สบายใจได้! "ข้าวถุง" ยังไม่ปรับราคาขึ้น

08 พ.ย. 2561 | 11:52 น.
เคลียร์สต็อกรัฐเกลี้ยง! ดันราคาข้าวหอมมะลิพุ่ง 30-40% สมาคมข้าวถุงยัน! ไม่ปรับราคาขึ้น ด้านส่งออกเผย 9 เดือน ยอดหายวูบ 25% เล็งปี 2562 ไม่สดใส ชี้! ราคาข้าวแพงตั้งแต่ต้นฤดู แนะรัฐพัฒนาสายพันธุ์สู้ หลังลูกค้าผิดหวัง "ความหอมหายไป"



OLYMPUS DIGITAL CAMERA

จากสถานการณ์ราคาข้าวหอมมะลิพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์นั้น หลายคนกังวลว่า ราคาข้าวถุงจะปรับราคาขึ้นหรือไม่ "ฐานเศรษฐกิจ" สัมภาษณ์พิเศษ "นายสมเกียรติ มรรคยาธร" นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) และเลขาธิการสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคาข้าวถุงทรงตัว ยังไม่ปรับราคา หากเปรียบเทียบราคาข้าวสาร หรือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ณ เวลาปัจจุบัน ราคาวัตถุดิบใหม่ที่ออกเท่ากับราคาวัตถุดิบ ณ เวลาปัจจุบันอยู่แล้ว ตัวราคาของข้าวหอมมะลิเองก็ยังคงทรง ๆ อยู่ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากเลย บวกลบนิดหน่อยยังไม่มีการกระทบเป็นนัยสำคัญกับวัตถุดิบในการทำข้าวหอมมะลิ


apprice-960625_1920

"สำหรับการส่งอออก มีผลกระทบทางด้านปริมาณลดลงแล้ว 25% เพราะฉะนั้น คาดว่าจะกระทบในปีหน้า เพราะราคาแพงตั้งแต่ต้นฤดูสำหรับในปีนี้ ซึ่งเป็นราคาปัจจุบัน แน่นอนย่อมส่งผลกระทบปริมาณส่งออกข้าวหอมมะลิในอนาคต จะส่งผลในปี 2562 คาดว่าการส่งออกจะลดลงด้วยจากปี 2561 สาเหตุราคาข้าวแพง ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า ทางด้านคุณภาพในเรื่อง "ความหอม" ยังแก้ปัญหาไม่ได้ แต่ในเรื่องความนุ่ม ความเหนียว ลักษณะเฉพาะตัวพิเศษของข้าวยังคงอยู่ ก็ยังครองใจผู้บริโภคอยู่ ทั้งคนไทยและคนต่างประเทศ ดังนั้น คนที่ต้องการความหอมด้วยก็อาจจะผิดหวัง"


MP22-3207-A

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ต้องยอมรับว่า หลายบริษัทคิดไม่ถึงว่า ราคาข้าวในต้นฤดูจะพุ่งถึง 30-40% ถ้าเทียบราคาจากปลายปีที่แล้ว หรือ ต้นฤดูปีที่แล้ว ราคาที่เพิ่มขึ้นมาจากราคาข้าวสารประมาณ 20 บาทต่อกิโลกรัมต้น ๆ แล้วปรับขึ้นมาเป็นราคาข้าวสาร 30-35 บาทต่อกิโลกรัม เหมือนเป็นสัญญาณที่ทำให้ทุกคนต้องระมัดระวัง แล้วจำเป็นที่จะต้องมีสต็อกอยู่ในมือ แต่ก็มองว่า ราคามาถึงจุดสูงสุดแล้วในระดับหนึ่ง ก็คิดว่าคงไม่สูงสุดไปมากกว่านี้แล้ว เพราะราคาของวัตถุดิบข้าวหอมมะลิในปีนี้ ถ้าเทียบกับราคาตลาดปัจจุบันไม่ได้สูงกว่า มองว่าคล้ายสถานการณ์ราคาปี 2551 หลังจากนั้นราคาจะค่อย ๆ อ่อนตัวลงมา คาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นานนัก ประมาณ 1-2 ปี จากนั้นราคาจะค่อย ๆ ทรงตัวเป็นไปตามวัฐจักรของสินค้า เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องสต็อก แต่ในขณะเดียวกันก็คงจะต้องระมัดระวัง


Untitled-1

จากราคาข้าวต้นฤดูที่ปรับราคาเพิ่ม สำหรับตลาดในประเทศไม่ค่อยกังวลเท่าไรนัก เนื่องจากลูกค้าคนไทยชอบบริโภคข้าวหอมมะลิที่มีอายุเก็บในราว 8-12 เดือน แต่เป็นห่วงกังวลกับข้าวหอมมะลิในฤดูกาลที่ผ่านมา ว่า จะมีพอให้ใช้ถึงปีหน้าหรือเปล่า ส่วนข้าวหอมมะลิที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวมาตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. เป็นต้นไปนั้น ยังมีความเชื่อว่าราคาจะอ่อนตัวลงบ้างในการที่ผู้ส่งออกจะต้องซื้อเก็บไว้เป็นสต็อก ในการที่จะเก็บเอาไว้ใช้ในประเทศ คาดว่าจะเป็นเดือน มิ.ย. 2562 ถึงจะเป็นราคาต้นทุน 100% ของข้าวหอมมะลิในฤดูกาลใหม่

595959859