'ซีพีเอฟ' จับมือสถาบันการเงิน ช่วยปลดหนี้พนักงาน

06 ต.ค. 2561 | 03:30 น.
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นสร้างความสุขให้พนักงานในองค์กร คนงานในฟาร์มและโรงงาน พร้อมสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตด้านการเงินที่มั่นคง ขยายความร่วมมือกับสถาบันการเงินช่วยปลดหนี้บัตรเครดิตและหนี้นอกระบบ ต่อยอดส่งเสริมทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายครัวเรือน สร้างวินัยการออมยั่งยืน



0427449A-430C-49C8-B5E4-55D3F34C6C9E

นางจิตภินันท์ รัตนชัยสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านบริหารงานพนักงานสัมพันธ์ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินโครงการ "ปลดหนี้ สร้างสุข ส่งเสริมการออม" มาตั้งแต่ปี 2558 โดยประสานความร่วมมือกับสถาบันการเงินในการเป็นแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษให้พนักงาน คนงานของโรงงานและฟาร์มที่มีภาระหนี้บัตรเครดิตและ/หรือหนี้นอกระบบ ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งพบว่า ปัญหาภาระหนี้ดังกล่าวกระทบต่อความสุขในการทำงาน ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และยังมีผลไปถึงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวพนักงานและคนงานด้วย

ในปีนี้จึงได้ขยายความร่วมมือกับสถาบันการเงินเพิ่มอีก 1 แห่ง คือ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ที่เข้ามาสนับสนุนโครงการปลดหนี้ฯ ทำให้สามารถรองรับพนักงานของบริษัทในกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์อาหารและบริษัทในกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์รวมอีก 47 บริษัท จากปัจจุบันที่ซีพีเอฟประสานความร่วมมืออยู่กับสถาบันการเงิน 3 แห่ง คือ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารธนชาต

"การขยายความร่วมมือกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ช่วยให้พนักงานและคนงานเข้าถึงแหล่งเงินได้ในจำนวนมากกว่าเดิม โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ประจำ 1 หมื่นบาทต่อเดือน นอกจากนี้ เรายังพิจารณาด้วยว่าต้องช่วยแก้ปัญหาและปลดภาระหนี้ให้แก่ผู้กู้ได้จริง" นางจิตภินันท์ กล่าว

ด้าน นายพุทธชาติ ไผ่พุทธ รองกรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจสุกร ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ปี 2561 นี้ บริษัทฯ เน้นทำกิจกรรมหลักในการให้ความรู้ทางการเงินแก่พนักงานและคนงาน เพื่อสนับสนุนการวางแผนการเงินของตัวเอง คือ การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของครัวเรือน และส่งเสริมการออมเงินเพื่อสร้างวินัยทางการเงิน โดยในปีนี้มีเป้าหมายให้คนงานในฟาร์มสายธุรกิจสุกร 50% หรือประมาณ 3,500 ราย ต้องทำบัญชีครัวเรือนได้ จากการติดตามพบว่า ปัจจุบันมีคนงาน 2,454 ราย ที่มีการทำบัญชีครัวเรือนแล้ว โดยมีหัวหน้าหน่วยงานคอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำ นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมามีจำนวนผู้ที่เริ่มออมเงินแล้ว 1,837 ราย เฉลี่ยวงเงินฝากต่อคนต่อเดือนอยู่ที่ 1,260 บาท

สายธุรกิจสุกร ซีพีเอฟ เป็นสายธุรกิจแรกที่ริเริ่ม โครงการ "ปลดหนี้ สร้างสุข ส่งเสริมการออม" มาตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 30 ก.ย. 2561) มีจำนวนฟาร์มและโครงการส่งเสริม (ในสายธุรกิจสุกร) ที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 82 ฟาร์ม/โครงการ มีผู้เข้าร่วมโครงการและผ่านการกู้แล้วรวม 373 ราย จำนวนเงินกู้รวม 42 ล้านบาท เฉลี่ยการกู้ต่อรายประมาณ 112,000 บาท ในจำนวนดังกล่าวชำระหนี้หมดไปแล้ว 87 ราย และในสิ้นปี 2561 นี้ จะมีผู้กู้ที่ชำระหนี้หมดอีก 22 ราย รวมเป็น 109 ราย

หัวหน้าคนงานเล้าคลอดฟาร์มสุกรพนมสารคาม อายุ 54 ปี เข้าร่วมโครงการ "ปลดหนี้ สร้างสุข ส่งเสริมการออม" เนื่องจากมีภาระหนี้บัตรเครดิตและหนี้เงินกู้นอกระบบ เล่าว่า ในช่วงที่ยังไม่ได้เข้าโครงการปลดหนี้ฯ พอถึงเวลาใกล้สิ้นเดือนแต่ละเดือน ก็จะไม่มีสมาธิในการทำงาน เพราะกังวลว่าเงินเดือนจะไม่พอชำระหนี้ แต่หลังจากที่ได้รับอนุมัติให้เข้าโครงการ ชีวิตดีขึ้น มีกำลังใจในการทำงาน มีวินัยทางการเงินมากขึ้น นอกจากสามารถบริหารเงินเพื่อใช้ในแต่ละเดือนเพียงพอแล้ว ยังมีเงินเหลือฝากธนาคาร ทำให้มีเงินออมสะสมไว้อีกก้อนหนึ่งเพื่อเป็นทุนทำมาหากินหลังเกษียณ

แม่บ้านของฟาร์มสุกรพนมสารคาม อายุ 38 ปี เป็นอีกคนหนึ่งที่สมัครเข้าโครงการปลดหนี้ฯ กล่าวว่า เดิมมีหนี้บัตรเครดิตแค่ใบเดียว แต่มีปัญหาต้องใช้เงิน จึงไปกู้ยืมหนี้นอกระบบ ทำให้เป็นหนี้เพิ่มขึ้นอีกทาง จากนั้นก็ไปกู้เงินจากที่อื่นมาอีก เพราะคิดว่าจะนำมาโปะหนี้นอกระบบ แต่กู้มาแล้วไม่สามารถโปะหนี้นอกระบบได้หมด กลายเป็นหนี้ 3 ทาง จึงสมัครเข้าโครงการปลดหนี้ฯ ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยเหลือคนงานได้มาก เพราะตอนที่เป็นหนี้หลาย ๆ ทาง ไม่มีความสุขเลย กังวลว่าจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ ส่งผลต่อการทำงานช้าลง ท้อแท้ ไม่อยากทำงาน แต่พอเข้าโครงการฯแล้ว รู้จักวางแผนการเงินและการทำบัญชีรายรับรายจ่ายของครัวเรือน มีเงินใช้จ่ายพอและยังมีอีกส่วนที่เหลือเก็บออมไว้

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว