บีเอ็มดับเบิลยู เล็งเปิดX1ดีเซล ชู330 e ปลั๊กอินบุกมอเตอร์โชว์

17 ก.พ. 2559 | 07:00 น.
บีเอ็มฯเตรียมเปิดตัว 330 e ปลั้กอินไฮบริด พร้อม ใหม่ ในงานมอเตอร์โชว์ สุดปลื้มทั้งกรุ๊ป โกยยยอดขายทะลุหมื่นคัน ชี้บิ๊กไบค์โตพรวด 83 % ทุ่มกว่า 220 ล้านผุดคลังอะไหล่ย่านเทพารักษ์

นายแมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และรถจักรยานยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทย เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จในด้านเทคโนโลยีและยนตรกรรมแห่งความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 บริษัทจะเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 330e ปลั๊กอินไฮบริดต่อเนื่องจากการเริ่มเปิดตัวเทคโนโลยีในระบบนี้ ด้วยรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i8 เมื่อปี 2557 และบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e ในปี 2558 นับเป็นปีที่ 3 ที่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยได้นำเสนอเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเพื่อนำพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาสู่ถนนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

"นอกจากนี้ เรายังได้เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X1sDrive1.8d ใหม่ ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของบีเอ็มดับเบิลยู X1 มาพร้อมเครื่องยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ ดีเซล 4 สูบรุ่นใหม่ล่าสุด 1,995 ซีซี 150 แรงม้า ให้อัตราสิ้นเปลืองเชิ้อเพลิงเพียง 21.3 กิโลเมตร/ลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 125 กรัม/กิโลเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบSteptronic Sport 8 สปีด พร้อมกันนี้ ยังเปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู M2 คูเป้ เครื่องยนต์ เอ็ม ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ 3.0 ลิตร 370 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชม. ที่ 4.3 วินาที และมีอัตราความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชม. ควบคุมด้วยเกียร์อัตโนมัติ M แบบคลัตช์คู่ 7 จังหวะ ตอบสนองการขับขี่แบบรถแข่งได้ในทุกจังหวะและในทุกย่านความดร็ว รวมทั้ง มินิ คอนเวอร์ทิเบิล รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งเปิดตัวสู่สายตาแฟนมินิทั่วโลกในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์เมื่อเดือนตุลาคม 2558 "

นายพฟาลซ์ กล่าวต่อไปว่า ปี 2558นับเป็นอีกปีแห่งประวัติศาสตร์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ด้วยยอดขายที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันโดยมียอดขายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 7,751 คันเพิ่มขึ้น 4 % เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมินิที่มียอดจำหน่ายผ่านสี่หลักเป็นครั้งแรกด้วยจำนวน 1,017 คัน เพิ่มขึ้น 10 % แสดงให้เห็นถึงความต้องการในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิรุ่นต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับยอดขายของรถจักรยานยนต์ หรือ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ก็ได้สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขายรวมทั้งสิ้น 1,280 คัน เพิ่มขึ้นถึง 83 % เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นับเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ซึ่งคิดเป็น 4 เท่าของอัตราการเติบโตของตลาดบิ๊กไบค์โดยประมาณทั้งหมด

"การเติบโตของบีเอ็มดับเบิลยู ในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อรถยนต์รุ่นต่างๆ ของบีเอ็มดับเบิลยูที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientDynamicsและ BMW Service Inclusive ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าของเรา และยังสร้างความมั่นใจในสมรรถนะด้านความประหยัดพลังงานสูงสุด บริษัทจึงขยายการรับประกันบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง นอกจากนี้ มินิ ประเทศไทย ยังได้จัดแคมเปญพิเศษที่จะนำคนรักมินิผู้โชคดีบินตรงสู่ลอนดอน เยี่ยมชม MINI Plant Oxford สถานที่เกิดของรถมินิทั่วโลก และเป็นคนกลุ่มแรกที่จะได้ชมการเปิดตัวรถมินิแห่งอนาคตสุดเอ็กซ์คลูซีฟอีกด้วยเพื่อเป็นของขวัญในโอกาสครบรอบ 100 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั่วโลกในปี 2559 นี้"

นาย พฟาลซ์ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงกลางปี 2559 นี้ บริษัทจะใช้เงินลงทุนกว่า 220 ล้านบาท ย้ายคลังอะไหล่ไปยังถนนบางนา–ตราด ภายในนิคมอุตสาหกรรมเทพารักษ์ โดยจะขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1.4 หมื่นตารางเมตร รองรับการเก็บอะไหล่กว่า 4 หมื่นรายการ และเพิ่มจำนวนการส่งอะไหล่ได้กว่า 2,000 ไลน์ต่อวัน ส่งเสริมให้การบริการด้านลอจิสติกส์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังขยายศูนย์บริการบีเอ็มดับเบิลยูแห่งใหม่ 2 แห่ง มินิ 2 แห่ง ในภูเก็ตและหาดใหญ่ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 2 แห่ง ในภูเก็ตและพิษณุโลก

ในปี 2558 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปด้วยการสร้างสถิติใหม่เฉลิมฉลองความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจที่จะครบรอบ 100 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั่วโลก ในเดือนมีนาคม 2559 ที่จะถึงนี้ ด้วยยอดขายสูงสุดทั่วโลกมากกว่า 2.2ล้านคัน รวมรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิและโรลส์-รอยซ์ ที่ส่งมอบให้แก่ลูกค้าทั้งสิ้น2,247,485คัน นับเป็นยอดขายที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของกรุ๊ป ส่งผลให้มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วที่ 6.1เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป รักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมของโลกได้ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 11

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,131 วันที่ 14 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559