ปรับเป้าส่งออกปีนี้ โต 9-10%! พาณิชย์ถกทูต-เอกชน ประเมินปี 62 - สรท. คาดโตได้ 5%

18 ต.ค. 2561 | 04:15 น.
เอกชนห่วง "สงครามการค้า-เบร็กซิท" กระทบส่งออกปีหน้า เตรียมข้อมูลแลกเปลี่ยนประชุมทูตพาณิชย์ 56 สำนักงานทั่วโลก 'สนธิรัตน์' คาดประกาศเป้าหมายใหม่ ส่งออกไทยปี 2561 โต 9-10% พร้อมประกาศเป้าปี 2562 ด้าน สรท. คาดโตได้ 5%

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธาน สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
ว่า ในการประชุมร่วมกับทูตพาณิชย์วันที่ 18 ต.ค. นี้ เอกชนได้เตรียมข้อมูลที่จะแลกเปลี่ยนกับทูตพาณิชย์ในแต่ละภูมิภาคเพื่อนำมาวิเคราะห์ร่วมกันถึงสถานการณ์ส่งออกของไทยในเดือนที่เหลือของปีนี้ รวมถึงประเมินทิศทางแนวโน้มปี 2562 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องผลกระทบจากสงครามการค้า ว่า เหตุการณ์เกิดกับประเทศใดบ้าง และเกิดผลอย่างไร และประเทศใดที่ยังมีทิศทางแนวโน้มที่ดีที่ไทยสามารถจะไปเจาะตลาดเพิ่มเติมได้ ซึ่งคาดหวังจะเป็นข้อมูลให้กับภาคเอกชนในการไปประเมินการส่งออกไปยังตลาดนั้น ๆ ในปีหน้าด้วย


TP8-3410-A

"สงครามทางการค้าจะยังคงยืดเยื้อไปจนถึงปีหน้า ซึ่งจะกระทบกับการค้าที่เป็นประเทศคู่ค้าของไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ไทยเป็นซัพพลายเชนที่เราต้องรับมือ ทั้งนี้ สิ่งที่น่ากังวล คือ ความซบเซาของการค้าโลก ซึ่งการที่ประเทศใหญ่ทำสงครามการค้าระหว่างกันจะส่งผลทำให้การค้าของโลกชะลอตัวลง และจะกระทบต่อประเทศคู่ค้าหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อออกไป"

เอกชนยังได้เตรียมเสนอมุมมองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทูตพาณิชย์ในกรณีอังกฤษอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) หรือ เบร็กซิท ว่า จะมีผลดี ผลเสีย ต่อการส่งออกของไทยไปอียูหรืออังกฤษอย่างไร และจะปรับกลยุทธ์อย่างไร รวมถึงอุปสรรคทางการค้าในปีหน้า ที่เอกชนต้องเตรียมความพร้อม และมีสัญญาณอะไรที่ต้องเตือนภาคเอกชนบ้าง ทั้งนี้ สงครามการค้า เบร็กซิท ถือว่าเป็นปัจจัยที่กระทบต่อการส่งออกไทยในปีหน้า

อย่างไรก็ดี นอกจากสงครามการค้าและเบร็กซิท ที่เอกชนมองเป็นปัจจัยเสี่ยงแล้ว ในปีหน้ายังมีปัจจัยเสี่ยงในอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะค่าบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากการไหลกลับเข้ามาของเงินทุนต่างประเทศในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต) ที่มีทิศทางที่แข็งค่าเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา


ส่งออก

นายวิศิษฐ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกต่อการส่งออกของไทยในปีหน้าก็ยังมี เช่น การขยายตัวทางเศรษฐกิจของตลาดที่มีศักยภาพที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ตลาดอาเซียน ตลาดอินเดีย หรือ ตลาดรอง อย่าง รัสเซียและกลุ่มCIS (12) รวมไปถึงกลุ่มประเทศเอเชียที่ได้รับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตของบริษัทที่เป็นห่วงโซ่การผลิตระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ที่ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอัตราที่ค่อนข้างสูง และยังเป็นตลาดเศรษฐกิจใหม่ที่สามารถดึงดูดนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าให้เข้ามาลงทุนได้ ทั้งนี้ เอกชนประเมินการส่งออกไทยปีนี้น่าจะขยายตัวได้ 9% และปีหน้าคาดจะขยายตัวได้ที่ 5%

ด้าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) หรือ ทูตพาณิชย์ จาก 56 สำนักงานทั่วโลก และผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เตรียมข้อมูลในการประเมินสถานการณ์และวางเป้าหมายการส่งออกในปี 2562 รวมถึงวางแผนขยายการค้าการลงทุนไทยในต่างประเทศ ซึ่งจะมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 18 ต.ค. นี้ โดยจะรับฟังการชี้แจงในมิติใหม่ของ สคต. รวมถึงแผนผลักดันการค้าเชิงรุกที่จะนำมาใช้ในการดำเนินการสำหรับปี 2562 ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนธุรกิจการค้าระหว่างประเทศโฉมใหม่ โดยผ่านการรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการส่งออกในปี 2561 ไว้ที่ 8% และคาดว่าหลังจากการประชุมทูตพาณิชย์น่าจะมีการปรับตัวเลขการส่งออกไทยอีกครั้งคาดว่าน่าจะอยู่ที่ 9-10%


หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,410 วันที่ 18 - 20 ตุลาคม 2561

595959859