จี้เคลียร์ 5 ปม "จำนำยุ้งฉาง" !! สหกรณ์ขู่รวมพลทวงถามรัฐ- "ข้าวจีทูจีจีน" ใกล้สรุป

16 ก.ย. 2561 | 05:58 น.
สหกรณ์คาใจ 5 ปม "จำนำยุ้งฉาง" ซ่อนปมทำสับสน เตรียมรวมพลยื่นหนังสือรัฐเคลียร์ให้ชัดเจน ก่อนจำนำรอบใหม่ ขณะส่งออกข้าวไทยไม่กังวลจีนยื่น WTO ควํ่าบาตรสหรัฐฯ มั่นใจไม่กระทบซื้อข้าวจีทูจีไทย-จีน

แหล่งข่าวจากสหกรณ์/สถาบันผู้รวบรวมข้าว เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
ถึงโครงการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2561/2562 ที่จะเริ่มในเดือน พ.ย. นี้ ว่า ต้องการให้รัฐบาลชี้แจงทำความเข้าใจใน 5 เรื่องคือ 1.เรื่องสิทธิ์ในการครอบครองข้าวเปลือก จะต้องชัดเจนว่าข้าวเปลือกยังคงเป็นสิทธิ์ของเกษตรกรหรือเป็นสิทธิ์ของสถาบันเกษตรกร เนื่องจากสถาบันเกษตรกรได้ซื้อขาดจากเกษตรกรแล้ว จึงนำมาจำนำในนามสถาบันเกษตรกรโดยใช้รายชื่อเกษตรกรมาเป็นเอกสารประกอบใช่หรือไม่อย่างไร เพราะมีข้อกล่าวหาจากชาวนาเรื่องการสวมสิทธิ์ 2.เรื่องการมาไถ่ถอนของเกษตรกรในปีที่ผ่านมา มีการรับจำนำในนามสถาบันเกษตรกรในราคาที่รัฐประกาศจำนำ ต่อมาราคาตลาดได้ขึ้นไปถึง 17,000 กว่าบาทต่อตัน (ข้าวเปลือกหอมมะลิ) ส่วนต่างราคานี้เกษตรกรได้รับประโยชน์หรือไม่ และเกษตรกรได้มีการมาไถ่ถอนออกไปหรือไม่ หรือสถาบันขายออกไปแล้วรับส่วนต่างของราคาเอง


TP8-3401-A


3.การที่สถาบันใช้เงินจากโครงการรวบรวมข้าวเปลือกอัตราดอกเบี้ย 1% เพื่อรับซื้อข้าวเปลือกในราคาตลาดแล้วนำข้าวมาจำนำนั้น จะใช้สิทธิ์ของเกษตรกรหรือใช้สิทธิ์ของสถาบันฯ ในการเอามาจำนำ หรือต้องใช้รายชื่อเกษตรกรประกอบ และการทำเช่นนี้หมายถึงอะไร 4.กรณีที่ราคาขึ้นสถาบันฯ สามารถทำกำไรเข้าสู่สถาบันฯ และเมื่อราคาลงรัฐก็นำมาประมูลหรือขายออก ดังนั้น สถาบันฯ จึงไม่ต้องรับความเสี่ยงในด้านราคาใช่หรือไม่ และ 5.ในกรณีเก็บข้าวเปลือกที่รับมา/ซื้อมา หรือรับจำนำ ต่อมามีการเก็บรักษาไม่ดี ทำให้คุณภาพข้าวตํ่ากว่าตอนที่รับซื้อเข้ามาหรือจำนวนขาดหายไปนั้น เป็นหลักสากลที่ผู้รับฝากจะต้องรับผิดชอบถูกต้องหรือไม่ หรือว่ารัฐจะต้องรับผิดชอบ ในเร็ว ๆ นี้ อาจจะรวมตัวกันยื่นหนังสือเพื่อถามความชัดเจนจากภาครัฐ

ด้าน นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยถึงความคืบหน้าการซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ไทย-จีน งวด 1 แสนตัน ที่ 6 ตามสัญญา ทั้งสิ้น 1 ล้านตัน ว่า ล่าสุดใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว โดยราคาข้าวขาว (5%) ที่จีนจะซื้อครั้งนี้ คาดจะอยู่ที่ประมาณ 430 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ส่วนกรณีที่จีนได้เตรียมยื่นขออนุมัติองค์การการค้าโลก (WTO) ในสัปดาห์หน้า เพื่อขอให้ควํ่าบาตรต่อสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ข้อพิพาททางการค้าระหว่าง 2 ประเทศ มีแนวโน้มลุกลามและขยายวงกว้างคงไม่มีผลกระทบต่อการซื้อขายครั้งนี้


ข้าว


"ตลาดส่งออกข้าวไทยยังสดใสจากหลายปัจจัย อาทิ พายุเข้าฟิลิปปินส์ หากมีความเสียหายมาก โอกาสที่ไทยจะขายข้าวได้เพิ่มก็มีสูง เช่นเดียวกับอินโดนีเซียได้ส่งสัญญาณมาตั้งแต่ต้นปี ว่าจะมีการนำเข้าข้าวประมาณ 3 ล้านตัน (ตั้งแต่ต้นปี - 13 ก.ย. 2561 นำเข้าไปแล้ว 2 ล้านตัน ยังเหลือ 1 ล้านตัน) ซึ่งในตอนแรกเขาจะเปิดประมูลประมาณเดือน ก.ย. แต่ตอนนี้เงียบไปจากค่าเงินรูเปียเขาอ่อนมาก คงต้องลุ้นกันต่อไป"

ด้าน แหล่งข่าวคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) รายงานผลการขยายตลาดข้าวไทย 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.การซื้อขายแบบจีทูจี มี 2 สัญญา คือ การส่งมอบข้าวให้จีนงวดที่ 6 ปริมาณ 1 แสนตัน และฟิลิปปินส์ ที่ไทยชนะการประมูลขายข้าวขาว 25% แบบจีทูจีให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ ปริมาณ 1.2 แสนตัน ส่งมอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว 2.การซื้อขายข้าวของภาคเอกชน เอกชนไทยชนะการประมูลขายข้าวหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ได้ทยอยส่งมอบไปแล้วรวม 2.8 แสนตัน


หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,401 วันที่ 16-19 กันยายน 2561


23626556