยังมีโอกาสจะลงทุนได้” MP13-3431-B

บล.กสิกรไทยฯ มองว่าในเชิงมูลค่าตลาดหุ้นไทย P/E ที่ 14 เท่า  ขนาดตลาดปี 2562 ยังมีโอกาสเติบโตได้ประมาณ 8%  เป็นจังหวะที่น่าค่อยๆสะสม ลงในกองทุนผสม “กองทุนตราสารหนี้-กองทุนตราสารทุน” หรือกองทุนที่มีสินทรัพย์หลากหลาย โดยพอร์ตโฟลิโอ ควรมีตราสารหนี้ และตราสารทุน (หุ้น) ส่วนความเชื่อในอดีตที่ว่าเศรษฐกิจไม่ดีควรสะสมทอง แต่ความเป็นจริงในโลกปัจจุบัน ทองมีความผันผวนมากเกินกว่าจะคาดการณ์ว่ามูลค่าจะเพิ่มหรือลดจึงควรถือเป็นสินทรัพย์ทางเลือกหรือมีไม่เกิน 5% เท่านั้น

ผลตอบแทนจากการลงทุนยังขึ้นกับ 2 ปัจจัย คือ ความสามารถในการแบกรับความเสี่ยง และระยะเวลาลงทุน หากให้ผลตอบแทนที่ดีผ่านกองทุนก็ต้องถือยาวได้ 3-5 ปี อย่างไรก็ดีการลงทุนในตราสารทุนระยะสั้นยังน่ากังวลจากปัจจัยลบมีมาก

ด้านนายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวงฯ คาดว่าดัชนีหุ้นไทยปี 2562 จะอยู่ที่ 1817 จุด อัพไซด์ประมาณกว่า 10% จากประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่อาจมีความเสี่ยงมากขึ้น จากเศรษฐกิจที่ชะลอจึงให้นํ้าหนักการลงทุนในหุ้นกู้บวกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และรีท (Property fund & REIT) 40%, ทองคำ 5%, ถือเงินสด 5% ที่เหลือ 50% เป็นการลงทุนในหุ้น เทียบปี 2561 ที่ให้นํ้าหนักการลงทุนในหุ้นถึง 70% ประมาณว่าจัดพอร์ตตามนํ้าหนักดังกล่าวก็น่าจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย  6.5% ได้

“ผลตอบแทนลงทุนในตลาดหุ้นปี 2561 คาดติดลบประมาณ 8% จากค่าเฉลี่ยในช่วงที่ผ่านมาจะอยู่ที่ 14% (บวกอัตราปันผลเฉลี่ย 3%)  ขณะที่กองทุนรวมอสังหาฯและกองรีท และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure fund)  ให้ผลตอบแทนโดดเด่นกว่า เฉพาะแคปิตอลเกน (capital gain) น่าจะสูงถึง 3% หากรวมปันผลแล้วจะอยู่ที่ 4-8.8% ขณะที่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ยังได้รับการยกเว้นภาษี”

ทั้งนี้จากการรายงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ  การจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) รอบปี 2561  (ข้อมูล ณ 12 ธันวาคม 2561) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และกองทุนรวมอสังหาฯและกองรีท ได้ให้อัตราผลตอบแทนจูงใจ  อัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ย  7.72% และ 6.44%  ตามลำดับ

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,431 วันที่ 30 ธันวาคม 2561-2 มกราคม 2562

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว