เทวัญ ลิปตพัลลภ เปิดใจ ‘เราเป็นกลาง-ไม่ขัดแย้งใคร’

28 พ.ย. 2561 | 03:52 น.
“เทวัญ ลิปตพัลลภ” น้องชายของ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ หลังเข้ารับหน้าที่นำพาทัพพรรคชาติพัฒนาแล้ว ได้วางมือจากประธานสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี สู่บทบาทใหม่ในฐานะหัวขบวนพรรคชาติพัฒนา

เจ้าตัวบอกว่า ไม่ได้ปรับตัวอะไรเป็นพิเศษเพราะเป็นอดีตส.ส.มาแล้ว 3 สมัย เพียงแต่ไม่เคยเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองอาจจะยังไม่มีความชํ่าชองทางการเมือง แต่มีความจริงใจ และคิดว่าประชาชนอยากได้ผู้แทนที่มีความจริงใจในการทำงาน

ถ้าเทียบบทบาทในกีฬาฟุตบอล กับหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาที่เป็นอยู่ปัจจุบัน เทวัญ ตอบเปื้อนรอยยิ้ม “กึ่งๆ เป็นทั้งโค้ช ทั้งประธานสโมสร ซึ่งในการต่อสู้ไม่ว่าในเกมกีฬาและเกมการเมืองเราจะไม่หวาดหวั่น แต่ก็ไม่ประมาท เพราะทุกพรรค การเมืองเก่งทุกพรรค เราจึงต้องทำพรรคของเราให้ดีที่สุด

 

IMG_3342

ชู “โนพรอบเบม”

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เกริ่นถึงที่มาของพรรคที่ชูนโยบาย “โนพรอบเบม” ว่า คำนี้เป็นสโลแกนของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี เคยใช้ ที่พรรคนำอุดมการณ์อดีตนายกรัฐมนตรีมาต่อยอด เพราะคำนี้ไม่ใช่ว่าโนพรอมเบมแล้ว จะจบแค่ตรงนั้น หรือใช้คำนี้มันแปลกดี แต่สะท้อนถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมาที่มีความสงบมากกว่าในปัจจุบัน

“ถ้าย้อนไปเมื่อประมาณ 20 ปี การเมืองจะจบที่ห้องประชุมรัฐสภา แม้ว่าผู้แทนจะมีความเห็นแตกต่างกันได้ แต่ต้องอยู่ในห้องประชุม เสียงส่วนใหญ่เอาอย่างไรก็จบเพียงแค่นั้น แต่เมื่อจบก็เลิกกันตรงนั้น

แต่เมื่อมาถึงการเมืองยุคใหม่ไม่ได้จบแค่ห้องประชุม มันมีการขยายความ ทำให้เกิดความขัดแย้ง พรรคเราอยากชี้ให้เห็นคำว่า โนพรอมเบม พรรคเราจะไม่สร้างปัญหา และก็จะไม่สร้างปัญหาให้พรรคอื่น เราจะไม่สร้างปัญหาให้เกิดขึ้น เพราะปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าปัญหาเศรษฐกิจ ก็รอการแก้ไขอีกเยอะ”

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ยํ้าว่า ที่พรรคชูสโลแกน “โนพรอม เบม” ไม่ได้หมายความว่า พรรคเราจะไปซ้ายก็ได้ขวาก็ได้ แต่เรามีจุดยืนทางการเมือง จุดยืนของเราคือ การไม่มีปัญหากับใคร ไม่ทะเลาะกับใครไม่ใช่ไปซ้ายก็ได้ขวาก็ได้ มันคนละเรื่องกัน ทั้งนิสัยส่วนตัวไม่ชอบมีปัญหากับใคร ใครที่จะทำงานกับเราก็สบายใจได้

ถามว่าต้องการเป็นรัฐบาลหรือไม่ ทุกพรรคก็ต้องการไปทำงานกับรัฐบาล เพราะการเป็นรัฐบาลหมายความว่าสามารถนำนโยบายที่ตนเองที่ชูไว้เอาไปสร้างประโยชน์และทำอะไรให้ประชาชนเห็นเป็นรูปธรรมได้ ถ้าเป็นฝ่ายค้านบทบาทก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งชาติพัฒนาก็เคยเป็นทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน เราเป็นมาแล้ว

IMG_3451

เจาะฐานเสียงทุกรุ่น

เทวัญ กล่าวถึงกระแสที่แต่ละพรรคหันมาชูนักการเมืองหน้าใหม่ว่า ตอนนี้ทุกพรรคเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ อย่างผมถ้าพูดในทางการเมืองก็เป็นคนรุ่นใหม่ เพราะไม่เคยมีตำแหน่งทางการเมืองไม่ว่าหัวหน้าพรรคและรัฐมนตรี และวันนี้เรามีเลขาธิการพรรคเป็นคนรุ่นหนุ่ม (ดล เหตระกูล) เราพยายามให้คนรุ่นใหม่และคนสมัยก่อนมาร่วมกับสมัยปัจจุบัน ความสงบจะเกิดขึ้น

สมัยก่อนไม่เคยมีอะไรที่ขัดแย้งทางการเมืองเพราะผู้นำทางการเมือง ตัวอย่าง พล.อ.ชาติชาย เป็นคนมีวิสัยทัศน์ และเป็นคนสบายๆ บ้านเมืองเราก็ไม่ต้องมาทะเลาะกัน มายุคนี้ด้วยเหตุผลหลายประการอาจจะมีความขัดแย้งนอกสภา ถ้าเราเอาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เอาทุกอย่างไปจบที่สภา ประชุมเสร็จออกนอกห้องประชุมสภา ก็จบแค่นั้นจะดีกว่าไหม เพราะเราเอาอดีตจากยุคพล.อ.ชาติชาย และอดีตที่เจ็บปวด มาผสมผสานให้คนรุ่นใหม่เห็นว่าสมัยก่อนเขาทำอย่างไรบ้านเมืองจึงสงบได้

เราชูเรื่องความเป็นกลางไม่มีปัญหากับใคร เราจะทำเป็นรูปธรรมก่อน อันแรกเราต้องทำให้เป็นตัวอย่างก่อนโดยไม่ขัดแย้งกับใคร และสร้างปัญหากับใคร ถ้าเป็นไปได้เราจะทำให้เห็นว่าถ้ามีความขัดแย้งเกิดขึ้นปัญหาทางเศรษฐกิจและปัญหาทุกอย่างมันจะเกิดขึ้น วันนี้เราอยากให้คนรุ่นใหม่เห็นว่า ในอดีตมีความสงบ มันเป็นเพราะอะไร เกิดจากอะไร เกิดจากนักการเมืองที่พร้อมจะช่วยเหลือกัน วันนี้ผมอยากให้คนรุ่นใหม่เห็นว่า อดีตที่ผ่านมามันดีนะแล้วนำมาผสมผสานกับรุ่นเก่า

เทวัญ2

 

มั่นใจ 3 เขตเมืองโคราช

ส่วนที่เกรงกันว่าหลังปลดล็อกความขัดแย้งจะกลับมานั้น หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา มองว่า หลังเลือกตั้งจะเป็นเหมือนเดิมไหม เป็นคำถามยอดฮิต คำถามนี้เกิดขึ้นกับทุกพรรค ประชาชนก็คิดเหมือนกัน ถ้าผมก็คงบอกไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง แต่อย่างน้อยมันจะเป็นทางออกที่ดีที่เรากลับสู่ระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าวันนี้เขาอยากเห็นประเทศชาติเปลี่ยนไปแบบไหน และก็เป็นการตัดสินของประชาชน

“เราจะส่งผู้สมัครเกือบทั่วประเทศ เกือบ 90% ที่จะเน้นคือ โคราช สาเหตุเพราะชาติพัฒนา สมัยก่อนมีอดีตส.ส.มากถึง 11 คน จาก 16 คน ปัจจุบันลดลง แต่ผลงานเราที่ผ่านมาจะเป็นตัวตัดสิน เน้นทุกเขต แต่เขต 1 - เขต 3 เป็นเหมือนกล่องดวงใจเรา และคาดว่าจะสามารถรักษาไว้ได้เหมือนเดิม”

เหตุผลที่มั่นใจว่ายังรักษาฐานเสียงได้ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาคนใหม่ ระบุว่า เพราะจากที่ลงพื้นที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนค่อนข้างดี และผู้สมัครที่วางตัวไว้มีทั้งผู้แทนเก่าและผู้แทนใหม่ รวมทั้งผลงานในโคราช โดยเฉพาะเขต 1 เขต 2 และ เขต 3 เราค่อนข้างมั่นใจ

เทวัญ3

เปรียบทีมฟุตบอล-การเมือง

เทวัญ ระบุด้วยว่า วันที่ 26 พฤศจิกายน เป็นวันสุดท้ายที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขีดเส้นให้ผู้สมัครต้องสังกัดพรรค จะดูว่าผู้สมัครที่เราเตรียมไว้ ประเมินแล้วจะได้สักกี่คน เพราะเห็นผู้สมัครแล้ว เหมือนทีมฟุตบอล วันนี้พอจะแข่ง ทีมเราประเมินดูว่าทีมเรามีใครบ้างแต่เราต้องขอดูรายชื่อคู่แข่งด้วย เราประเมินได้ว่ามีโอกาสชนะ แพ้ เสมอ หรือจะเล่นแบบไหน เราเห็นแล้วว่าคู่แข่งแบบนี้ก็จะเล่นแบบหนึ่งต้องดูสถานการณ์ ต้องดูทุกอย่าง พรรคการเมืองตอนนี้แข็งทุกพรรค คงเลือกคนที่ดีที่สุด และต้องรอให้ประชาชนตัดสิน

“คุณสุวัจน์ (ลิปตพัลลภ) ฝากว่าทำงานให้ดีที่สุด อย่าให้เสียชื่อหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา วันนี้พรรคเราอาจไม่ใหญ่โต แต่เป็นพรรคขนาดกลาง ถ้าเราทำดี และเราตั้งใจทำ เราก็จะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ การเมืองหลังการปลดล็อก พรรคมีอะไรไปสู้ เรามีคนรุ่นใหม่จบปริญญาเอกหลายคน จบทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประสบการณ์ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจเราไม่แพ้คนอื่น” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวทิ้งท้าย

+ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3422 หน้า 14 ระหว่างวันที่ 29 พ.ย.-1ธ.ค.2561 

ติดตามฐาน