"ปลื้ม" เข้าพรรค! อาสา ปชป. สื่อสารการเมืองกับคนรุ่นใหม่
วันนี้ (26 ก.ย. 2561) เมื่อเวลา 10.50 น. นายสุรบถ หลีกภัย บุตรชายนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาที่พรรค โดยก่อนเข้าพบบิดาได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ว่า มีความตั้งใจจะเข้ามาช่วยทำงานให้พรรค ส่วนการจะได้ลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่อยู่ที่การพิจารณาของผู้ใหญ่ แต่อยากจะเข้ามาช่วยในเรื่องของกลุ่มวัยรุ่นและสื่อโซเชียล เพราะมีทีมงานทำเรื่องนี้อยู่แล้ว มั่นใจว่าจะสามารถสื่อสารเรื่องการเมืองกับกลุ่มวัยรุ่นให้เข้าใจง่าย อย่างไรก็ตาม ส่วนของทีมงานวีอาร์โซที่ทำอยู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานของพรรค เพราะเป็นรายการที่ทำเพื่อเยาวชน
ส่วนแนวทางการเมืองยุคใหม่นั้น นายสุรบถ กล่าวว่า จะต้องหยุดความขัดแย้งให้หมดไป ไม่ใช่พูดแบบโลกสวยแต่มีความเป็นไปได้ เราคิดต่างได้ แต่แตกแยกไม่ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องธรรมชาติและมันนานเกินไปแล้ว ควรหยุดได้แล้ว
"ผมมั่นใจว่า ยุคหลังจากนี้ในเวลาอันสั้นเราควรหยุดการแตกแยกนี้ให้ได้ในเร็ววัน เชื่อว่ายุคคนรุ่นใหม่ไม่สนใจอดีต เรามองอนาคตจะก้าวอย่างไรให้มันดีขึ้น ให้ทุกคนมีความสุข การเมืองไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งของบุคคลหรือกลุ่ม แต่ทำอย่างไรให้คนไทยมีความสุข ต้องปล่อยวางบางอย่างและหันหน้ามาคุยอย่างจริงจัง คนรุ่นใหม่ความขัดแย้งไม่รุนแรงเท่าคนรุ่นพ่อรุ่นแม่"
นายสุรบถ กล่าวอีกว่า ตนก็มีเพื่อนที่มีความแตกต่างทางการเมือง แต่ไม่เคยมีปัญหา เพราะคุยกันด้วยเหตุผล และคุยว่าจะทำอย่างไรให้ความขัดแย้งหมดไป ไม่อยากให้คนรุ่นหลังจากนี้ต้องเกลียดกันโดยไม่รู้ว่าเพราะอะไร
ส่วนงานทางการเมืองนั้น นายสุรบถ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับทางพรรคจะมอบหมายให้ทำอะไร เพราะต้องลงสมัครสมาชิกพรรค และคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคที่จะมาดูว่าถนัดด้านไหน แต่มีความตั้งใจอยากจะมาช่วยงานที่ถนัด คือ การพูดคุยกับวัยรุ่นและเด็ก ๆ เพราะเรารู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร และสนใจด้านการศึกษา และการใช้สื่อโซเชียล
เรื่องปัญหาเยาวชนที่มองกันผิวเผิน ถึงยุคที่ต้องคุยกับเขามาก ๆ ไม่เช่นนั้น ก็จะเป็นยุคการเมืองเป็นเรื่องของคนแก่ไปหมด ส่วนเด็ก ๆ ก็เบื่อกับเรื่องทะเลาะกัน ไม่สนใจจนเห็นเป็นเรื่องไกลตัว ต้องให้คนยุคก่อน ๆ กับยุคนี้คุยกันด้วยเหตุด้วยผล แต่ไม่ว่าจะได้ลง ส.ส. หรือไม่ ก็จะทำงานให้พรรค โดยการเข้ามาทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ เราตั้งใจ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำงานทุกอย่าง
ต่อคำถามถึงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายสุรบถ กล่าวว่า ไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค หากให้ความเห็นเกรงจะเป็นการเสียมารยาท รวมถึงจุดยืนทางการเมืองการจับมือระหว่างประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยนั้น เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ในพรรคจะตัดสินใจ
ส่วนแนวทางการเมืองยุคใหม่นั้น นายสุรบถ กล่าวว่า จะต้องหยุดความขัดแย้งให้หมดไป ไม่ใช่พูดแบบโลกสวยแต่มีความเป็นไปได้ เราคิดต่างได้ แต่แตกแยกไม่ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องธรรมชาติและมันนานเกินไปแล้ว ควรหยุดได้แล้ว
"ผมมั่นใจว่า ยุคหลังจากนี้ในเวลาอันสั้นเราควรหยุดการแตกแยกนี้ให้ได้ในเร็ววัน เชื่อว่ายุคคนรุ่นใหม่ไม่สนใจอดีต เรามองอนาคตจะก้าวอย่างไรให้มันดีขึ้น ให้ทุกคนมีความสุข การเมืองไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งของบุคคลหรือกลุ่ม แต่ทำอย่างไรให้คนไทยมีความสุข ต้องปล่อยวางบางอย่างและหันหน้ามาคุยอย่างจริงจัง คนรุ่นใหม่ความขัดแย้งไม่รุนแรงเท่าคนรุ่นพ่อรุ่นแม่"
นายสุรบถ กล่าวอีกว่า ตนก็มีเพื่อนที่มีความแตกต่างทางการเมือง แต่ไม่เคยมีปัญหา เพราะคุยกันด้วยเหตุผล และคุยว่าจะทำอย่างไรให้ความขัดแย้งหมดไป ไม่อยากให้คนรุ่นหลังจากนี้ต้องเกลียดกันโดยไม่รู้ว่าเพราะอะไร
ส่วนงานทางการเมืองนั้น นายสุรบถ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับทางพรรคจะมอบหมายให้ทำอะไร เพราะต้องลงสมัครสมาชิกพรรค และคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคที่จะมาดูว่าถนัดด้านไหน แต่มีความตั้งใจอยากจะมาช่วยงานที่ถนัด คือ การพูดคุยกับวัยรุ่นและเด็ก ๆ เพราะเรารู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร และสนใจด้านการศึกษา และการใช้สื่อโซเชียล
เรื่องปัญหาเยาวชนที่มองกันผิวเผิน ถึงยุคที่ต้องคุยกับเขามาก ๆ ไม่เช่นนั้น ก็จะเป็นยุคการเมืองเป็นเรื่องของคนแก่ไปหมด ส่วนเด็ก ๆ ก็เบื่อกับเรื่องทะเลาะกัน ไม่สนใจจนเห็นเป็นเรื่องไกลตัว ต้องให้คนยุคก่อน ๆ กับยุคนี้คุยกันด้วยเหตุด้วยผล แต่ไม่ว่าจะได้ลง ส.ส. หรือไม่ ก็จะทำงานให้พรรค โดยการเข้ามาทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ เราตั้งใจ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำงานทุกอย่าง
ต่อคำถามถึงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายสุรบถ กล่าวว่า ไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค หากให้ความเห็นเกรงจะเป็นการเสียมารยาท รวมถึงจุดยืนทางการเมืองการจับมือระหว่างประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยนั้น เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ในพรรคจะตัดสินใจ
