'เอพี' ชูแนวคิด "STANFORD DESIGN THINKING" กวาด 14 รางวัล–ยอดขายทะลุ 41,460 ล้าน
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เผยถึงหัวใจสำคัญพาองค์กรสู่ความสำเร็จ คือ การนำแนวคิดที่เรียกว่า "STANFORD DESIGN THINKING" เข้ามาใช้ในการพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการผ่านการทำความเข้าใจลูกค้าอย่างถ่องแท้ เข้าใจถึงความต้องการแฝง ซึ่งต้องอาศัยการสังเกตพฤติกรรมของผู้บริโภค ตลอดจนการนำข้อมูลที่ได้มาคิดวิเคราะห์ ตีความ เพื่อนำเสนอสินค้าอสังหาริมทรัพย์และบริการที่ตรงใจลูกค้าในแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกัน โดยสะท้อนจากยอดขายและยอดรับรู้รายได้ที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน โดยยอดขายรวม 41,460 ล้านบาท ณ สิ้นเดือน พ.ย. มาจากยอดขายของสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม มูลค่า 21,800 ล้านบาท และกลุ่มแนวราบมูลค่า 19,660 ล้านบาท ส่วนรายได้ ณ ไตรมาส 3 ซึ่งเป็นผลรวมจากรายได้ของสินค้าแนวราบ คอนโดมิเนียม (100%JV) และธุรกิจอื่น ๆ มีมูลค่าสูงถึง 27,113 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 50% หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 18,090 ล้านบาท
"ปีนี้เป็นปีที่เราทำลายสถิติหลายอย่าง ทั้งการเปิดตัวโครงการใหม่ในมูลค่ารวมที่สูงถึง 45,190 ล้านบาท ยอดขายรวมที่ทะลุเป้าไปแล้วกว่า 41,460 ล้านบาท และรายได้รวม ณ ไตรมาส 3 จากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100%JV) และธุรกิจอื่น ๆ ที่สูงเป็นประวัติการณ์ ถึง 27,113 ล้านบาท ที่สำคัญปีนี้ยังเป็นปีแรกที่เอพีได้รับรางวัลจากหลากหลายสถาบันทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ รวมแล้วมากถึง 14 รางวัลในปีเดียวอีกด้วย"
สำหรับความสำเร็จของ "เอพี ไทยแลนด์" ในวันนี้ เป็นผลพวงจากการปรับปรุงระบบการบริหารงานภายใน โดยการพัฒนาและสร้างผู้นำรุ่นใหม่ให้สามารถก้าวขึ้นมาบริหารและรับผิดชอบโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผนวกกับประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 27 ปีของผู้บริหารระดับสูง และการพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง "นวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน" ที่ผ่านมา เอพีเน้นที่การผสมผสานประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้ากับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อส่งมอบคุณภาพชีวิตสมบูรณ์แบบในทุกมิติ
ทั้งนี้ หนึ่งในไฮไลท์ที่สร้างชื่อเสียงและดันรายได้รวมให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ โครงการระดับอัลตร้าลักชัวรี่ ที่เอพีตั้งใจพัฒนาขึ้น ได้แก่ โครงการ VITTORIO คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่หนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัล Asian’s Best Condo Development ที่สุดของคอนโดมิเนียมหนึ่งเดียวในเอเชีย จากงาน Asian Property Award 2018 ที่คัดเลือกจากคอนโดมิเนียมกว่า 200 แห่งทั่วเอเชีย VITTORIO ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้ BTS พร้อมพงษ์ ราคาขาย 35-120 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันประสบความสำเร็จอย่างสูง สามารถปิดการขายทั้งโครงการได้เป็นที่เรียบร้อย และคฤหาสน์หรูแบรนด์ THE PALAZZO ศรีนครินทร์ ที่เอพีเปิดตัวเมื่อกลางเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา เสนอขายในช่วงราคาระหว่าง 29-60 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน
"VITTORIO และ THE PALAZZO ศรีนครินทร์ ถือเป็นผลงานมาสเตอร์พีซที่น่าพอใจที่สุด โครงการทั้งสองนี้เป็นบทพิสูจน์ถึงความเข้าใจถึงความต้องการแฝงของลูกค้าระดับอัลตร้าลักซ์ของเอพี ทั้งในเรื่องของการออกแบบพื้นที่ วิธีการทำการตลาดและกระบวนการขาย ทันทีที่เปิดขายหลังจากที่โครงการก่อสร้างเสร็จก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทันที ทำให้เรามั่นใจว่า ตลาดอัลตร้าลักซ์ยังคงมีศักยภาพที่ดี แต่ต้องอาศัยผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความพร้อม เพราะลูกค้าในตลาดนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่เรื่องโลเคชั่น แต่ทุกรายละเอียดในโครงการต้องใช่ ตั้งแต่การสร้างความแตกต่างผ่านการออกแบบทั้งภายนอกและภายใน การบริหารจัดการพื้นที่ที่ทำให้ผู้ซื้อรู้สึกถึงความแตกต่างได้ทันทีที่เยี่ยมชมโครงการ รวมถึงกลยุทธ์การตลาดและการขาย" นายอนุพงษ์ กล่าวเสริม
ทั้งนี้ คาดการณ์ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2562 เชื่อว่าภาพการแข่งขันในตลาดกว่า 70% ยังคงเกิดจากผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีความพร้อมทางด้านการเงินและทรัพยากรบุคคล ซึ่งความท้าทายของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นอกเหนือปัจจัยภายนอก อย่างเช่น "เศรษฐกิจโลก" แล้ว เศรษฐกิจภายในประเทศและภาคการเมืองก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูอย่างต่อเนื่อง อสังหาฯยุคใหม่ ผู้ประกอบการต้องวางแผนรบยาวให้เป็น ดังนั้น ภาพการรบสั้น อย่าง เปิดตัวโครงการแล้วประกาศขายหมดภายในไม่กี่ชั่วโมงคงเห็นได้น้อยลงในปีหน้า โจทย์ของดีเวลลอปเปอร์ในอนาคต คือ การกำหนดสินค้าและแพคเกจราคาขายที่สอดรับกับความสามารถในการซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ได้จริงของลูกค้า ซึ่งสิ่งนี้คือ คีย์สำคัญที่ทำให้เอพีประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดดในครั้งนี้
"เอพีจะนำความสำเร็จเหล่านี้มาเป็นแรงขับเคลื่อนเป็นพลังในการทำงาน เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยนวัตกรรมรูปแบบใหม่ ๆ ที่จะสร้างความแตกต่าง ทั้งด้านคุณภาพ พื้นที่ใช้สอย ความสะดวกสบาย ความปลอดภัยในการพักอาศัย เพื่อก้าวสู่เป้าหมายสูงสุด นั่นคือ การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับคนไทยต่อไป" นายอนุพงษ์ กล่าวสรุป
