สร้างพิมพ์เขียวของผู้นำ (1)

04 มี.ค. 2559 | 00:00 น.
ชีวิตของคนเรานั้นมีความสำคัญมากกว่าทรัพย์สินเงินทองที่อยู่รอบตัวเราหลายเท่านักแต่เรามักจะให้ความสำคัญและเวลาต่อสิ่งรอบตัวมากกว่าการพัฒนาสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือตัวเราเอง

เมื่อเราสร้างบ้านที่เรารักสักหลังเรามักจะหาสถาปนิกที่เก่งและรู้ใจเรามาเป็นผู้ออกแบบพิมพ์เขียวของบ้านเรา เพื่อให้ได้มาถึงความต้องการที่สามารถสะท้อนสิ่งที่อยู่ทั้งในความคิดและจิตใจของเราให้มากที่สุดและการสร้างพิมพ์เขียวบางครั้งต้องใช้เวลาระหว่างสถาปนิกกับตัวเราในฐานะเจ้าของบ้านเพื่อให้เกิดความเข้าใจและตรงกับสิ่งที่เราคาดหวังให้มากที่สุด

บางครั้งอาจจะใช้เวลาเป็นแรมเดือนขึ้นอยู่กับความประณีตที่เราต้องการสรรค์สร้างขึ้นมา แล้วพิมพ์เขียวสำหรับชีวิตคุณที่สำคัญมากกว่าหลายเท่าคุณมีเวลาให้กับการพิถีพิถันในการออกแบบโครงสร้างและสถาปัตยกรรมอันมีค่าที่สุดแล้วหรือยัง

การสร้างพิมพ์เขียวของชีวิตเปรียบเสมือนการบรรจงสร้างสถาปัตยกรรมโครงสร้างของรายละเอียดเพื่อสร้างสรรค์ภาพความสำเร็จในอนาคตว่าเป้าหมายที่คุณต้องการในชีวิตนั้นเป็นอย่างไรมีความหมายกับคุณมากน้อยขนาดไหน ตลอดจนความสุขที่คุณจะได้รับระหว่างทางที่คุณเดินไปหาเป้าหมายนั้น

นอกเหนือจากเป้าหมายที่เด่นชัดและมีความหมายแล้วความพร้อมหรือพื้นฐานของอัจฉริยภาพของตัวเราก็เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญเพราะถ้าเราสร้างภาพความสำเร็จอยู่บนพื้นฐานที่เราไม่มีความเก่งอยู่เลยก็เปรียบเสมือนการต่อยอดบนรากฐานที่ไม่แน่นหนามั่นคง

ความคมชัดของเป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเจียระไนอัจฉริยภาพ เพราะมันเป็นเสมือนจุดรวมพลังในการปลดปล่อยความสามารถคุณออกมา เคยมีคนเปรียบเทียบความสามารถและพลังที่อยู่ภายในคนเราเสมือนพลังของจรวดอพอลโลที่ส่งไปดวงจันทร์ แต่ละกระสวยเชื้อเพลิงสามารถยกรถได้ถึง 7,500 คันและมีถึง 5 กระสวยซึ่งถ้ารวมกันแล้วสามารถมีพลังและอำนาจในการยกรถได้กว่า 37,000 คัน

แต่คนเรามีพลังมากกว่านั้นส่วนใหญ่มักจะไม่สามารถดึงเอาพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในออกมา สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ไม่สามารถดึงศักยภาพภายในออกมาได้ก็คือไม่มีเป้าหมายเปรียบเสมือนมีพลังแต่มิได้เอากุญแจสวิตช์มา หรือเป้าหมายที่มีไม่ชัดก็เสมือนเราดูแผนที่ที่มิได้บอกรายละเอียดของสถานที่ต่างๆ ไว้เมื่อเราขับไปถึงหรือขับผ่านไปบางครั้งเราอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราได้ไปถึงแล้ว

เป้าหมายมีความสัมพันธ์กับอุปสรรคและความท้าทายที่ผ่านมาเพราะชีวิตเราทุกคนคงจะต้องเจออุปสรรคที่โถมทับเข้ามา แต่เราจำเป็นที่จะต้องมีทิศทางที่เราจะมุ่งไปเพราะมิฉะนั้นแล้วเราอาจจะโดนมรสุมชีวิตพัดกระหนและเมื่อเราไม่มีเป้าหมายชัดเจนเราก็จะไม่สามารถจะกลับไปในทิศทางที่เราอยากไปได้เมื่อพายุสงบลง นักกีฬาเรือใบคงจะเข้าใจนี้ดีเพราะบางครั้งเมื่อลมไม่เป็นใจเราอาจจะต้องวิ่งไปแบบซิกแซ็กเพื่อจะได้ไม่ปะทะแรงลมแต่เมื่อลมส่งท้ายสงบลงเหลือแต่ลมส่งท้ายในทิศทางที่เราต้องการเราก็สามารถเร่งได้อย่างเต็มที่เพื่อขับพลังออกมาอย่างเต็มพิกัด

เป้าหมายชีวิตของแต่ละคนอาจจะมีช่วงเวลาไม่เหมือนกันบางคนฝันแค่ 1 วัน เราเห็นเด็กหาเช้ากินค่ำซึ่งต้องการแค่เงินวันละ 100 บาทตกเย็นก็ไปกินเหล้าไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ ทำงานก็เพื่อเงินอย่างเดียวไม่ได้คิดถึงความหมายของชีวิต จะมีความสุขก็ต่อเมื่ออยู่นอกงานเท่านั้นแต่ในงานนั้นมีแต่ความทุกข์ ถ้าเราเติบโตเป็นหัวหน้าคนเรามักจะมีแผนงานที่ยาวขึ้นซึ่งปกติก็จะเป็นแผนงาน 1 ปีเมื่อพัฒนาตัวเองเป็นผู้บริหารระดับสูงก็มักจะสามารถวางแผนได้ยาวขึ้นเป็น 3-5 ปี เราคงสังเกตเถ้าแก่บางคนที่วางเป้าหมายไว้หลายชั่วอายุคนบ้างวางแผนพัฒนาลูกหลานเพื่อมาสืบทอดเจตนารมณ์

ดังนั้นความสามารถในการวางเป้าหมายนั้นสามารถพัฒนากันได้แต่ที่สำคัญมากไปกว่าเป้าหมายก็คือความสุขในการไปหาเป้าหมายนั้นมีเรื่องเล่าที่ผู้เขียนชอบมากเรื่องหนึ่งที่สะท้อนถึงการทำงานและความสุขได้เป็นอย่างดี เรื่องมีอยู่ว่า ชายคนหนึ่งเดินทางไปต่างจังหวัดไปพบกับชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งกำลังก่ออิฐอยู่ ก่อไปบ่นไปดูเหมือนว่าไม่มีความสุขในงานที่ทำเลย เมื่อเข้าไปถามว่าทำอะไรก็บอกว่าไม่เห็นหรือฉันทำงานเพื่อเงิน 135 บาท แต่งานมันไม่สนุกเลยเย็นๆ ไปกินเหล้ารู้สึกว่ามันสนุกดี

เมื่อชายคนนั้นเดินไปอีกพักก็พบกับชายอีกกลุ่มหนึ่งดูเหมือนมีหัวหน้าที่คอยช่วยเหลือลูกน้องที่ก่ออิฐอยู่ แต่ระหว่างก่อไปก็ยังบ่นอุบอิบเหมือนเดิมแต่มีการวางแผนและแบ่งงานกันทำซึ่งต่างกับกลุ่มแรกคือไม่มีการประสานงานกันเลย เมื่อเข้าไปถามว่าทำอะไรก็ได้คำตอบที่ว่าเรากำลังก่อผนังอยู่ ที่ฉาบปูนก่ออิฐอยู่นี้เป็นส่วนหนึ่งของผนัง เราจึงแบ่งงานกันทำเพื่อให้งานมันรีบเสร็จๆ เราจะได้เงินไปกินเหล้าแต่งานก็ยังหนักและไม่น่าทำเหมือนเดิม

พอชายคนเดียวกันนั้นเดินต่อไปก็พบชาวบ้านกลุ่มใหญ่ก่ออิฐไปและผิวปากไปจึงสงสัยเป็นยิ่งนักว่าทำไมงานหนักแต่ยังผิวปากและร้องเพลงอยู่ได้ จึงตรงไปถามปรากฏว่าเขากลับบอกว่าสิ่งที่ก่ออิฐอยู่เป็นส่วนที่สำคัญของชีวิตนั่นก็คือการสร้างวัดที่พวกเขามีความฝันอันยิ่งใหญ่ร่วมกันว่าจะต้องสร้างวัดให้หมู่บ้านและสิ่งที่เขาทำเป็นส่วนหนึ่งของความฝันอันยิ่งใหญ่มากเพราะเขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำทำให้ความฝันอันยิ่งใหญ่เกิดขึ้นมาได้ แม้จะเหนื่อยแต่มันก็เป็นความสุขและความสนุกที่ได้เดินทางไปหาภาพแห่งความสำเร็จที่เขาฝันไว้ เขากล่าวต่อไปอีกว่าภาพแห่งความสำเร็จก็คือสิ่งที่เราต้องการได้มา แต่ความสุขนั้นก็คือรักและมีความสุขในการเดินทางเพื่อให้มาถึงสิ่งที่ต้องการ

ดังนั้นความสำเร็จและความสุขเป็นสิ่งที่ต้องไปคู่กัน มิฉะนั้นชีวิตเราจะเติมไม่เต็มเพราะบางคนมาบ่นกับผู้เขียนว่าเมื่อได้มาถึงความสำเร็จแต่รู้สึกโดดเดี่ยวและไม่มีเพื่อนเลย ในขณะที่ผู้ประสบความสำเร็จที่แท้จริงมักจะสนุกและมีความสุขในการเดินทางและเพื่อนๆ และผู้ที่ห้อมล้อมเป็นผู้ที่ดันเขาขึ้นมาและช่วยเหลือหนุนนำพาไปสู่ภาพความสำเร็จด้วยกัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,136 วันที่ 3 - 5 มีนาคม พ.ศ. 2559