‘จีซี’เจาะCLMV หนีพิษเทรดวอร์
จีซี มองแนวโน้มปี 2562 ยังมีปัจจัยบวกหนุนผลการดำเนินงานเติบโต คาดราคานํ้ามันดิบเฉลี่ย 75 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล แต่ยังหวั่นสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีนฉุดเศรษฐกิจโลก เบนเข็มตลาดส่งออกเม็ดพลาสติกสู่ตลาด CLMV แทน
นายปฏิภาณ สุคนธมาน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจปี 2562 คาดว่าภาพรวมจะดีขึ้นจากปีนี้ โดยมีปัจจัยบวกด้านราคานํ้ามันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 75 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เทียบปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 72 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยราคานํ้ามันดิบที่อยู่ระดับสูงขึ้น จะเป็นแรงผลักดันให้ราคาขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสูงขึ้นตามด้วย
[caption id="attachment_347049" align="aligncenter" width="354"]
ปฏิภาณ สุคนธมาน[/caption]
นอกจากนี้ต้นทุนก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิต ไม่ได้ปรับขึ้นตามราคานํ้ามันดิบมากนัก บริษัทจึงได้เปรียบคู่แข่ง เนื่องจากผู้ประกอบการรายอื่นใช้แนฟทาเป็นวัตถุดิบ
ขณะที่ปัจจัยลบในปี 2562 จะเป็นเรื่องของกำลังการผลิตใหม่จากประเทศมาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่มเข้ามาในตลาด รวมทั้งสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน แต่คาดว่าจะเป็นสถานการณ์ระยะสั้นหากไม่มีความรุนแรง ไม่กระทบต่อตัวเลขเศรษฐกิจโลก ความต้องการใช้และกำลังการผลิตภาคปิโตรเคมียังเท่าเดิม
“วันนี้สหรัฐฯไม่นำเข้าจากจีน แต่ก็จะมีการนำเข้าจากประเทศอื่นเข้ามาแทน อาทิ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป แต่ประเทศดังกล่าวจากที่เคยซัพพลายก็จะขาด ดังนั้น จีนอาจจะส่งเข้าไปแทน อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทลดการส่งออกในตลาดจีน จากเดิมที่เคยอยู่ที่กว่า 40% ตอนนี้อยู่ที่ 25-30% โดยหันไปเน้นส่งออกตลาด CLMV และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยอดส่งออกรวมกว่า 2 แสนตันต่อปี โดยขณะนี้ตลาดที่ใหญ่คือ เวียดนาม บริษัทส่งออก 2 แสนตันต่อปี ซึ่งบริษัทเพิ่งตั้งออฟฟิศที่เวียดนามเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ส่วนที่เหลือก็จะเป็นเมียนมากว่า 1 หมื่นตัน ส่วนประเทศอื่นก็มีสัดส่วนไม่มากนัก นอกจากนี้ตั้งเป้าตลาดส่งออกปี 2562 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามจีดีพีของเวียดนามที่เติบโต 5-6%” นายปฏิภาณ กล่าว
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี กล่าวว่าในปี 2562 คาดว่ายอดขายจะใกล้เคียงกับปี 2561 นี้ เนื่องจากเติบโตตามความต้องการใช้นํ้ามัน แต่ต้องจับตาปัญหาการเมืองระหว่างประเทศเป็นพิเศษ โดยเฉพาะปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หากไม่รุนแรงจนส่งผลกระทบขยายไปทั่วโลก จะไม่มีปัญหากับธุรกิจของบริษัทมากนัก
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,418 วันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2561
นายปฏิภาณ สุคนธมาน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจปี 2562 คาดว่าภาพรวมจะดีขึ้นจากปีนี้ โดยมีปัจจัยบวกด้านราคานํ้ามันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 75 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เทียบปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 72 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยราคานํ้ามันดิบที่อยู่ระดับสูงขึ้น จะเป็นแรงผลักดันให้ราคาขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสูงขึ้นตามด้วย
[caption id="attachment_347049" align="aligncenter" width="354"]
นอกจากนี้ต้นทุนก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิต ไม่ได้ปรับขึ้นตามราคานํ้ามันดิบมากนัก บริษัทจึงได้เปรียบคู่แข่ง เนื่องจากผู้ประกอบการรายอื่นใช้แนฟทาเป็นวัตถุดิบ
ขณะที่ปัจจัยลบในปี 2562 จะเป็นเรื่องของกำลังการผลิตใหม่จากประเทศมาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่มเข้ามาในตลาด รวมทั้งสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน แต่คาดว่าจะเป็นสถานการณ์ระยะสั้นหากไม่มีความรุนแรง ไม่กระทบต่อตัวเลขเศรษฐกิจโลก ความต้องการใช้และกำลังการผลิตภาคปิโตรเคมียังเท่าเดิม
“วันนี้สหรัฐฯไม่นำเข้าจากจีน แต่ก็จะมีการนำเข้าจากประเทศอื่นเข้ามาแทน อาทิ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป แต่ประเทศดังกล่าวจากที่เคยซัพพลายก็จะขาด ดังนั้น จีนอาจจะส่งเข้าไปแทน อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทลดการส่งออกในตลาดจีน จากเดิมที่เคยอยู่ที่กว่า 40% ตอนนี้อยู่ที่ 25-30% โดยหันไปเน้นส่งออกตลาด CLMV และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยอดส่งออกรวมกว่า 2 แสนตันต่อปี โดยขณะนี้ตลาดที่ใหญ่คือ เวียดนาม บริษัทส่งออก 2 แสนตันต่อปี ซึ่งบริษัทเพิ่งตั้งออฟฟิศที่เวียดนามเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ส่วนที่เหลือก็จะเป็นเมียนมากว่า 1 หมื่นตัน ส่วนประเทศอื่นก็มีสัดส่วนไม่มากนัก นอกจากนี้ตั้งเป้าตลาดส่งออกปี 2562 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามจีดีพีของเวียดนามที่เติบโต 5-6%” นายปฏิภาณ กล่าว
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี กล่าวว่าในปี 2562 คาดว่ายอดขายจะใกล้เคียงกับปี 2561 นี้ เนื่องจากเติบโตตามความต้องการใช้นํ้ามัน แต่ต้องจับตาปัญหาการเมืองระหว่างประเทศเป็นพิเศษ โดยเฉพาะปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หากไม่รุนแรงจนส่งผลกระทบขยายไปทั่วโลก จะไม่มีปัญหากับธุรกิจของบริษัทมากนัก
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,418 วันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2561
