"สมคิด" ปาฐกถาพิเศษ หนุน 'ทีเส็บ' ขับเคลื่อนองค์กร

11 ก.ย. 2561 | 09:12 น.
รองนายกฯ "สมคิด" ปาฐกถาพิเศษ หนุน 'ทีเส็บ' ฉวยจังหวะภาวะเศรษฐกิจกำลังเติบโต จาก 4 ปัจจัยสำคัญ เร่งหาพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ขับเคลื่อนองค์กรและตลาดไมซ์



re_IMG_6647


ในการจัดงาน "Thailand MICE Forum 2018 ,Redefining Our Industry" โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2561 เพื่อเป็นเวทีในการแถลงผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2561 ตลอดจนเป็นเวทีในการนำเสนอแผนกลยุทธ์การส่งเสริมธุรกิจไมซ์ในปีงบประมาณ 2562 ซึ่งภายในงานนี้ ทางทีเส็บได้เชิญ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มาปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "ประเทศไทย แรงขับเคลื่อนใหม่แห่งเศรษฐกิจเอเชีย Thailand the New Driving Force of Asian Economy"



re_IMG_7940


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทีเส็บ หรือ สสปน. ถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญ ในภาวะเศรษฐกิจกำลังเติบโต ถือช่วงจังหวะและโอกาสที่จะพัฒนาองค์กรให้สามารถขับเคลื่อนไปข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีปัจจัยสำคัญ ดังนี้

1.เศรษฐกิจอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัวเข้มแข็งในทุกมิติ โดยในครึ่งปีแรก GDP โต 4.8% เป็นการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพต่อเนื่อง จากตัวชี้วัดทุกดัชนี มีการเติบโตทุกภาคส่วน อาทิ การส่งออก การบริโภค การจับจ่ายของรัฐบาล รวมทั้งการท่องเที่ยวภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าเศรษฐกิจปี 2562 ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น จะขยายตัวมากกว่าปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น เป็นจังหวะและโอกาสของ สสปน. ที่จะต้องเร่งหาพันธมิตรธุรกิจทั้งในประเทศและพันธมิตรต่างประเทศ

2.ประเทศไทยกำลังเป็นจุดสนใจของการค้าการลงทุนของอนุภูมิภาค เราทราบดีว่า ปีที่ผ่านมาความเจริญและศูนย์กลางเศรษฐกิจ shift มาที่ ASEAN ในขณะที่ USA และ EU เบาบางลง ขณะที่ ASEAN รุ่งโรจน์ ประเทศไทยจะเป็นยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจแน่นอน ทั้งในตลาดซัพพลายเชนและตลาดแรงงาน ประเทศไทยเป็นจุดตัดระหว่างเหนือ ใต้  ตะวันออก และตะวันตก ถ้าเราสามารถสร้างเส้นทางรถไฟออกไปสู่ พม่า ลาว ไทยก็จะเป็นจุดศูนย์กลางของกลุ่ม CLMV จาก GDP Growth ของกลุ่ม CLMV ที่เติบโตถึง 4-5% ในระดับ ASEAN ทำให้แถบนี้เป็นแหล่งความเจริญ บริษัทใหญ่ ๆ ที่มาลงทุนในไทย มาตั้งต้นเพื่อเป็นศูนย์กลางกระจายไปยังประเทศเพื่อนบ้านรอบข้าง ขณะนี้ ประเทศไทยมี Macro-Economic Data ที่เข้มแข็ง มีโครงการในอนาคตที่เริ่มมาแล้ว 2-3 ปี จังหวะแบบนี้เป็นช่วงที่ สสปน. ควรฉวยโอกาสเพื่อสร้างความร่วมมือและก้าวไปข้างหน้า

3.การเปลี่ยนแปลง การพัฒนาตนเองไม่ให้เศรษฐกิจทรุด เปลี่ยนแปลงโครงสร้างเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโต  EEC กำลังเกิดขึ้น ปลายปีจะเปิดประมูลรถไฟเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ไทยจะกลายเป็น Port ที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคแห่งนี้ เป็นทางเข้าและทางออกของการผลิตสู่ CLMVT ถ้าเราทำสำเร็จจะไม่ใช่แค่การลงทุน แต่จะเป็นแหล่งศูนย์การผลิตกระจายการส่งออกไปทั่วโลก สิ่งที่สำคัญที่สุดเป็นการต่อยอดแหลมฉบังและอีสเทิร์นซีบอร์ด และเป็นแหล่งรองรับอุตสาหกรรมในอนาคต ด้านการเกษตร การเกษตรแปรรูป รถยนต์เปลี่ยนเป็นฐานผลิตสู่รถยนต์แห่งอนาคต เป็นต้น

4.ที่สำคัญที่สุดบทบาทการเมืองระหว่างประเทศของไทย อย่าทำตัวเป็นคนตัวเล็ก ต้องทำตัวให้มีความหมาย มีความสำคัญ ดังเช่นที่สิงคโปร์ทำสำเร็จมาแล้ว ที่ดันตัวเองเป็นศูนย์การจัดงานทุกประเภท ประเทศไทยในขณะนี้อยู่ในจุดที่มีปัจจัยหนุนทุกด้าน หากปี 2562 หากมีการเลือกตั้งทุกอย่างจะก้าวไปสู่จุดที่ดีทีเดียว โอกาสนี้ สสปน. จงร่วมกับทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวง วางแผนร่วมมือ เปิดแนวรุกก้าวไปข้างหน้า สร้างกิจกรรมขึ้นมา สร้างพันธมิตรให้มากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ



129659
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว