เบี่ยงแนวเวนคืนบางใหญ่! 'อาคม' เล็งขยับจุดเริ่มต้นมอเตอร์เวย์ 2 กม.
ชง 'อาคม' เคาะขยายจุดเริ่มต้นมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี ออกไปอีก 2 กิโลเมตร พร้อมเบี่ยงแนวซ้าย-ขวา เลี่ยงผ่านที่ดินย่านบางใหญ่ หวังลดงบเวนคืนที่ 1.4 หมื่นล้าน เหลือ 9 พันล้าน
โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ เส้นทางบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร หนึ่งในโครงการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงด่านบ้านพุน้ำร้อนกับ Eastern Seaboard ที่ท่าเรือแหลมฉบังและแหล่งเศรษฐกิจฝั่งตะวันออกของไทย ซึ่งครั้งหนึ่งถูกวาดฝันว่าจะเป็นถนนสายเศรษฐกิจที่สำคัญ ที่เช่ือมต่อระหว่างฐานการผลิตและส่งออกของไทยกับโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ประเทศเมียนมา ที่บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ของไทย ได้รับสัมปทานพัฒนาโครงการจากรัฐบาลเมียนมา
รัฐบาลที่มี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงมีมติอนุมัติให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงก่อสร้างโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ เส้นทางบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร ในวงเงินรวม 55,620 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 43,700 ล้านบาท และค่าเวนคืนอีก 5,420 ล้านบาท โดยประมาณการว่า เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีรายได้จากค่าผ่านทางปีละ 1,767 ล้านบาท
งบก่อสร้างทะลุ 6.3 หมื่นล้าน
อย่างไรก็ตาม จากการเวนคืนที่ดินที่ล่าช้า ส่งผลให้ค่าเวนคืนเพิ่มขึ้นจาก 5,420 ล้านบาท ไปอยู่ที่ 19,737 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14,317 ล้านบาท เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา กรมทางหลวงจึงเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติปรับเพิ่มกรอบลงทุนโครงการอีก 14,217 ล้านบาท ส่งผลให้วงเงินลงทุนรวมปรับเพิ่มขึ้นจาก 49,120 ล้านบาท เป็น 63,237 ล้านบาท แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่อนุมัติและสั่งกลับไปให้กรมทางหลวงทบทวนรายละเอียดโครงการอีกครั้ง
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า พล.อ.ประยุทธ์ สั่งให้กรมทางหลวงตรวจสอบขั้นตอนและกระบวนการสำรวจที่ดินที่จะเวนคืนก่อนและหลังที่ ครม. อนุมัติให้ดำเนินโครงการ โดยเฉพาะขั้นตอนการประกาศให้การเวนคืนเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อป้องกันการเก็งกำไรที่ดิน ได้ดำเนินการถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ เพราะมีการรายงานให้นายกฯ ทราบว่า หลังจากที่มีการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2556 แล้ว กว่าที่กรมทางหลวงจะออกประกาศให้การเวนคืนเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและลงสำรวจพื้นที่ในปี 2558
นายกฯ สั่งทบทวนโครงการ
"นายกฯ ได้สั่งให้กระทรวงคมนาคมไปตรวจสอบว่า มีข้าราชการรายใดบ้างที่มีความผิดกรณีนี้ เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวทำให้รัฐเสียประโยชน์ ทำให้งบประมาณเวนคืนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งให้ตรวจสอบด้วยว่า เรื่องดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่"
[caption id="attachment_342545" align="aligncenter" width="503"]
นอกจากนี้ ยังสั่งการให้กรมทางหลวงทำข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงความเหมาะสม คุ้มค่า และผลประโยชน์ที่ภาครัฐและสาธารณชนจะได้รับจากการดำเนินโครงการ รวมถึงพิจารณาทบทวนแผนการดำเนินโครงการให้ครบถ้วน เช่น การร่นระยะ หรือ ปรับเปลี่ยนจุดเริ่มต้นโครงการที่ตั้งอยู่บริเวณ อ.บางใหญ่ ที่ต้องจ่ายค่าเวนคืนสูง
"นายกฯ เห็นว่า สมมติฐานเดิมที่ตั้งไว้ว่าจะมีการเชื่อมต่อกับโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก กรมทางหลวงจึงควรกลับไปทบทวนความคุ้มค่าการลงทุนใหม่ ควบคู่กับแนวทางที่จะเพิ่มมูลค่าโครงการให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเสนอให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ บอร์ดสภาพัฒน์ ทบทวนความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบอื่น ๆ อีกครั้ง"
ชงเบี่ยงแนวซ้าย-ขวา
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" กรณีการลดงบประมาณโครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี ว่า เตรียมตั้งกรอบวงเงินจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเสนอ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม วงเงินประมาณ 9,000 ล้านบาท หรือต้องต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมกับแผนขยับแนวเส้นทางบริเวณบางใหญ่ ออกไปจากบริเวณเดิมประมาณ 2 กิโลเมตร ทั้งซ้ายและขวา เพื่อให้รัฐมนตรีคมนาคมเลือก เนื่องจากราคาที่ดินต่ำกว่าบางใหญ่
[caption id="attachment_342549" align="aligncenter" width="503"]
อย่างไรก็ตาม เกรงว่าแนวใหม่จะกระทบชาวบ้านเช่นกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจ โดยปัจจุบัน แนวบริเวณบางใหญ่มีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการแล้ว อัตราชดเชยสูงกว่า 1 แสนบาทต่อตารางวาขึ้นไป สูงกว่าเดิม 2-3 เท่าตัว
จ่ายชดเชยแล้ว 30%
"ผลกระทบจากค่าชดเชยไม่ใช่เฉพาะบริเวณบางใหญ่แห่งเดียว เพราะตลอดแนวราคาที่ดินขึ้นทั้งหมด เพียงแต่บางใหญ่มีรถไฟฟ้าเท่านั้น สำหรับการจ่ายค่าชดเชยได้จ่ายไปแล้ว 30% ยังค้าง 4,800 แปลง ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งรัด ส่วนผู้รับเหมาสามารถตกลงกันได้ ยังไม่มีเรื่องการขอขยายเวลา"
อธิบดีกรมทางหลวง ยืนยันว่า มอเตอร์เวย์เส้นนี้คุ้มค่า เพราะรองรับการเดินทางเชื่อมไป จ.กาญจนบุรี เพื่อแก้ปัญหาจราจรไปยังพื้นที่ใกล้เคียง
กรมทางหลวงไม่พบผิด
แหล่งข่าวระดับสูงของกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยขอให้ทบทวนข้อมูลเป็นปัจจุบันอีกครั้ง เพื่อลดงบประมาณลงทุนให้ได้มากที่สุด แต่ไม่กระทบต่อการพัฒนาโครงการ ส่วนการตรวจสอบว่า มีข้าราชการคนใดทำผิดหรือไม่ ขณะนี้ ทางกรมทางหลวงได้รายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทราบว่า จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีข้าราชการคนใดกระทำความผิด รวมทั้งผู้ที่ดูแลโครงการก่อนหน้านี้ก็ได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว
[caption id="attachment_342552" align="aligncenter" width="503"]
ที่ดินกาญจน์ชนเพดาน
ด้าน นายเจิดศักดิ์ เอี่ยมปาน เลขาธิการ หอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ราคาที่ดินขยับจนชนเพดาน ส่วนการซื้อที่ดินเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะทางลงเชื่อมทางเลี่ยงเมือง อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาหอการค้ากาญจนบุรีไม่เอาแนวเส้นทางที่ 4 เพราะกระทบชาวบ้านและไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ แต่กรมทางหลวงยืนยันแนวเส้นทางที่ 4 เหมาะสมตามข้อเสนอของบริษัทที่ปรึกษา เพราะจ่ายค่าจ้างศึกษากว่า 100 ล้านบาท
สำหรับโครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี มีการก่อสร้างแล้วเสร็จบางส่วน สามารถรองรับการเดินทางของ จ.กาญจนบุรี และเขตเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรีตามนโยบายรัฐบาล ล่าสุด บริษัท ราชบุรีโฮลดิ้งฯ ได้ที่ดินของกรมธนารักษ์ 2,900 ไร่ สร้างเขตนิคมอุตสาหกรรมบริเวณบ้านพุน้ำร้อน แต่ยังติดปัญหาชาวบ้านบุกรุก ส่วนเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ทราบว่า ยังไม่มีการยกเลิก
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,415 วันที่ 4 - 7 พ.ย. 2561 หน้า 01-02
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● เนรมิต 8 มหานคร! ตั้งศูนย์ ศก.ใหม่ รอบ กทม. ปักหมุดบางใหญ่-รังสิต-สุวรรณภูมิ
● ศูนย์ ศก.ใหม่ "บางใหญ่-แจ้งวัฒนะ-รังสิต-สุวรรณภูมิ"
