TIGER เคาะราคาขายไอพีโอ 3.65 บ. จองซื้อ 10 ต.ค.และเข้าเทรดmai 24 ต.ค.นี้

09 ต.ค. 2561 | 10:23 น.
TIGER หุ้นรับเหมาน้องใหม่สดใสซาบซ่าส์ เคาะราคาขายไอพีโอ 3.65 บาท/หุ้น เปิดขายระหว่างวันที่ 10-12 ต.ค.นี้ กำหนดฤกษ์ดีเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 24 ตุลาคมนี้ มั่นใจนักลงทุนให้การต้อนรับอย่างท้วมท้น ปัจจัยพื้นฐานแน่นปึ้กพร้อมจุดเด่นเป็นหุ้น High growth- High margin อนาคตโตก้าวกระโดดพร้อมลุยงานรับเหมาภาครัฐรับอีอีซี 3_คุณรัฐชัย_KTBST FA TIGER

นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม สายงานวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TIGER) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 122.28 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม 2561 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 24 ตุลาคม 2561 นี้ ในกลุ่ม “อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง” โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า TIGER

การเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้ บริษัทฯได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย โดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย 4 แห่งประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด / บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) / บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

“การกำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอของ TIGER ที่ 3.65 บาท/หุ้น ถือเป็นระดับราคาที่มีความเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีส่วนลดให้กับนักลงทุนกว่า 30% เมื่อเทียบกับบทวิเคราะห์ โดย TIGER ถือเป็นผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโครงการทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานรับเหมาภาครัฐ งานยากๆอย่างงานก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ทตามเกาะต่างๆ ซึ่งต้องใช้ความชำนาญเฉพาะด้าน ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าแบบปากต่อปาก และใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาเติบโตอย่างโดดเด่น รายได้รวมขยายตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยสูงถึง 30% ต่อปี และที่สำคัญในส่วนของอัตรากำไรขั้นอยู่ในระดับสูงกว่า 16-18% เนื่องจากทีมงานประสบการณ์มายาวนาน ทำให้สามารถบริหารจัดการ และควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด”

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 353.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 91.10 ล้านบาท หรือ 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 58.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน TIGER_14 คุณจตุรงค์ CEO

นายจตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)(TIGER) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (TEC ) กล่าวว่า เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับรองรับแผนขยายธุรกิจ เข้าร่วมประมูลงานภาครัฐ และเข้ารับงานเอกชน ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจของบริษัทในช่วง 3-5 ปี ข้างหน้าเติบโต อีกทั้งยังพร้อมเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐ รองรับการลงทุนของภาครัฐในการวางโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

“การระดมทุนในครั้งนี้ของ TIGER จะใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียน รองรับแผนการประมูลงานภาครัฐ และภาคเอกชนที่มูลค่าสูงขึ้น สร้างโอกาสการเติบโต ผมมั่นใจว่าการเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai ในครั้งนี้ จะเป็นก้าวที่สำคัญของ TIGER เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคต ซึ่งเรามั่นใจว่ามีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากมีฐานทุนที่มากขึ้น ทำให้มีโอกาสรับงานมูลค่าที่สูงขึ้น ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต”นายจตุรงค์ กล่าวในที่สุด