‘AGE’รุกโลจิสติกส์ สร้างกองเรือปั๊มรายได้โตก้าวกระโดด

13 ก.ย. 2561 | 05:19 น.
 

AGE เผยรับรู้รายได้โลจิสติกส์ปีนี้ 400 ล้าน เพิ่มเป็น 1 พันล้านปีหน้า หลังเพิ่มกองเรือจาก 12 เป็น24 ลำ ด้านยอดขายถ่านหินบุกตลาดเวียดนามเต็มสูบปีนี้ยอดขายรวมพุ่งแตะ 7.5 พันล้าน เติบโต 30%
จากสถิติในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยนำเข้าถ่านหินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปีละ 20.9 ล้านตัน เพิ่มเป็น 22.2 ล้านตันในปี 2560 ที่ผ่านมา และในรอบ 2 เดือนแรกของปีนี้มีการนำเข้าถ่านหิน 12.3 ล้านตันเทียบกับ 11.6 ล้านตันในงวดเดียวกันของปีก่อน

บริษัท เอเชียกรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ประกอบธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายถ่านหินสะอาด เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศ และต่างประเทศให้กับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อาทิ โรงงานผลิตปูนซีิเมนต์ และโรงไฟฟ้า และมีระบบบริหารจัดการการขนส่ง (Logistics) ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านปริมาณของสินค้าที่ถูกต้องและการส่งมอบตรงเวลา

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร AGE  ให้ความเห็นกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปกติไทยนำเข้าถ่านหินปีละประมาณ 21 ล้านตัน แต่ครึ่งปีแรกปีนี้นำเข้ามาแล้ว 12 ล้านตัน คาดว่าปีนี้ยอดนำเข้ารวมจะขึ้นไปถึง 24-25 ล้านตัน สาเหตุเนื่องจากมีการขยายกำลังการผลิตปูนซีีิเมนต์ และโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มขึ้น

[caption id="attachment_316268" align="aligncenter" width="308"] พนม ควรสถาพร พนม ควรสถาพร[/caption]

ในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 7,500 ล้านบาท จากปี 2560 ที่มีรายได้กว่า 5,900 ล้านบาท หรือเติบโตเกือบ 30% โดยคาดว่ายอดขายถ่านหินของบริษัทปีนี้จะขายได้ 3 ล้านตัน ขายในประเทศ 80% และส่งออก 20% ไปเวียดนาม, กัมพูชาและจีน

นายพนมกล่าวว่า ถึงแม้ในไทยจะไม่มีโรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดใหม่ แต่บริษัทก็หาโอกาสในการขยายธุรกิจไปสู่ประเทศเวียดนาม ซึ่งมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงปีละกว่า 7% มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ในปี 2558 เวียดนามมีโรงไฟฟ้าถ่านหิน 10,000 MW คาดว่าในปี 2573 เวียดนามมีโรงไฟฟ้าเพิ่มเป็น 75,000 MW จะนำเข้าถ่านหินรวม 100 ล้านตันต่อปี โดยโรงไฟฟ้าขนาด 1,000 MW จะใช้ถ่านหินปีละ 2-3 ล้านตัน

AGE ได้ไปตั้งบริษัท VINA AGE CO., LTD ในประเทศเวียดนาม เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายถ่านหิน เพื่อขยายตลาดในเวียดนาม คาดว่าในปีนี้จะขายถ่านหินไปเวียดนาม 3 แสนตัน และเพิ่มเป็น 7 แสน-1 ล้านตันในปีหน้า อัตราการเติบโตสูงมาก ในอนาคตการขายถ่านหินในเวียดนามจะเป็นสัดส่วนที่สูงมากกว่าในไทย ดูได้จากการเพิ่มของโรงไฟฟ้า สำหรับประเทศจีน และกัมพูชา คาดว่าในปีนี้จะมียอดขาย 2 แสนตัน และ 1 แสนตันตามลำดับ

สำหรับการลงทุนในประเทศไทยก็ไม่ได้ชะลอลง ในปีนี้บริษัทลงทุนเพิ่มโรงคัดแยกแห่งที่ 4 จากปัจจุบันที่มี 3 โรง เนื่องจากเต็มกำลังการผลิต ลงทุนขยายคลังเก็บถ่านหินจาก 100 ไร่เป็น 300 ไร่ ทั้งซื้อที่ดิน ปรับปรุงลานถ่านหิน ลงทุนไป 200-300 ล้านบาท นอกจากนี้ยังลงทุนซื้อเรือในธุรกิจโลจิสติกส์อีก 200 ล้านบาท รวมแล้วปีนี้ลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท

นายพนมกล่าวถึงธุรกิจโลจิสติกส์ ว่าในปี 2561 เริ่มดำเนินการแล้ว มีจำนวนเรือ 12 ลำในขณะนี้ คาดว่าจะมีรายได้ 400 ล้านบาท โดยในปี 2562 จะเพิ่มจำนวนเรือเป็น 24 ลำ และคาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มเป็น 800-1,000 ล้านบาท

“เรามีท่าเรือ มีเรือ มีรถ รับขนส่งถ่านหินให้ลูกค้า รับขนส่งปูนซีเมนต์ของลูกค้ามาขึ้นเรือ ทั้งลูกค้า ทั้งคู่แข่งก็ว่าจ้างเราขนส่งให้ นอกจากเรือที่ซื้อเอง ก็ยังมีเรือที่เช่ามาให้บริการในด้านนี้ กำไรขั้นต้นในธุรกิจนี้ดีมาก จะช่วยให้ Net Profit Margin เราเพิ่มขึ้น”

นายพนมกล่าวว่า ธุรกิจโลจิสติกส์สามารถให้บริการทั้งถ่านหิน ปูนซีิเมนต์ ยิปซั่ม และในอนาคตก็สามารถขยายไปถึง
พืชผลทางการเกษตรได้ แต่ปัจจุบันก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า จึงต้องเร่งขยายเพิ่มขึ้นในปีหน้า

“ไม่ต้องกังวลว่าธุรกิจถ่านหินจะไม่เติบโต ในช่วง 2-3 ปีนี้ AGE จะยังโตต่อเนื่องปีละ 20-30% ตอนนี้คุณสมบัติของ AGE สามารถย้ายจากตลาดเอ็มเอไอไปตลาดหลักทรัพย์ฯได้แล้ว เราคงพิจารณาเรื่องนี้กันปลายปี”

หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,400 วันที่ 13-15 กันยายน 2561