กลุ่มทุนจีน TCC ลุยลงทุนอสังหาฯไทย

04 มี.ค. 2559 | 10:17 น.
Per8_Overall Camera 10_re2_3000 กลุ่มทุนจีน TCC สวนกระแสตลาด ซุ่มผุดคอนโดฯพร้อมอยู่ภายใต้แบรนด์” อาทิมีส สุขุมวิท 77” ราคาเบาเบาทำเลสุขุมวิทเริ่ม 2ล้านบาทต้นๆ รวมมูลค่าประมาณ 1,900 ล้านบาท ล่าสุดอัดแคมเปญ จองเพียง 9,000 บาท ฟรีเงินทำสัญญาสูงสุด 120,000 บาท  พร้อมรับ Samsung S7 รุ่นล่าสุดฟรี จำกัดจำนวนเพียง 50 ยูนิตแรกเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 10 – 25 มีนาคม 2559 นี้ พร้อมตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 70%

นางวรารักษ์ อุชุปาละนันท์ ประธานบริษัท  ซีทีซีซี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด หรือ CTCC เปิดเผยว่าบริษัทซีทีซีซี เอ็นจิเนียริ่งก่อตั้งเมื่อปี 2555 เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มนักลงทุนคนไทย คือ ครอบครัวของ อุชุปาละนันท์ และ กลุ่มบริษัท TCC จากจีนเพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้วยเพราะมองเห็นศักยภาพของทำเลที่ดินในการพัฒนา ประกอบกับมีความเชื่อมั่นในศักยภาพและประสบการณ์ของพันธมิตรจีนซึ่งถึงแม้จะมีพื้นฐานธุรกิจด้านอุตสาหกรรม แต่ก็ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในเรื่องเทคโนโลยีและการบริหารจัดการต้นทุน รวมถึงงานด้านการก่อสร้างจึงได้ตัดสินใจร่วมลงทุนกันขึ้น

“ เรามองเห็นโอกาสทางการตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทยยังมีดีมานด์สูง และกลุ่มบริษัท TCC ก็มีความพร้อมในหลายๆด้านทั้งกำลังคน และเงินทุน เราจึงมีความเห็นร่วมกันในการสร้างคอนโดสร้างเสร็จก่อนขาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค”นางวรารักษ์ กล่าว

ด้านนายกัว ไห่ ซิน( Mr. Guo Hai Xin) กรรมการบริษัท  ซีทีซีซี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด หรือ CTCC  กล่าวให้ความเห็นถึงสาเหตุการเลือกลงทุนในประเทศไทยว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการลงทุน ในด้านต่างๆ ผมมองว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC โดยเฉพาะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย เรื่องที่อยู่อาศัยนั้นยังมีดีมานด์ทั้งจากผู้บริโภคคนไทย และต่างชาติ รวมถึงประชาชนคนจีนเองก็ให้ความสำคัญในการซื้อที่อยู่อาศัย หรือลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย นี่คือปัจจัยหลักที่ทำให้เราสนใจมาลงทุนในกรุงเทพฯ และยังสนองนโยบายในการขยายธุรกิจออกไปลงทุนนอกประเทศ

สำหรับการลงทุนในประเทศไทยนั้น  TCC ให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนแบบระยะยาวอยู่แล้ว คือ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทนระยะยาวเฉลี่ยต่อปี 9% เช่น ธุรกิจโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์  ธุรกิจค้าปลีก ฯลฯ และการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เช่น คอนโดมิเนียม ส่วนพื้นที่การลงทุนหลัก ๆ ที่สนใจลงทุน คือ กรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก อาทิ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น

ส่วนนางสาวหลี่ เยี่ยน เสีย( MS. Li Yan Xia) รองผู้จัดการ บริษัท  ซีทีซีซี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด หรือ CTCC   ได้กล่าวถึงโครงการ “อาทีมิส (Artemis)”ว่า เป็นโครงการ คอนโดมิเนียม ถนนสุขุมวิท 77 อยู่บนเนื้อที่ 3 ไร่เศษ พัฒนาเป็นอาคารสูง 30 ชั้น จำนวน 673 ยูนิต และพื้นที่พาณิชย์ 3 ยูนิต มีขนาดห้องชุดพักอาศัยให้เลือก 3 แบบ คือห้องชุดแบบ 1 ห้องนอนขนาดพื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 26.58-35.24 ตารางเมตร, ห้องชุดแบบ 2 ห้องนอนขนาดพื้นที่ใช้สอย45.07-53.97 ตารางเมตร และห้องชุดแบบ 3 ห้องนอน 74.11 ตารางเมตร ราคาขายประมาณ 79,000 บาทต่อตารางเมตรหรือราคาขายเริ่มต้นที่กว่า 2.1 ล้านบาทต่อยูนิต รวมมูลค่าโครงการประมาณ 1,900 ล้านบาท โดยบริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ช่วยบริหารการตลาดและการขาย

“เราใช้จุดแข็งที่เรามีรวมถึงความพร้อมด้านเงินทุน และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าหรือผู้บริโภค เราจึงใช้กลยุทธ์สร้างเสร็จก่อนขาย ซึ่งนี่เป็นจุดที่แตกต่างจากคอนโดทั่วไปในประเทศไทยที่เปิดขายหรือเปิดจองก่อนการก่อสร้างหรือขายกระดาษ ส่วนบริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัดที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดและการขาย ซึ่งเราก็มั่นใจว่าโครงการนี้จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี”

พร้อมกันนี้นายชนะ นันทจันทูล กรรมการผู้จัดการบริษัทเซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย)จำกัด ได้กล่าวถึงจุดเด่น หรือจุดขายขายของโครงการ Artemis Sukhumvit 77 ว่า ด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้งบนถนนสุขุมวิท เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอ่อนนุช ห่างจากถนนใหญ่เพียง 400 เมตร เข้าสู่พื้นที่สุขุมวิทชั้นในได้ในระยะเวลาอันสั้น และราคาห้องชุดที่ต่ำกว่าสุขุมวิทชั้นในและพื้นที่ใกล้เคียง  อีกทั้งภายในโครงการอาร์ทีมิสก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่อายุ 25-35 ปี ที่มีไลฟ์สไตล์ เรียบสมาร์ท ที่ส่วนใหญ่ผู้บริโภคกลุ่มนี้ต้องการมีที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า ในขณะเดียวกันก็จะมีกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่า โดยกลุ่มลูกค้าที่สนใจและแวะเข้ามาสอบถามรายละเอียดโครงการนั้น ก็มีทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติทั้งเป็นชาวญี่ปุ่นและชาวจีน

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่ได้จากการสำรวจของ บริษัท เซ็นจูรี่21ฯ นั้นพบว่า ห้องชุดในโครงการคอนโดมิเนียมในย่านสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) มีประมาณ 7โครงการ จำนวน4,593  ยูนิต โดยส่วนใหญ่สร้างเสร็จและปิดการขายโครงการไปแล้ว และที่ขายอยู่ในตลาดนั้น จะเป็นห้องชุดรีเชล ที่ขายกันอยู่ที่ราคากว่า 90,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งสูงกว่าราคาขายของโครงการ อาร์ทีมิส ที่ขายราคา 79,000 บาทต่อตารางเมตร ถือว่าถูกกว่าห้องชุดคอนโดรีเชล อีกทั้งยังได้ห้องชุดใหม่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบในมาตรฐานเดียวกันกับโครงการที่อยู่ใกล้เคียง ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวน  เป็นต้น

ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการขายและการตลาด บริษัทได้นำโครงการร่วมออกบูธในงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 34” ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 10 - 13 มีนาคม 2559 บริเวณพื้นที่โซน C ชั้น 1, ชั้น 2 และพลาซ่า ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมกันนี้ยังได้จัดแคมเปญส่งเสริมการขายระหว่างวันที่ 10-25 มีนาคมนี้เป็นช่วงเปิดตัวในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 34 จองเพียง 9,000 บาท ฟรีเงินทำสัญญาสูงสุด 120,000 บาท  พร้อมรับ Samsung S7 รุ่นล่าสุดฟรี จำกัดจำนวนเพียง 50 ยูนิตแรกเท่านั้น และตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 70%