มารยาตลาดหุ้น : วอนDSI - ก.ล.ต.อย่าปล่อยให้ อดีตผู้พิพากษาโจรลอยนวล กับคดี EARTH (อีกแล้ว)

โดนไปอีก 1 คดี สำหรับกลุ่มอดีตผู้บริหารและผู้ถือหุ้น “บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ” หรือ EARTH ในกรณีใช้ข้อมูลภายใน หรือ “insider trading” ขายหุ้นของตนเองก่อนข่าวการเบี้ยวหนี้ออกสู่สาธารณะ

โดยผู้ถูกกล่าวโทษ ก็หน้าเดิม ขบวนการเดิม นำโดย 1.ขจรพงศ์ คำดี 2.พิสุทธิ์ พิหเคนทร์ 3.พิพรรธ พิหเคนทร์ 4.ธัญกมล ตริตระการ 5.ธนภร พงศ์ธิติ 6.พิริยะ พิหเคนทร์ 7.พัชวัฏ คุณชยางกูร 8.จิตตเกษม คุณชยางกูร 9.เกษมสัณห์ คุณชยางกูร 10.ลักขณา จันทร์เต็ม และ 11.สุภาภรณ์ สายคำ

และก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน 2561 แกนหลักของแก๊งโจรนี้ก็ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษมาแล้วต่อ “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” หรือ “DSI” กรณียินยอมให้ลงข้อความเท็จหรือไม่ลงข้อความสำคัญในรายละเอียดเกี่ยวกับหนี้สินที่เพิ่มขึ้นจำนวน 26,000 ล้านบาท เพื่อลวงไม่ให้ผู้ลงทุนและเจ้าหนี้รู้รายละเอียดที่แท้จริงของหนี้สิน

แปลง่ายๆ คือขบวนการนี้มีทั้งเรื่อง “ตกแต่งบัญชีหลอกประชาชน”, “เรื่องการใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้นเอาเปรียบประชาชน” และยังมีเรื่อง “สร้างหลักฐานมูลหนี้เทียม” อีก ที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ!!

เรียกได้มั้ยเจ้าคะ ว่า “ขจรพงศ์” และ “พิหเคนทร์” เข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมาย และพ.ร.บ.หลักทรัพย์ แบบแทบจะผิดครบทุกรูปแบบ

ความชั่วช้าเยี่ยงนี้... คนดีๆ ไม่ทำกันเป็นแน่ แผนปล้นประชาชนลักษณะนี้ ไม่ควรปล่อยให้ลอยนวล

น่าเสียดายคือ 2 แกนนำผู้บงการและวางแผน ก.ล.ต. และ DSI ยังสาวไปไม่ถึงตัว ทั้ง “อดีตผู้พิพากษา พ.” และ “ทนายโจรคู่ใจ” “ชื่อเปี๊ยก”

ปัจจุบันทั้งคู่ยังลอยหน้าลอยตา นอนตีพุงอย่างเย็นใจ ในซอยเย็นอากาศ ทั้งๆ ที่แนะนำผู้คนไปติดคุก แต่สุขบนความทุกข์ผู้อื่นคงไม่นานหรอกเจ้าค่ะ บาปกรรมคงตามทัน เพราะแว่วๆ ว่า “DSI” กำลังสาวไส้อดีตผู้พิพากษารายนี้มาลงโทษและให้สังคมประณามเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง!

ส่วนธนาคารกรุงไทย ล่าสุดได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง เกี่ยวกับอุปสรรคที่ทำให้การประมูลขายที่ดินของ “บมจ.กฤษดามหานคร” เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาคดีอาญา จำนวน 1 หมื่นล้านบาท ล่าช้ามาโดยตลอดว่า นับตั้งแต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ศาลฎีกาฯ) มีคำพิพากษา ธนาคารได้เร่งรัดดำเนินการบังคับคดีอย่างเต็มที่และต่อเนื่องในทุกวิถีทาง เพื่อเรียกคืนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับธนาคาร ซึ่งผลจากการทำงานอย่างเต็มที่ ทำให้ธนาคารได้รับชำระค่าความเสียหายบางส่วนในคดีอาญาฯ มาแล้วเป็นจำนวน 1,635 ล้านบาท ในเดือนสิงหาคม 2560 ขณะเดียวกันธนาคารได้เร่งดำเนินการบังคับคดีอย่างเข้มข้น ทำให้มีการประกาศขายทอดตลาดหลักประกันจำนวน 4,300 ไร่

“สำหรับการประกาศขายทอดตลาดหลักประกัน ธนาคารขอยืนยันว่า ได้ดำเนินการและปฏิบัติอย่างเต็มที่โดยรวดเร็วที่สุด ตามขั้นตอนการบังคับคดีอย่างเคร่งครัด ตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อเรียกคืนความเสียหายให้กับธนาคาร” ... ทราบแล้วเปลี่ยนเจ้าค่ะ