คอนโด‘ลีสโฮลด์’แรง ชงจับตลาด CLMV รุกลักชัวรี
นักวิเคราะห์ฟันธงปี 2562 คอนโดฯลีสโฮลด์ออกสู่ตลาดเพิ่ม เหตุที่ดินมีจำกัด แปลงสวยเกิน 50 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นที่ของรถไฟ บางซื่อ มักกะสัน พร้อมชงจับตลาด CLMV
นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด บริษัทที่ปรึกษาและตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุว่า น่าจับตาคอนโดฯ ในรูปแบบการเช่าสิทธิระยาว(ลีสโฮลด์) ในทำเลที่ดีจะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน ที่ดินมีจำกัด และที่ดินแปลงสวยขนาดใหญ่เกิน 50 ไร่ มักถูกครอบครองโดยหน่วยงานของรัฐ เช่น ที่ดินของการรถไฟฯ บางซื่อ มักกะสัน, ที่ดินซอยมหาดเล็ก เป็นต้น พบระยะหลังที่ดินดังกล่าว ถูกนำออกมาประมูลให้เอกชนเช่าสิทธิอย่างต่อเนื่องและได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะในแง่การลงทุนนั้น สามารถสร้างและขายได้คุ้มค่ากว่าประเภทการโอนกรรมสิทธิ์ขายขาด(ฟรีโฮลด์) เช่นเดียวกับแนวโน้มโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส (ผสมผสาน ที่อยู่อาศัย, โรงแรม, ออฟฟิศ, ห้าง) ในทำเลเดียวกัน ก็จะมีการเปิดตัวมากขึ้นในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า
สำหรับภาพการลงทุน อสังหาฯไทยของต่างชาตินั้น คาดปี 2562 จะมีเข้ามาร่วมทุนกับดีเวลอปเปอร์ไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ กลุ่มจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ อยู่ในสัดส่วน 30% ขยับขึ้นจาก 26% ในปี 2561
นับรวมประมาณ 1.7 หมื่นหน่วย จาก 5.3 หมื่นหน่วยของทั้งตลาด ส่วนนักลงทุนรายย่อยลูกค้าจีนที่มีความกังวลกันมากในสถานการณ์ปีหน้าจากผลพวงหลายปัจจัย บริษัทมองว่าไม่น่ากังวลเท่าที่ควร เนื่องจากยังมีโอกาสจากดีมานด์ใหม่ๆ เช่น ลูกค้าในกลุ่มเมืองรองอย่างเฉินตู กวางโจว เป็นต้น หลัง จากตลาดจีนเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ซึ่งที่ผ่านมาดีเวลอปเปอร์ไทย มุ่งเจาะเพียงลูกค้าในหัวเมืองใหญ่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ อย่างเดียว ทำให้พลาดโอกาส แต่ที่น่าจับตามองมากที่สุดสำหรับตลาดต่างชาติในช่วงปีหน้าคือ กลุ่มลูกค้า CLMV คือ กัมพูชา เมียนมา ลาว และ เวียดนาม โดยถือเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจในการเข้าไปทำการตลาด เพราะพบมีการใช้จ่ายต่อหัวในประเทศ ไทยมากกว่าลูกค้าชาวจีนด้วยซํ้า แม้กลุ่มคนรวยจะมีปริมาณจำกัด แต่ดีมานด์ต่ออสังหาฯในไทยมีความชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มระดับราคาไฮเอนด์ 2-2.9 แสนบาทต่อตารางเมตร
“ในอดีตกลุ่มลูกค้า CLMV ที่เข้ามาซื้ออสังหาฯในไทยมีน้อยมาก คาดเพราะที่ผ่านมา ดีเว- ลอปเปอร์ มุ่งไปทำตลาดจำกัดแค่จีน ฮ่องกง สิงคโปร์เป็นหลัก ลืมดูลูกค้ากลุ่มนี้ แต่พบปัจจุบัน เริ่มมีดีเวลอปเปอร์หลายราย เริ่มเข้าไปทำการตลาดต่อลูกค้ากลุ่มนี้ และมีผลตอบรับดี ปีหน้าคาดจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น”
แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ระบุว่า การรถไฟฯมีแผนนำที่ดินออก พัฒนาหลายแปลง แต่ละทำเลล้วนมีศักยภาพสูง สามารถรองรับการอยู่อาศัย พัฒนาเชิงพาณิชย์ในระยะยาวได้
หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3430 ระหว่างวันที่ 27 - 29 ธันวาคม 2561
นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด บริษัทที่ปรึกษาและตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุว่า น่าจับตาคอนโดฯ ในรูปแบบการเช่าสิทธิระยาว(ลีสโฮลด์) ในทำเลที่ดีจะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน ที่ดินมีจำกัด และที่ดินแปลงสวยขนาดใหญ่เกิน 50 ไร่ มักถูกครอบครองโดยหน่วยงานของรัฐ เช่น ที่ดินของการรถไฟฯ บางซื่อ มักกะสัน, ที่ดินซอยมหาดเล็ก เป็นต้น พบระยะหลังที่ดินดังกล่าว ถูกนำออกมาประมูลให้เอกชนเช่าสิทธิอย่างต่อเนื่องและได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะในแง่การลงทุนนั้น สามารถสร้างและขายได้คุ้มค่ากว่าประเภทการโอนกรรมสิทธิ์ขายขาด(ฟรีโฮลด์) เช่นเดียวกับแนวโน้มโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส (ผสมผสาน ที่อยู่อาศัย, โรงแรม, ออฟฟิศ, ห้าง) ในทำเลเดียวกัน ก็จะมีการเปิดตัวมากขึ้นในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า
สำหรับภาพการลงทุน อสังหาฯไทยของต่างชาตินั้น คาดปี 2562 จะมีเข้ามาร่วมทุนกับดีเวลอปเปอร์ไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ กลุ่มจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ อยู่ในสัดส่วน 30% ขยับขึ้นจาก 26% ในปี 2561
นับรวมประมาณ 1.7 หมื่นหน่วย จาก 5.3 หมื่นหน่วยของทั้งตลาด ส่วนนักลงทุนรายย่อยลูกค้าจีนที่มีความกังวลกันมากในสถานการณ์ปีหน้าจากผลพวงหลายปัจจัย บริษัทมองว่าไม่น่ากังวลเท่าที่ควร เนื่องจากยังมีโอกาสจากดีมานด์ใหม่ๆ เช่น ลูกค้าในกลุ่มเมืองรองอย่างเฉินตู กวางโจว เป็นต้น หลัง จากตลาดจีนเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ซึ่งที่ผ่านมาดีเวลอปเปอร์ไทย มุ่งเจาะเพียงลูกค้าในหัวเมืองใหญ่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ อย่างเดียว ทำให้พลาดโอกาส แต่ที่น่าจับตามองมากที่สุดสำหรับตลาดต่างชาติในช่วงปีหน้าคือ กลุ่มลูกค้า CLMV คือ กัมพูชา เมียนมา ลาว และ เวียดนาม โดยถือเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจในการเข้าไปทำการตลาด เพราะพบมีการใช้จ่ายต่อหัวในประเทศ ไทยมากกว่าลูกค้าชาวจีนด้วยซํ้า แม้กลุ่มคนรวยจะมีปริมาณจำกัด แต่ดีมานด์ต่ออสังหาฯในไทยมีความชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มระดับราคาไฮเอนด์ 2-2.9 แสนบาทต่อตารางเมตร
“ในอดีตกลุ่มลูกค้า CLMV ที่เข้ามาซื้ออสังหาฯในไทยมีน้อยมาก คาดเพราะที่ผ่านมา ดีเว- ลอปเปอร์ มุ่งไปทำตลาดจำกัดแค่จีน ฮ่องกง สิงคโปร์เป็นหลัก ลืมดูลูกค้ากลุ่มนี้ แต่พบปัจจุบัน เริ่มมีดีเวลอปเปอร์หลายราย เริ่มเข้าไปทำการตลาดต่อลูกค้ากลุ่มนี้ และมีผลตอบรับดี ปีหน้าคาดจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น”
แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ระบุว่า การรถไฟฯมีแผนนำที่ดินออก พัฒนาหลายแปลง แต่ละทำเลล้วนมีศักยภาพสูง สามารถรองรับการอยู่อาศัย พัฒนาเชิงพาณิชย์ในระยะยาวได้
หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3430 ระหว่างวันที่ 27 - 29 ธันวาคม 2561
