สยยท. พบความไม่ชอบมาพากลนายทุนจีน ผ่านบริษัท เซียงไฮ้ไทย รับเบอร์โปรดักส์ ขอเช่าสวนยาง กยท. กว่า 2 หมื่นไร่ ค้านหัวชนฝา "ไม่เห็นด้วย" หวั่น! เล่ห์เหลี่ยมจีนซ่อนกล ... ก.ทรัพย์ฯ ได้ทีขอยึดที่ดินคืน อ้างเอกสารไม่ครบ วงในกังขา 45 ปี ทำไมเพิ่งนึกออก
นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สยยท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า พบความไม่ชอบมาพากลจากที่เห็น บริษัท เซียงไฮ้ ไทย รับเบอร์โปรดักส์ จำกัด ได้ส่งหนังสือถึง นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงวันที่ 19 ก.ย. 2561 โดยมีตราประทับของสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงวันที่ 24 ก.ย. 2561 สาระสำคัญ คือ บริษัทได้ส่งหนังสือเร่งรัดติดตามโครงการพัฒนายางพาราสู่ความยั่งยืน โดยมีความประสงค์ดำเนินการบนพื้นที่ของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ในพื้นที่ ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ระบุ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดทุน หรือ ขาดสภาพคล่องทางการเงินของ กยท. และเพื่อแก้ปัญหาราคายางพาราให้กับเกษตรกรชาวสวนยางทั้งประเทศ จึงจำเป็นต้องขอประกอบกิจการหลาย ๆ ด้านไปพร้อมกัน เพื่อเฉลี่ยการใช้พลังงานร่วมกัน เป็นการลดต้นทุนการผลิต จึงจำเป็นต้องขอเช่าใช้สถานที่ประกอบการบนที่ดินของ กยท. กว่า 2 หมื่นไร่ เป็นระยะเวลา 30 ปี
นอกจากนั้น ยังขอเช่าใช้สถานประกอบการโรงเลื่อยไม้ยางพารา ขอเช่าใช้โรงงานน้ำยางข้น ขอเช่าใช้พื้นที่ 36 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับโรงเลื่อยและโรงงานน้ำยางข้น เพื่อใช้สำหรับก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าขนาด 10 เมกะวัตต์ จำนวน 3 โรง โรงงานลูกโป่ง โรงงานเฟอร์นิเจอร์ และโรงงานแปรรูปกากอุตสาหกรรม อีกด้านหนึ่งจะกันพื้นที่จำนวน 4,400 ไร่ เพื่อจัดทำโครงการสวนอุตสาหกรรมเกษตรและยางพาราใต้ และโครงการพัฒนาพันธุ์พืชของมูลนิธิชัยพัฒนา ลงนามโดย นายยงยุทธ์ คงสวัสดิ์
"สยยท. ขอให้ทบทวนในเรื่องนี้ เพราะมองไม่เห็นว่า คนจีนจะมารักษาเสถียรภาพราคายางพาราได้อย่างไร และอยากให้มองย้อนไปในอดีตว่า หอม กระเทียม ผลไม้ภาคตะวันออก ลำไยภาคเหนือ เกิดอะไรขึ้นกับเกษตรกรที่เชื่อล้งจีน ทำให้อาชีพดังกล่าวแทบสูญพันธ์ุ ยอมรับว่า คนจีนมีอิทธิพลมาก แม้แต่ในอดีตที่ กยท. ได้ทำสัญญาขายยางให้จีน เมื่อราคายางพาราในสต๊อกตกลง ก็เบี้ยวไม่มารับยางตามสัญญา ดังนั้น ขอให้ยกเลิกไม่ต้องไปทำธุรกรรมอะไรอีกเลย บทเรียนในอดีตยังไม่เข็ดหลาบกันอีกหรือ สุดท้ายเราก็เสียเปรียบ เพราะค่าปรับก็ไม่กล้าปรับ กลัวเสียมิตรภาพ ดังนั้น จึงเห็นว่าไม่ควรให้บริษัทดังกล่าวเช่า เพราะเป็นสมบัติของ กยท. ที่ควรจะนำมาดำเนินการเอง"
นายอุทัย กล่าวว่า ได้พบเฟซบุ๊ก ของนายยงยุทธ คงสวัสดิ์ กรรมการบริหาร บริษัท เซียงไฮ้ ไทย รับเบอร์โปรดักส์ จำกัด ได้โพสต์ภาพเป็นรูปหน้าปก ระหว่างรัฐมนตรีเกษตรกับนายยงยุทธ ที่คาดว่าจะพบกันในงาน
"นวัตกรรมยางพาราไทย" Thailand Rubber Innovation Expo 2018 ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 14-16 ก.ย. 2561 ที่จัดโดย สมาคมยางพาราไทย ซึ่งนายกฤษฎาไปเป็นประธานเปิด แล้วคาดว่าจะมีโอกาสได้พูดคุยกัน เนื่องจากมีการถ่ายรูปตอนช่วงเจรจาด้วย ต่อมาทางบริษัทจึงได้ทำหนังสือดังกล่าวมาเพื่อติดตามสอบถามความคืบหน้าถึงเรื่องการขอเช่าพื้นที่ดังกล่าว
อีกด้านหนึ่ง ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครศรีธรรมราช จะขอยึดพื้นที่ดังกล่าวนี้คืน เนื่องจากได้ตรวจสอบแล้วว่า เอกสารพื้นที่ที่ขออนุญาตตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2516 เอกสารยังไม่ครบถ้วน เพราะยังขาดรายงานการประชุมที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาองค์การบริหารส่วนตำบลกุแหระและบันทึกยินยอมแก้ไขปัญหาราษฎร ดังนั้น ขอให้ กยท. ทำเอกสารเพิ่มเติมใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ (ลงวันที่ 3 ต.ค. 61) หากพ้นกำหนดถือว่า กยท. ไม่มีความประสงค์ที่จะเข้าทำประโยชน์ หรือ ที่อยู่อาศัย ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองกรุงหยันแต่อย่างใด จะเห็นว่าระยะเวลากว่า 45 ปีมาแล้ว มติ ครม. รับรอง แล้วทำไมเพิ่งนึกขึ้นได้ เรื่องนี้ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลัง
ผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" โทรสายตรงถึง นายยงยุทธ คงสวัสดิ์ กรรมการบริหาร บริษัท เซียงไฮ้ ไทย รับเบอร์โปรดักส์ จำกัด โดยเจ้าตัวได้กล่าวยืนยันว่า ต้องการเช่าพื้นที่ของ กยท. จริงเต็มพื้นที่ รวมทั้งสวนยางด้วยกว่า 2 หมื่นไร่ โดยใน 3 ปีแรก จะไม่เตะสวนยางเลย เพราะวัตถุประสงค์ต้องการที่จะนำยางพาราไปใช้ส่วนประกอบของเวชภัณฑ์ยาและเครื่องสำอาง เนื่องจากบริษัททำธุรกิจทางนี้โดยตรง ส่วนพื้นที่อื่น ๆ จะลงทุนพื้นอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น จึงได้ทำหนังสือเร่งรัดขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จริง ระบุไว้ในวันที่ 17-19 ต.ค. นี้ แต่ทราบข่าวว่ารัฐมนตรีไม่อยู่ ไปต่างประเทศ คาดว่าได้พบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แทน ส่วนนายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่า กยท. ได้ติดต่อไปแล้ว การลงทุนครั้งนี้บริษัทจำเป็นที่จะต้องใช้บุคลากรของ กยท. เป็นหลัก ต้องเจรจากันก่อนว่าจะลงทุนร่วมกันก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ก็อยากให้สรุปให้เร็วที่สุด