… ต่อจากฉบับก่อน และเรื่องของ
"ผู้พิพากษา พ." ผู้พิพากษารุ่นใหญ่ท่านหนึ่งที่ริคิดเป็น
"โจรในคราบตุลาการ" ร่วมวางแผนสร้างหนี้เทียมเอาเปรียบเจ้าหนี้ตัวจริงอย่างโจ่งแจ้ง
การสร้างหนี้เทียม แปลว่าอะไร? ทำอย่างไร? ทำเพื่ออะไรนั้น? หลายท่านอาจยังสงสัย
การสร้างหนี้เทียม คือ การที่ผู้บริหารบริษัททำให้บริษัทมีหนี้สินเพิ่มแบบกำปั้นทุบดิน เช่น ยอมรับค่าเสียหาย หรือ ค่าเสียโอกาสต่าง ๆ แบบหน้าด้าน ๆ โดยเจ้าหนี้เหล่านั้นเป็นกลุ่มพวกของตน ... ในกรณีของ EARTH หนี้ที่มีข้อกังขา ได้แก่
● บริษัท เทียนเจิน โบไท จงซิง เทรดดิ้ง จำกัด ส่วนนี้ประเมินกัน(เองโดย EARTH) ว่าอาจจะสูงถึง 12,600 ล้านบาท
● บริษัท เจียงซู กวางรับ เทรดดิ้ง จำกัด ส่วนนี้ก็ประเมินกันเอง(โดย EARTH อีก) ว่าน่าจะสูงถึง 11,200 ล้านบาท (โดยทั้งคู่นี้มีการบันทึกข้อตกลงสัญญาที่จะให้ความร่วมมือในการสนับสนุนบริษัทย่อยในการจัดหาถ่านหินให้)
นายหลิน ตง ไห่ คาดว่า EARTH มีหนี้ที่เป็นภาระผูกพันกับเจ้าหนี้รายนี้ ประมาณ 2,975 ล้านบาท โดยนายหลิน ตง ไห่ ได้ตกลงให้ความร่วมมือในการติดต่อกับโรงไฟฟ้าในจีนเพื่อหาแหล่งทุนในการขยายกิจการ
ทั้งหมดนี้ คือ หนี้ที่ประเมินเองโดย EARTH (บริษัทลูกหนี้) ทั้งสิ้น และบริษัทเหล่านี้มีความสนิทชิดเชื้อแบบแทบจะเป็นน้ำเดียวกันกับกลุ่มผู้บริหาร EARTH โดยเฉพาะ
"ขจรพงศ์ คำดี"
และจากข้อมูลที่ดิฉันได้รับ เจ้าหนี้กลุ่มนี้ของ EARTH ยังใช้ทนายกลุ่มเดียวกันที่จัดหาโดย
"ผู้พิพากษา พ." แม้แต่เวลาไปคัดเอกสารสำคัญจากหน่วยงานรัฐก็ใช้คนคนเดียวกัน!
จุดประสงค์ของการสร้างหนี้เทียมในกรณีนี้ เป็นไปเพื่อผลักดันบริษัทเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพราะเงื่อนไขของการเข้าฟื้นฟู คือ ต้องมีสภาพหนี้สินล้นพ้นตัว!! และ
"ท่านผู้พิพากษา พ." ระบุว่า
"นี่คือถิ่นผม ผมสามารถประสานได้อย่างเบ็ดเสร็จตั้งแต่หัวถึงหาง คนที่นั่งอยู่ก็คนของผม" จากตามคลิปเสียงที่แหล่งข่าวมี
ตามแผนชั่ว … หลังจากได้สิทธิ์เรียกร้องจากหนี้เทียมก้อนนี้ ก็เปรียบดั่งบริษัทลูกหนี้มีเจ้าหนี้ที่เป็นพวกของตน และในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงกำหนดทิศทางบริษัท อำนาจจะถูกโยนกลับมาสู่เจ้าหนี้ ตามมูลหนี้ที่มี
หลังตัวเลขหนี้ทั้งหมดของบริษัทได้ข้อยุติ เจ้าหนี้จะสามารถลงคะแนนเสียงเลือกผู้บริหารแผนฟื้นฟูได้ คล้าย ๆ กับผู้ถือหุ้นมีสิทธิ์เลือกกรรมการได้!
แปลว่า เมื่อมีหนี้เทียมเป็นสิทธิ์ของกลุ่มตน ตนเองสามารถจะเลือกตนเองมาบริหารแผนฟื้นฟูได้ หรือ เลือกกลุ่มตนเองกลับมาบริหารบริษัท
หลังจากนั้นก็สามารถเลือกให้กลุ่มตนเองได้รับการชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้ตัวจริง ซึ่งกรณี EARTH นี้คือ
"ธนาคารกรุงไทย" กับมูลหนี้ 1.2 หมื่นล้านบาท!!
นอกจากนี้ ยังสามารถแปลงหนี้เป็นทุนกลับมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทได้อีกครั้ง!!
"ผู้พิพากษา พ." ในภาพจำของสังคม คือ ครูบาอาจารย์ ผู้มีลูกศิษย์ลูกหาเยอะและเขียนหนังสือมากมาย ... แต่ลับหลังทำตัวเสมือน
"หัวหน้าโจร" บิดเบือนความเป็นธรรม กดขี่ผู้คน ปล้นผลประโยชน์ชาติ ดั่งพวก
"ทรราช"
"ผู้พิพากษา พ." คือ ผู้เสพความตายของเจ้าหนี้และนักลงทุนไทย แลกมาซึ่งผลประโยชน์มหาศาลจากโจรใส่สูต โดยช่วงที่ ผู้พิพากษา พ. เจริญรุ่งเรืองที่สุด คือ ช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่มากมายเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ
เงิน หุ้น และผลประโยชน์ที่
"ผู้พิพากษา พ." เก็บได้ ก็มักใส่อยู่ในชื่อลูกสาวของเมียที่ 1 ชื่อย่อ อ. ที่
"บล. IV Global" ...
หลังจากนั้นก็สูตรเดิม
นำเงินสินบนเหล่านั้นไปฟอกโดยการซื้อที่ดินและสร้างโรงแรม โดย
"ผู้พิพากษา พ." มักใส่ไว้ในชื่อเมีย ๆ ทั้งหลาย แต่เพราะบาปบุญมีจริง โรงแรมย่านเขาหลักก็ถูกสึนามิถล่มก่อนทำประกันไม่กี่วันและโรงแรมริมปิง ตำบลป่าแดด เมืองเชียงใหม่ ก็ถูกเมียที่ 2 ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ศาลยึดไป หลังเลิกราแบบไม่เผาผี
ยังคงเหลือก็แค่คอนโดฯ ที่อยู่ปัจจุบัน ซึ่งได้มาจากกลุ่มอดีตผู้ถือหุ้นแสนสิริและเนเชอรัล พาร์ค ช่วงปี 2542-2544 ภายหลังจากได้ให้ความช่วยเหลือในการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท
หาก
"ก.ล.ต." หรือ
"DSI" หรือ
"กรรมการตุลาการ" ต้องการข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับ ผู้พิพากษา พ. นี่กรุณาอย่าช้าในการประสานงานกับกอง บ.ก. นะเจ้าคะ ... ก่อนเกียรติภูมิของตุลาการจะมัวหมอง เพราะระบบที่ดีอาจมีปลาเน่าอยู่ 1-2 ตัวก็เป็นได้
ฉบับต่อไป ดิฉันจะขอใช้พื้นที่บทความเจาะเรื่องนี้ต่อไปแบบไม่ยำเกรงต่อภัยทมิฬ เพื่อเปิดเผยถึงพฤติกรรมชั่วช้า แผนอนาคต ผลงานในอดีตและเครือข่ายทั้งหมดของ
"ผู้พิพากษา พ."
……………….
คอลัมน์ : มารยาตลาดหุ้น โดย คุณนายเผือก
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,340 วันที่ 13-15 ก.ย. 2561 หน้า 17
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● มารยาตลาดหุ้น :
หนี้เน่าหมื่นล้าน Earth กับแผนปล้นแบงก์กรุงไทย และ“ผู้พิพากษา พ.”
● มารยาตลาดหุ้น :
บทบาทผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ เมื่อเพื่อนสนิทเป็นขโมย