'ศิริ' กลับลำ! สั่งเผา "น้ำมันปาล์มดิบ" ยอมเฉือนพันล้านรับภาระค่าไฟฟ้า

06 พ.ย. 2561 | 04:51 น.
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้ออก 3 มาตรการเร่งด่วน เพื่อช่วยดูดซับผลผลิตปาล์มที่ล้นตลาดในขณะนี้ ได้แก่ 1.การนำน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าบางปะกงและโรงไฟฟ้าราชบุรี จำนวน 1.6 แสนตัน เป็นเวลา 3 เดือน

10078

ขณะนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงโรงไฟฟ้าดังกล่าวให้สามารถใช้น้ำมันปาล์มได้ จากปัจจุบันเป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก และสามารถใช้น้ำมันดีเซลได้ในกรณีจำเป็น ดังนั้น จึงสามารถใช้น้ำมันปาล์มแทนดีเซลได้ อย่างไรก็ตาม กฟผ. จะเร่งดำเนินการให้เกิดการใช้น้ำมันปาล์มให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ การนำน้ำมันปาล์มมาใช้ในโรงไฟฟ้าจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น 20-30 สตางค์ต่อหน่วย หรือ คิดเป็นค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 3-3.20 บาทต่อหน่วย ซึ่งดีกว่านำไปใช้กับโรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเตา เพราะจะทำให้ค่าไฟฟ้าสูงถึง 6-7 บาทต่อหน่วย ดังนั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าไฟฟ้าของประชาชน รัฐบาลจะต้องนำเงินมาชดเชยประมาณ 1 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นการใช้งบกลางของรัฐบาลชดเชย 500 ล้านบาท และการหักกลบจากค่าสายส่งสายจำหน่ายอีก 500 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้ กฟผ. จะเป็นผู้รับภาระ

สำหรับมาตรการที่ 2 คือ การเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์มในดีเซล บี7 โดยตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. 2561 นี้ จะกำหนดให้ผสมน้ำมันปาล์มขั้นต่ำอยู่ที่ 6.8% จากเดิมผสมอยู่ 6.6% ซึ่งจะช่วยให้เกิดการซื้อมันปาล์มได้เพิ่มขึ้นประมาณ 8 หมื่นตันต่อปี หรือ เกิดการเริ่มซื้อขึ้นทันทีในครั้งแรก 1.5 หมื่นตัน


DSCN0084

ส่วนมาตรการที่ 3 คือ การสนับสนุนการใช้น้ำมันดีเซล บี20 ล่าสุด ได้ร่วมมือกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เพื่อทดลองใช้ดีเซล บี20 ในรถประจำทางเป็นเวลา 1 เดือน โดยมีแผนการใช้ดีเซล บี20 ในปริมาณ 7 ล้านลิตรต่อเดือน และจะทำให้การใช้ดีเซล บี20 โดยรวมในเดือน ธ.ค. 2561 รวมเป็น 20 ล้านลิตรต่อเดือน

สำหรับมาตรการนำน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าบางปะกงและโรงไฟฟ้าราชบุรี จำนวน 1.6 แสนตัน เป็นเวลา 3 เดือนนั้น แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า มาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อพยุงราคาน้ำมันปาล์มดิบให้สูงขึ้นนั้น ยังไม่สามารถทำให้ราคาปาล์มน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้นายศิริจะผลักดันให้นำไบโอดีเซล หรือ บี100 มาผสมในน้ำมันดีเซลในส่วนที่สูงขึ้นไป 7.2% แต่บรรดาค่ายรถยนต์ไม่ตอบรับ และยังไม่สามารถขยับเพิ่มการผสมไบโอดีเซลข้นไปที่ 7% หรือ ดีเซล บี7 ได้


bpk[1]

ที่สำคัญการนำน้ำมันปาล์มดิบไปเผาเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้านั้น นายศิริเคยต่อต้านมาก่อนในช่วงแรกมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หรือ ประมาณช่วงเดือน ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นว่าเป็นวิธีการไม่ถูกต้อง เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย เพราะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ 35 ล้านบาท ในขณะที่ ค่าใช้จ่ายในการเผาเพื่อผลิตไฟฟ้านั้นอยู่ที่ 400 ล้านบาท อาจจะกระทบกับค่ากระแสไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้นได้ แต่เมื่อมาตรการต่าง ๆ ในการช่วยพยุงราคาปาล์มน้ำมันใช้ไม่ได้ผล นายศิริจึงยอมที่จะกลืนน้ำลายตัวเอง เพื่อหวังที่จะให้มีการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบที่ล้นสต๊อกได้โดยเร็ว


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว