'เบทาโกร' ซื้อไม่อั้น! "ข้าวโพดหลังนา"

01 พ.ย. 2561 | 11:14 น.
'เบทาโกร' หนุนโครงการปลูกข้าวโพดหลังนา พร้อมรับซื้อ 4 จังหวัด ไม่อั้น! เชื่อมั่นปีนี้ผลผลิตขายได้ราคาดี ไม่มีตก ขยับขึ้นไม่ต่ำกว่า 9 บาท/กก. อย่างแน่นอน ชี้! ตลาดมีแนวโน้มความต้องการวัตถุดิบอาหารสัตว์อีกกว่า 1.4 ล้านตัน



609277479

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยถึงความก้าวหน้าโครงการขับเคลื่อนโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ว่า ขณะนี้มีจำนวนเกษตรกรที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ 110,346 ราย พื้นที่ 962,222.50 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ทั้งที่อยู่ในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทานในจังหวัดเป้าหมาย 33 จังหวัด และคาดว่าเกษตรกรจะเริ่มฤดูเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. ไปจนถึง 15 ม.ค. 2562 และผลผลิตจะเริ่มทยอยเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่เดือน ก.พ. - เม.ย. 2562 ซึ่งเป็นช่วงหน้าแล้ง คาดว่าข้าวโพดที่เก็บเกี่ยวจะมีคุณภาพและความชื้นในเกณฑ์ที่ดี โดยมีการประมาณการผลผลิตต่อไร่เฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 กิโลกรัม


0C589FB5-2C9B-4570-AE99-7ACDDFE406BF

สำหรับการประสานตลาดรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้หารือร่วมกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์และบริษัทเอกชน 15 บริษัท ที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ เรื่องการกำหนดราคารับซื้อ และเห็นชอบร่วมกันว่า ราคารับซื้อข้าวโพดแห้งความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาไม่ต่ำกว่า 8 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาจำหน่ายที่หน้าโรงงานใน กทม. และปริมณฑล ส่วนราคารับซื้อในแต่ละพื้นที่อาจจะแตกต่างกันไปตามคุณภาพ ความชื้น สิ่งเจือปน และค่าขนส่ง ซึ่งจะยึดตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์และใช้มาตรฐานในการรับซื้อเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ

โครงการดังกล่าวถือเป็นมาตรการการจูงใจให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนอาชีพ เพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา เริ่มดำเนินการ 2 พ.ย. กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ จะเป็นพี่เลี้ยงดูแล โดยกรมชลประทานจะดูแลเรื่องระบบน้ำ เจ้าหน้าที่เกษตรตำบล เกษตรอำเภอ มาดูแลเรื่องการเพาะปลูกข้าวโพด กรมส่งเสริมสหกรณ์จะดูแลเรื่องของการหาตลาดรับซื้อ นอกจากนี้ จะสนับสนุนสินเชื่อเป็นค่าปัจจัยการผลิตและการเตรียมดินผ่าน ธ.ก.ส. ในอัตราร้อยละ 0.01% ต่อปี โดยสามารถขอกู้ได้ไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ต่อราย รัฐบาลสนับสนุนเบี้ยประกันภัย 65 บาทต่อไร่ เมื่อได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติจะได้รับชดเชยไร่ละ 1,500 บาท ส่วนสถาบันเกษตรกรจะได้รับสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องในการรวบรวมและรับซื้อผลผลิตข้าวโพด ผ่าน ธ.ก.ส. ในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี


090861-1927-9-335x503-8-335x503

ทั้งนี้ ในการกำหนดจุดรับซื้อกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้มีการประชุมหารือกับทางสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ และได้ให้ทางสมาคมส่งรายชื่อของบริษัทที่จะไปลงพื้นที่ในการที่จะกำหนดจุดรับซื้อที่แน่นอนของเกษตรกร ตอนนี้ทางสมาคมฯ มีแจ้งมาแล้ว 3 บริษัท ซึ่งก็ครอบคลุมในพื้นที่ทั้ง 33 จังหวัด แต่มีในพื้นที่เปิดใหม่ 3 จังหวัด คือ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด ที่ยังรอความชัดเจนกับทางสมาคมฯ อยู่ ภายในวันที่ 31 ต.ค. 2561 จะส่งรายชื่อของจุดรับซื้อในแต่ละอำเภอมาให้เพิ่มเติม ซึ่งก็จะเป็นจุดที่ทางบริษัทที่มีโรงงานอาหารสัตว์อยู่ เขาจะมีเครือข่ายในพื้นที่ ซึ่งเป็นพ่อค้าในพื้นที่ ซึ่งกลุ่มนี้ก็จะทำงานร่วมกับสหกรณ์ในพื้นที่ โดยจะเป็นลักษณะที่สหกรณ์รวบรวมแล้วนำไปส่งให้กับพ่อค้าในท้องถิ่นที่เป็นเครือข่ายของโรงงานอาหารสัตว์ แล้วส่งให้โรงงานอาหารสัตว์ต่อ หรือว่าบางจุดสหกรณ์ไม่มีศักยภาพที่จะรับซื้อ แต่ว่ามีอุปกรณ์การตลาด ก็จะเป็นจุดให้ทางภาคเอกชนมาดำเนินการรวบรวมผลผลิตจากเกษตรกรไปในราคาที่ทางสมาคมฯ ได้พูดคุยกัน ก็คือ 8 บาท ที่ความชื้น 14.5% ซึ่งเป็นราคาที่หน้าโรงงานอาหารสัตว์เขตปริมณฑล อันนี้ก็เป็นเรื่องของจุดรับซื้อ ซึ่งตอนนี้ก็สามารถที่จะยืนยันได้ว่า แต่ละจุดเรามีผู้ซื้อโดยความร่วมมือของสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์


B350DFDC-383D-47D2-9D92-5F6F8D977FEE

ด้าน นายณรงค์ วงศ์ธรรมสรณ์ ผู้อำนวยการจัดซื้อและสำรวจวัตถุดิบ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯ มีความพร้อม 100% ในการสนับสนุนโครงการดังกล่าวของรัฐบาล และเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปรับซื้อข้าวโพดหลังนาของเกษตร/สหกรณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ที่ได้รับการจัดสรรจากสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ คือ จ.เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สระบุรี และลพบุรี

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ในประเทศมีความขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์อีกจำนวนมาก แต่ละปีมีความต้องการ โดยที่ผ่านมาไทยผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ประมาณ 5 ล้านตัน มีความต้องการถึงประมาณ 8 ล้านตัน จึงไม่เพียงพอต่อความต้องการ แม้จะมีการนำเข้าวัตถุดิบมาจากต่างประเทศบางส่วนแล้ว ก็ยังมีความขาดแคลนอยู่อีก 1.4 ล้านตัน/ปี ในขณะที่ บริษัทฯ เองก็มีความต้องการจำนวน 8 แสน - 1 ล้านตัน/ปี ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ จนต้องหาวัตถุดิบอื่น ๆ มาเพิ่ม อาทิ ข้าวสาลี ปลายข้าว จากตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า โครงการข้าวโพดหลังนาของรัฐบาล ตลาดยังมีอนาคตอีกยาวไกล เกษตรกรไม่ต้องกังวลเรื่องผลผลิตไม่ได้ราคาหรือล้นตลาด รับรองปีนี้ขายได้ไม่ต่ำกว่า 9 บาท/กก. ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ที่สำคัญข้าวโพดถือเป็นพืชเงินสด ขายให้ใครก็ได้เงินสดทันที ทำให้เกษตรกรและชาวนามีสภาพคล่องมากขึ้น


ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์_๑๘๑๐๓๑_0003

"บริษัท เบทาโก พร้อมให้ความร่วมมือโครงการปลูกข้าวโพดหลังนาอย่างเต็มที่ เพราะถือเป็นโครงการที่เข้ามาช่วยกอบกู้วิกฤติภาวะขาดแคลนวัตถุดิบอาหารสัตว์ของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของประเทศได้อย่างถูกจังหวะและสถานการณ์ ในขณะเดียวกันอีกทางหนึ่งก็ได้ช่วยเกษตรกรและชาวนาไทย เพิ่มทางเลือกในอาชีพช่วงที่รัฐบาลมีนโยบายลดพื้นที่การปลูกข้าวนาปรัง ทั้งยังช่วยโรงงานอาหารสัตว์ได้มีวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ได้เพียงพออีกทางหนึ่งด้วย"

อย่างก็ไรก็ตามที่ผ่านมา บริษัท เบทาโก ได้ร่วมดำเนินการภายใต้โครงการดังกล่าวมาแล้ว 2 ปี คือ ในปี 2559 รับซื้อผลิตจำนวน 60,000 ตัน ปี 2560 รับซื้อจำนวน 25,000 ตัน ที่ลดลงจากปี 2559 เพราะราคาผลผลิตอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้เกษตรกรมีตัวเลือกในการจำหน่ายมากในตลาดที่หลากหลายขึ้น ส่วนปี 2561 รับซื้อไม่จำกัดจนกว่าจะเพียงพอ และยังมีความต้องการข้าวโพดสำหรับผลิตอาหารสัตว์อีกจำนวนมหาศาล


0368A43B-3538-43FE-BBFE-B33CE963FE1D

สำหรับโครงการสานพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูการทำนา เป็นนโยบายสำคัญที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งหวังที่จะสร้างสมดุลของปริมาณผลผลิตข้าวให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยลดพื้นที่การปลูกข้าวนาปรัง แล้วหันมาปลูกพืชทดแทนที่มีศักยภาพและสามารถบริหารจัดการด้านการตลาดได้ ซึ่งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังมีปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดในประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ยังมีความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์อีกเป็นจำนวนมากล

ทั้งนี้ ในการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกร โครงการได้กำหนดให้มีการทำความตกลงกับผู้รับซื้อและหาตลาดให้แก่เกษตรกร โดยรับซื้อตามมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์ในราคากิโลกรัมละ 8 บาท ที่ความชื้น 14.5% สหกรณ์การเกษตรทำหน้าที่เป็นจุดรวบรวม/รับซื้อผลผลิต และเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งการขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รุ่น 2 จึงพิจารณาจากราคาช่วง ม.ค. – มิ.ย. เป็นหลัก โดยราคาของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น 2 ความชื้น 14.5% ช่วงนี้ของปี 2561 เฉลี่ยอยู่ที่ 8.29 บาท/กิโลกรัม ส่วนต้นทุนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2560/61 อยู่ที่ 4,624.53 บาท/ไร่ อย่างไรก็ตาม ต้นทุน/กก. จะขึ้นอยู่กับผลผลิตที่เกษตรกรผลิตได้ ซึ่งหากผลผลิตมากขึ้นต้นทุนจะลดลง

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก