แกะรอย "เซี่ยงไฮ้ ไทย รับเบอร์ โปรดักส์" พบพิรุธ! ปิดบัญชีงบดุล 2 ปีย้อนหลัง มีเงินสดติดบริษัทแค่ 1 หมื่นบาท พ่วงหนี้เงินกู้หมุนเวียนกว่า 50 ล้าน ยังไม่รวมหนี้ค้างจ่ายเพียบ ไม่มีรายได้เข้าบริษัทเลย พิลึก! เช่าสวนยาง กยท. กว่า 2 หมื่นไร่ วงการฟันธง! นอมินิชัวร์ อัด 'เยี่ยม' เละ ไม่ทำการบ้านโต้มั่ว พรุ่งนี้! "ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ" สัมภาษณ์พิเศษ "กฤษฎา บุญราช" ชาวสวนอย่าพลาด!!
เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา ทำไมจู่ ๆ
"เซี่ยงไฮ้ ไทย รับเบอร์ โปรดักส์" นักลงทุนแดนมังกร กล้าหอบเงินหยวนเข้ามาเช่าพื้นที่การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เป็นบริษัทมาจากไหน มีเงินลงทุนเท่าไร ที่จะมาเช่าพื้นที่เต็มของ กยท. กว่า 2 หมื่นไร่ พิจารณาจากหนังสือที่ส่งถึง นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่บริษัทจะมาขอเช่า 30 ปี พื้นที่ ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังไม่รวมเช่าโรงเลื่อยไม้ยางพารา โรงงานน้ำยางข้น โดยอ้างว่าจะช่วย กยท. ที่มีปัญหาการขาดทุนหรือขาดสภาพคล่องทางการเงินและเพื่อแก้ปัญหาราคายางพาราให้กับเกษตรกรชาวสวนยางทั้งประเทศ
โดยพื้นที่ดังกล่าว
นายยงยุทธ คงสวัสดิ์ กรรมการบริหาร บริษัท เซี่ยงไฮ้ ไทย รับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน ได้แก่ 1.สวนยางพารา 3 ปีแรก จะไม่กรีดยาง จะใส่ปุ๋ยบำรุงดินเต็มที่ เพื่อทำให้ต้นยางฟื้นหรือมีความบริสุทธิ์ เนื่องจากจะสกัดน้ำยางไปทำพวกเวชภัณฑ์ต่าง ๆ เพราะเป็นธุรกิจหลักของบริษัท
ส่วนโซนที่ 2 จะลงทุนก่อสร้างโรงงานงานไฟฟ้า ขนาด 10 เมกะวัตต์ จำนวน 3 โรง มีโรงงานลูกโป่ง โรงงานเฟอร์นิเจอร์ และโรงงานแปรรูปกากอุตสาหกรรม โดยในพื้นที่ดังกล่าวของ กยท. และโซนที่ 3 พื้นที่ 4,400 ไร่ จะจัดทำโครงการอุตสาหกรรมสวนอุตสาหกรรมเกษตรและยางพาราใต้ และโครงการพัฒนาพันธุ์พืชของมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งจะเห็นว่ามี 2 โซน ที่ลงทุนสร้างใหม่
ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามที่จะถามว่า "จะใช้เงินลงทุนเท่าไร?" ก็บ่ายเบี่ยง โดยอ้างว่าจะเจรจากับ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อน ที่คาดว่าจะปิดดีลได้ในวันที่ 17-19 ต.ค. ที่จะถึงนี้
ล่าสุด
"ฐานเศรษฐกิจ" ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท
"เซี่ยงไฮ้ ไทย รับเบอร์ โปรดักส์" เป็นบริษัทที่จดทะเบียนวันที่ 17 ต.ค. 2554 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 361 ซอยอุดมสุข 26 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์ 35 ข้อ แต่ก่อนหน้านี้ บริษัทนี้เดิมชื่อบริษัท โรงพยาบาลมหาสารคามอินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท
"เซี่ยงไฮ้ ไทย รับเบอร์ โปรดักส์" เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2561 มีกรรมการบริษัท 3 คน ประกอบด้วย 1.นายยงยุทธ คงสวัสดิ์ 2.นางสาวอรฤดี เมฑตรง และ 3.พล.ท.ปฐมชัย บุญยเกียรติ
นอกจากนี้ ยังมีผู้ถือหุ้น 16 ราย ประกอบด้วย 1.บริษัท ชินซุนไทย จำกัด จำนวน 7.5 แสนหุ้น 2.บริษัท คชสารพร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด ถือหุ้นจำนวน 7.5 แสนหุ้น 3.บริษัท โกรรับเบอร์ ลาเท็กซ์ จำกัด จำนวน 7.5 แสนหุ้น 4.นายจูเจี้ยนดง จำนวน 2.5 แสนหุ้น 5.นางลิวัลย์ แก้วมณี จำนวน 5 แสนหุ้น 6.นายยงยุทธ คงสวัสดิ์ 5 แสนหุ้น 7.นายหวัง ค้าเหว่ย จำนวน 2.5 แสนหุ้น 8.นายสุวิเชียร ผ่องนัยเลิศ จำนวน 2.5 แสนหุ้น 9.นายประจักษ์ ศรเฉลิม จำนวน 2 แสนหุ้น 10.นายหวู เซิงฟู นักธุรกิจชาวจีน จำนวน 2 แสนหุ้น 11.นายเซีย ฮุยเฉิง นักธุรกิจจีน จำนวน 1 แสนหุ้น 12.นายหลี่ หลิน เป็นนักธุรกิจจีน จำนวน 2.5 แสนหุ้น 13.พล.ท.ปฐมชัย บุญยเกียติ นักธุรกิจ จำนวน 1 แสนหุ้น 14.นายจุลพงศ์ ยศสุนทรากุล จำนวน 5 หมื่นหุ้น และ 15.นายดำรง เรืองแววมณี จำนวน 5 หมื่นหุ้น
จากการตรวจสอบงบดุลทางบัญชี พบว่า ปี 2559 และปี 2560 พบว่า มีเงินสดติดบัญชีแค่ 1 หมื่นบาท และยังมีเงินกู้ระยะสั้นแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกว่า 50 ล้านบาท เงินก้อนนี้คาดว่าจะเป็นเงินกู้ยืมแก่กรรมการ เป็นการให้กู้ยืมกันโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และไม่มีการคิดดอกเบี้ยระหว่างกัน แต่จะจ่ายคืนเมื่อทวงถาม และที่แปลกกว่านั้น บริษัทนี้ไม่มีผลประกอบการธุรกิจที่เป็นรายได้เข้ามาบริษัทเลย
สอดคล้องกับ นายเพิก เลิศวังพง หัวหน้าพรรคยางพาราไทย อดีตกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบข้อมูลก็พบความไม่ชอบมาพากล มองว่าบริษัทนี้เป็นนอมินีจดทะเบียนบริษัทไว้โดยไม่ทำธุรกิจอะไรเลย คาดว่าคงมีการร่วมมือกันหลายฝ่าย ทั้งพลเรือนและทหาร ชักโยงบริษัทนี้เข้ามา น่าจะเป็นคนในที่รู้ดีว่าสถานภาพ กยท. เป็นอย่างไร ส่วนกรณี นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่า กยท. ออกมาแถลงการณ์ว่า ที่ดังกล่าวเป็นที่ของกรมธนารักษ์ ที่ กยท. ใช้ประโยชน์เพื่อวัตถุประสงค์ในการค้นคว้าวิจัย ส่งเสริมการปลูกยางพารา การแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม การสร้างงานให้กับประชาชนในชุมชนท้องถิ่น และรักษาสิ่งแวดล้อม จึงขอให้สาธารณชนได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง และหากมีสิ่งใดที่ไม่ชัดเจนหรือไม่เข้าใจ และเผยแพร่ของ กยท. โดยตรงให้ติดต่อที่ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่
"ผมไม่เข้าใจว่า ผู้ว่าการฯ ใครให้ข้อมูลท่านผิดหรือเปล่า เพราะที่ดินที่จะถูกยึดเป็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งทางกยท. ได้รับหนังสือไว้เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2561 ถ้าหากไม่ส่งเอกสารเพิ่มเติมประกอบขออนุญาตให้ไม่ครบถ้วน 2 รายการ ก็คือ รายงานประชุมที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาองค์การบริหารส่วนตำบลกุแหระและบันทึกยินยอมแก้ไขปัญหาราษฎร ถ้าหาก กยท. ยังประสงค์จะขอใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเพิ่มเติมภายใน 15 วัน (จะครบกำหนดวันที่ 18 ต.ค. 61) ให้ส่งเอกสารให้ครบ ไม่เช่นนั้น ที่ดินผืน จำนวน 4,600 ไร่ จะต้องคืนให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ไป ก็เป็นสิ่งที่แปลก ผ่านมากว่า 45 ปี ทำไมเพิ่งนึกออก ประจวบกับบริษัทดังกล่าวเข้ามาขอเช่าพื้นที่ดังกล่าวนี้โดยอ้างว่าจะนำที่ดินไปลงทุนเพิ่ม จัดทำโครงการสวนอุตสาหกรรมเกษตรและสวนยางพาราใต้ และโครงการพัฒนาพันธุ์พืชของมูลนิธิชัยพัฒนา ดังนั้น เชื่อว่าไม่ชอบมาพากลตั้งแต่แรกแล้ว
วันพรุ่งนี้ (15 ต.ค. 61) ติดตามต่อในรายการ
"ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ" สัมภาษณ์พิเศษ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงเบื้องลึกเบื้องหลัง
"เซี่ยงไฮ้ฯทุนจีน" มีเงินแค่หลักหมื่น ทำไมถึงกล้าที่จะมาเช่าสวนยาง กยท. 2 หมื่นไร่ ติดตามชมได้เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป